7 ชีวิตหนีตาย ปม โกรัตน์ นักธุรกิจขู่ฆ่าภรรยาและครอบครัว กลับมาอยู่ในความดูแลของตำรวจนครศรีธรรมราช พ่อตาโล่งศาลไม่ให้ประกันตัวถูกคุมตัวส่งเรือนจำ
โดยนายสำเร็จ กุลคง อายุ 79 ปี พ่อตา ได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดปากพนัง พร้อมกับพนักงานสอบสวน และทนายความ เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดปากพนังคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าอาจเกิดความไม่ปลอดภัยกับครอบครัว ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนได้ยื่นคัดค้านการประกันตัวด้วย
ทั้งนี้ศาลจังหวัดปากพนัง
ได้พิจารณาคำร้องขอประกันตัวของนายวิรัตน์
ซึ่งได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 2 แสนบาท แต่ศาลได้พิจารณายกคำร้องขอประกันตัว ส่งผลให้นายวิรัตน์
ถูกควบคุมตัวส่งเข้าเรือนจำปากพนังทันที
ข้อมููลจาก สำนักข่าว INN
จากกรณีที่นายวิรัตน์ สุขแสง หรือ โกรัตน์ อายุ 45 ปี
นักธุรกิจส่งออกส้มโอทับทิมสยามรายใหญ่ ก่อเหตุทำร้ายร่างกายภรรยา
และขู่ฆ่ายกครัวพ่อตา และลูก ในท้องที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช รวม 7
ชีวิตต้องหนีตายไปขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง
ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้แล้ว
เกี่ยวกับเรื่องนี้
วันที่ 28 สิงหาคม 2561 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช
นายทหารได้นำตัวผู้เสียหายทั้ง 7 คน คือ ภรรยาของนายวิรัตน์ พร้อมด้วยลูก ๆ
และพ่อตา-แม่ยาย มาอยู่ในความดูแลของ พล.ต.ต. วันไชย เอกพรพิชญ์
ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช หลังจากที่ทั้ง 7 คนได้เริ่มผ่อนคลายความหวาดกลัว
เนื่องจากโกรัตน์ ถูกจับกุมไว้ได้
โดยนายสำเร็จ กุลคง อายุ 79 ปี พ่อตา ได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดปากพนัง พร้อมกับพนักงานสอบสวน และทนายความ เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดปากพนังคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าอาจเกิดความไม่ปลอดภัยกับครอบครัว ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนได้ยื่นคัดค้านการประกันตัวด้วย
ด้าน
พล.ต.ต. วันไชย กล่าวว่า ขณะนี้ทั้งพนักงานสอบสวนและฝ่ายผู้เสียหายได้เข้ายื่นคำร้องคัดค้านการประกันตัวนายวิรัตน์
ต่อศาลจังหวัดปากพนังแล้ว
ซึ่งต้องรอผลการพิจารณาของศาลว่าจะมีดุลยพินิจอย่างไร
ในส่วนของการตรวจสารเสพติดนั้นได้ส่งเลือดไปพิสูจน์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อหาสารเสพติด
และวานนี้มีการตรวจปัสสาวะด้วยชุดทดสอบ เบื้องต้นนั้นไม่พบผลบวก
ยังคงต้องรอผลทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ในการตรวจเลือด