มึนตึ้บไปตามกัน ครูสั่งการบ้านลูก นับข้าว 100 ล้านเม็ด ให้เวลา 2 วัน ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เอามาส่งด้วย ทำผู้ปกครองงงหนัก วิจารณ์สนั่นทำไมให้การบ้านแบบนี้ จะเสร็จทันได้ไง
ขึ้นชื่อว่าการบ้านแล้วไม่ว่าเด็กคนไหนก็คงไม่ค่อยปลื้มกันสักเท่าไรนัก เพราะในใจก็คงแอบอยากเอาเวลาหลังเลิกเรียนไปวิ่งเล่นตามประสา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำการบ้านนั้นเป็นหนึ่งในการทบทวนบทเรียน ที่ทำให้เด็กได้ใช้เวลาคิดวิเคราะห์พัฒนาสมองไปในตัว แต่ถึงอย่างนั้นกลุ่มผู้ปกครองของเด็กชั้น ป.5 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศจีน มีอันต้องอึ้งหนักไปตาม ๆ กันเมื่อได้รู้ว่าลูกถูกครูสั่งการบ้านสุดโหด นั่นคือการใช้ให้กลับไปนับเม็ดข้าว 100 ล้านเม็ด ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ให้นำมาส่งให้ครบตอนวันจันทร์
เรื่องดังกล่าวได้เรียกเสียงวิจารณ์กันสนั่น ต่างก็สงสัยว่าครูจะสั่งการบ้านเด็กแบบนี้ไปเพื่ออะไร มันจะโหดเกินไปหรือไม่ และต้องใช้เวลานานแค่ไหนกันกว่าจะนับข้าวได้ครบ เรื่องดังกล่าวก็ได้กลายมาเป็นข่าวดังไปทั่วอินเทอร์เน็ต โดยบางคนถึงกับออกมาคำนวณคร่าว ๆ ว่าถ้าเราใช้เวลา 1 วินาที นับข้าวได้ 3 เม็ด งั้นก็คงต้องใช้เวลาเป็นปี กว่าจะทำการบ้านชิ้นนี้ได้สำเร็จ !
จากการรายงานของเว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2561 เปิดเผยว่า การบ้านสุดประหลาดนี้เป็นคำสั่งของครูสอนคณิตศาสตร์ ของโรงเรียนประถมในเมืองโฝซาน มณฑลกวางตุ้ง แต่แม้ผู้ปกครองจะมองว่ามันเป็นการบ้านที่ไร้สาระ เด็กไม่มีทางทำได้ในเวลาแค่ 2 วัน แต่หลังจากตกเป็นที่วิจารณ์หนัก ครูแซ่ซู ผู้ให้การบ้านดังกล่าวก็ได้ออกมาให้เหตุผลว่า การบ้านที่เธอสั่งไปนั้น มีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เด็ก ๆ รู้จักใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ และแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ยังจะทำให้พวกเขาได้เข้าใจถึงคอนเซ็ปต์การคำนวณต่างหาก
โดย China Xinhua News ได้เผยถึงคำพูดของครูท่านนี้ว่า "ที่จริงแล้ว ฉันไม่ได้คิดว่าเด็กนักเรียนจะใช้วิธีนับข้าวทีละเม็ด แต่ฉันคิดว่าพวกเขาจะนับไปให้ครบ 100 เม็ด จากนั้นจึงค่อยใช้หลักการคูณที่ฉันสอนไป ทำความเข้าใจว่าถ้าเม็ดข้าว 100 เม็ดนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้น 10 เท่า หรือ 100 เท่า มันจะเป็นอย่างไร"
ทั้งนี้แม้ว่าเดิมทีผู้ปกครองจะคิดว่ามันเป็นการบ้านที่ไม่มีวันทำได้สำเร็จ แต่เชื่อหรือไม่ว่า มีเด็กถึง 10 จาก 40 คนทีเดียว ที่สามารถทำการบ้านชิ้นนี้ได้สำเร็จ ด้วยวิธีการนับข้าวแบบต่าง ๆ เช่นใช้ถ้วยตักหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ทำให้คุณครูพอใจมาก
"การบ้านพิเศษชิ้นนี้ช่วยให้นักเรียนพัฒนาความสามารถในการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้ และฉันก็ชอบที่จะให้เด็ก ๆ เรียนรู้ด้วยการฝึกปฏิบัติมากกว่าการท่องจำแบบนกแก้วนกขุนทอง" คุณครูกล่าว
ขึ้นชื่อว่าการบ้านแล้วไม่ว่าเด็กคนไหนก็คงไม่ค่อยปลื้มกันสักเท่าไรนัก เพราะในใจก็คงแอบอยากเอาเวลาหลังเลิกเรียนไปวิ่งเล่นตามประสา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำการบ้านนั้นเป็นหนึ่งในการทบทวนบทเรียน ที่ทำให้เด็กได้ใช้เวลาคิดวิเคราะห์พัฒนาสมองไปในตัว แต่ถึงอย่างนั้นกลุ่มผู้ปกครองของเด็กชั้น ป.5 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศจีน มีอันต้องอึ้งหนักไปตาม ๆ กันเมื่อได้รู้ว่าลูกถูกครูสั่งการบ้านสุดโหด นั่นคือการใช้ให้กลับไปนับเม็ดข้าว 100 ล้านเม็ด ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ให้นำมาส่งให้ครบตอนวันจันทร์
เรื่องดังกล่าวได้เรียกเสียงวิจารณ์กันสนั่น ต่างก็สงสัยว่าครูจะสั่งการบ้านเด็กแบบนี้ไปเพื่ออะไร มันจะโหดเกินไปหรือไม่ และต้องใช้เวลานานแค่ไหนกันกว่าจะนับข้าวได้ครบ เรื่องดังกล่าวก็ได้กลายมาเป็นข่าวดังไปทั่วอินเทอร์เน็ต โดยบางคนถึงกับออกมาคำนวณคร่าว ๆ ว่าถ้าเราใช้เวลา 1 วินาที นับข้าวได้ 3 เม็ด งั้นก็คงต้องใช้เวลาเป็นปี กว่าจะทำการบ้านชิ้นนี้ได้สำเร็จ !
จากการรายงานของเว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2561 เปิดเผยว่า การบ้านสุดประหลาดนี้เป็นคำสั่งของครูสอนคณิตศาสตร์ ของโรงเรียนประถมในเมืองโฝซาน มณฑลกวางตุ้ง แต่แม้ผู้ปกครองจะมองว่ามันเป็นการบ้านที่ไร้สาระ เด็กไม่มีทางทำได้ในเวลาแค่ 2 วัน แต่หลังจากตกเป็นที่วิจารณ์หนัก ครูแซ่ซู ผู้ให้การบ้านดังกล่าวก็ได้ออกมาให้เหตุผลว่า การบ้านที่เธอสั่งไปนั้น มีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เด็ก ๆ รู้จักใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ และแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ยังจะทำให้พวกเขาได้เข้าใจถึงคอนเซ็ปต์การคำนวณต่างหาก
โดย China Xinhua News ได้เผยถึงคำพูดของครูท่านนี้ว่า "ที่จริงแล้ว ฉันไม่ได้คิดว่าเด็กนักเรียนจะใช้วิธีนับข้าวทีละเม็ด แต่ฉันคิดว่าพวกเขาจะนับไปให้ครบ 100 เม็ด จากนั้นจึงค่อยใช้หลักการคูณที่ฉันสอนไป ทำความเข้าใจว่าถ้าเม็ดข้าว 100 เม็ดนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้น 10 เท่า หรือ 100 เท่า มันจะเป็นอย่างไร"
ทั้งนี้แม้ว่าเดิมทีผู้ปกครองจะคิดว่ามันเป็นการบ้านที่ไม่มีวันทำได้สำเร็จ แต่เชื่อหรือไม่ว่า มีเด็กถึง 10 จาก 40 คนทีเดียว ที่สามารถทำการบ้านชิ้นนี้ได้สำเร็จ ด้วยวิธีการนับข้าวแบบต่าง ๆ เช่นใช้ถ้วยตักหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ทำให้คุณครูพอใจมาก
"การบ้านพิเศษชิ้นนี้ช่วยให้นักเรียนพัฒนาความสามารถในการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้ และฉันก็ชอบที่จะให้เด็ก ๆ เรียนรู้ด้วยการฝึกปฏิบัติมากกว่าการท่องจำแบบนกแก้วนกขุนทอง" คุณครูกล่าว