พ่อผู้กล้าหาญ ปกป้องลูกสุดชีวิตจนเจ็บหนัก กะโหลกแตก-คอร้าว แต่รอดปาฏิหาริย์

         พ่อลูกสองชาวออสเตรเลีย วัย 42 ปี ถูกหามส่งโรงพยาบาล หลังพยายามปกป้องลูกชายจนได้รับบาดเจ็บหนัก กะโหลกแตก ซี่โครงหัก และกระดูกคอร้าว แต่รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์


        เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ที่ผ่านมา ครอบครัวของแบรดไปพักผ่อนที่บ้านเพื่อนสนิทของเขา ตั้งอยู่ในย่านเชิร์ชพอยท์ นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยขณะที่อยู่ภายในบ้าน แบรดกับออสการ์เล่นปืนเนิร์ฟ (Nerf Gun) อยู่บนชั้น 2 ออสการ์ยิงมาทางพ่อแต่ยิงไม่ถูก กระสุนผ่านระเบียงออกไปและตกลงไปชั้นล่าง ออสการ์วิ่งตามจะไปดูกระสุนดังกล่าว แต่เขาเกิดลื่น แบรดรีบวิ่งเข้าคว้าตัวลูกเอาไว้ ผลคือพวกเขาตกระเบียงลงไปทั้งคู่ แบรดกอดลูกชายเอาไว้กับอก พลิกเอาหลังลงและกระแทกกับพื้นเบื้องล่าง

        เพื่อนของแบรดเล่าย้อนถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นว่า ตอนเกิดเหตุเป็นตอนที่ครอบครัวกำลังรวมตัวกินข้าวกันอยู่ เขารีบวิ่งออกไปดูแบรดและต้องประคองกะโหลกศีรษะที่เลือดท่วมเอาไว้ ขณะรอเจ้าหน้าที่รถพยาบาลเข้ามาช่วยเหลือ

        และประโยคแรกที่แบรดพูดออกมาหลังจากอุบัติเหตุก็คือ "เด็ก ๆ เป็นไงบ้าง อย่าให้เด็ก ๆ เห็นฉันในสภาพนี้นะ อย่าให้ฉันตายนะพวก"

        ครอบครัวของแบรด ได้เปิดระดมทุนบนเว็บไซต์ Gofundme เพื่อหาเงินสนับสนุนค่ารักษาพยาบาลให้กับเขา โดย ซูซ ภรรยาของแบรด กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ออสการ์กะโหลกศีรษะร้าว และฟกช้ำ แต่ขณะนี้เขาดีขึ้นมากจนสามารถไปโรงเรียนได้แล้ว ส่วนแบรด ถึงแม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นกะโหลกแตก แต่เขารอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ตอนนี้เขาฟื้นแล้ว เดินได้ พูดคุยได้ และกลับมาพักฟื้นต่อที่บ้านได้แล้ว แบรดเข้มแข็งและมีกำลังใจที่ดีมาก ลูก ๆ ต่างก็ดีใจที่ได้เห็นพ่อกลับมาบ้านได้แล้ว