มโนไม่หยุด #บอยสกล อวดคนข้างบ้านว่าไปเรียนต่อเมืองนอก ด้านแม่บ้านคอนโดได้ยิน โวเรียนจบแล้ว เตรียมไปทำงานต่างประเทศ ขณะที่เพื่อนเล่าเหตุการณ์ บอยโดนจับได้อย่างไร หลังตีเนียนมาเรียนจุฬาฯ เชื่อบอยป่วยโรคจินตนาการ ขอสังคมให้โอกาส
เรื่องมโนไว้ใจ #บอยสกล หลังตีเนียนเป็นนิสิตจุฬาฯ สร้างเรื่องราวโกหกไว้มากมาย กระทั่งโดนแฉจนกลายเป็นข่าวโด่งดัง ซึ่งเพื่อนสนิทก็ได้เอ่ยปากเตือนสตินายสกล ให้ออกมาเผชิญความจริง ซึ่งเชื่อว่าเพื่อน ๆ และสังคมพร้อมที่จะให้อภัย (อ่านข่าว : เพื่อนสนิท #บอยสกล เตือนสติ ขอให้ออกมาพูดความจริง เชื่อสังคมให้อภัย)
ล่าสุด (13 กันยายน 2561) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี เผยความมโนไม่หยุดของ #บอยสกล รายงานว่า เพื่อนบ้านของนายสกลที่ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า นายสกลอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก บ้านหลังนี้มีย่าของนายสกลอยู่เท่านั้น ส่วนพ่อแม่ย้ายไปอยู่ที่อื่น นายสกลเป็นคนน่ารัก หน้าตาดี ไม่เกเร แต่ก็ไม่ได้สนิทกันมาก ส่วนย่าของนายสกลก็ไม่เคยคุยด้วย เพราะย่าเขาทำอาชีพขับรถสองแถว กว่าจะกลับบ้านก็ช่วงเย็นแล้ว
ขณะที่เพื่อนบ้านอีกราย เล่าว่า ก่อนจะเป็นข่าวดัง นายสกลกลับมาที่บ้านเมื่อช่วง 10 วันก่อน ซึ่งบอกกับตนว่าจะเดินทางไปเรียนต่างประเทศ และเมื่อตนเห็นข่าวก็ตกใจ เพราะคิดว่านายสกลเป็นคนดี ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุเช่นนี้ อีกทั้งย่าเขาก็มีฐานะดี
ด้านแม่บ้านของคอนโดมิเนียม แถวสามย่าม ที่นายสกลเช่าไว้ เผยว่า ตนเจอกับนายสกลครั้งสุดท้ายเมื่อ 3-4 เดือนที่ผ่านมา นายสกลแต่งตัวดูมีฐานะ มาพร้อมกับเพื่อน ซึ่งตนได้ยินคุยกับเพื่อนที่ล็อบบี้ว่า นายสกลเรียนจบแล้ว และกำลังเตรียมตัวไปทำงานต่างประเทศ เพราะแม่ทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ ทั้งนี้ เด็กที่พักอยู่ที่นี่ส่วนใหญ่เป็นคนมีฐานะ และที่ผ่านมาไม่เคยเห็นพ่อแม่นายสกลแวะมาหาลูกเลย
ด้านนายอู๋ (นามสมมติ) เพื่อนที่เคยร่วมค่ายกิจกรรมกับนายสกล เปิดเผยว่า ตนเคยเห็นความดีของบอย ตอนที่เพื่อนป่วยไม่สบายขณะทำกิจกรรมค่าย แต่บอยอาสาไปส่งที่โรงพยาบาล และบอยก็ยังมีด้านดีอีกมากมาย จึงอยากขอสังคมให้โอกาสเขาพิสูจน์ตัวเอง ตนเชื่อว่านายสกลป่วยเป็นโรคจินตนาการเอง ทำให้เขาทำอย่างนี้ เขาควรได้รับการรักษาและพิสูจน์ว่าป่วยหรือไม่ แต่หากไม่ป่วยก็ควรได้รับโทษทางกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ตนไม่เคยเห็นบอยมีแฟนหรือคบหากับใครในเชิงชู้สาว
ส่วนสาเหตุที่บอยโดนจับได้เรื่องแฝงมาเรียนจุฬาฯ เป็นเพราะเขามาชวนให้ตนไปเปิดค่ายด้วยกัน ซึ่งเป็นค่ายเกี่ยวกับฟุตบอล เพื่อช่วยเหลือและให้โอกาสเด็กต่างจังหวัด ตนจึงทำกิจกรรมค่ายขึ้นมา 1 ฉบับ เพื่อเสนอสภานักศึกษา แต่บอยอ้างว่าต้องการจัดค่ายเอง ไม่อยากเสนอเรื่องให้มีกระบวนการยุ่งยาก บอยจึงอาสาเขียนร่างเองและจัดทำกรรมการค่ายเองทั้งหมด จนมีการตรวจสอบพบว่ารหัสนักศึกษาที่บอยใช้เป็นรายชื่อของศิษย์เก่าที่จบไปแล้ว เมื่อปี 2555-2556 แต่บอยดึงชื่อมาใช้และปลอมรหัสเป็นปี 2557-2558 จึงมีการขุดคุ้ยจนเป็นเรื่องโด่งดัง
![บอยสกล]( "บอยสกล")
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
เรื่องมโนไว้ใจ #บอยสกล หลังตีเนียนเป็นนิสิตจุฬาฯ สร้างเรื่องราวโกหกไว้มากมาย กระทั่งโดนแฉจนกลายเป็นข่าวโด่งดัง ซึ่งเพื่อนสนิทก็ได้เอ่ยปากเตือนสตินายสกล ให้ออกมาเผชิญความจริง ซึ่งเชื่อว่าเพื่อน ๆ และสังคมพร้อมที่จะให้อภัย (อ่านข่าว : เพื่อนสนิท #บอยสกล เตือนสติ ขอให้ออกมาพูดความจริง เชื่อสังคมให้อภัย)
ล่าสุด (13 กันยายน 2561) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี เผยความมโนไม่หยุดของ #บอยสกล รายงานว่า เพื่อนบ้านของนายสกลที่ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า นายสกลอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก บ้านหลังนี้มีย่าของนายสกลอยู่เท่านั้น ส่วนพ่อแม่ย้ายไปอยู่ที่อื่น นายสกลเป็นคนน่ารัก หน้าตาดี ไม่เกเร แต่ก็ไม่ได้สนิทกันมาก ส่วนย่าของนายสกลก็ไม่เคยคุยด้วย เพราะย่าเขาทำอาชีพขับรถสองแถว กว่าจะกลับบ้านก็ช่วงเย็นแล้ว
ขณะที่เพื่อนบ้านอีกราย เล่าว่า ก่อนจะเป็นข่าวดัง นายสกลกลับมาที่บ้านเมื่อช่วง 10 วันก่อน ซึ่งบอกกับตนว่าจะเดินทางไปเรียนต่างประเทศ และเมื่อตนเห็นข่าวก็ตกใจ เพราะคิดว่านายสกลเป็นคนดี ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุเช่นนี้ อีกทั้งย่าเขาก็มีฐานะดี
ด้านแม่บ้านของคอนโดมิเนียม แถวสามย่าม ที่นายสกลเช่าไว้ เผยว่า ตนเจอกับนายสกลครั้งสุดท้ายเมื่อ 3-4 เดือนที่ผ่านมา นายสกลแต่งตัวดูมีฐานะ มาพร้อมกับเพื่อน ซึ่งตนได้ยินคุยกับเพื่อนที่ล็อบบี้ว่า นายสกลเรียนจบแล้ว และกำลังเตรียมตัวไปทำงานต่างประเทศ เพราะแม่ทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ ทั้งนี้ เด็กที่พักอยู่ที่นี่ส่วนใหญ่เป็นคนมีฐานะ และที่ผ่านมาไม่เคยเห็นพ่อแม่นายสกลแวะมาหาลูกเลย
ด้านนายอู๋ (นามสมมติ) เพื่อนที่เคยร่วมค่ายกิจกรรมกับนายสกล เปิดเผยว่า ตนเคยเห็นความดีของบอย ตอนที่เพื่อนป่วยไม่สบายขณะทำกิจกรรมค่าย แต่บอยอาสาไปส่งที่โรงพยาบาล และบอยก็ยังมีด้านดีอีกมากมาย จึงอยากขอสังคมให้โอกาสเขาพิสูจน์ตัวเอง ตนเชื่อว่านายสกลป่วยเป็นโรคจินตนาการเอง ทำให้เขาทำอย่างนี้ เขาควรได้รับการรักษาและพิสูจน์ว่าป่วยหรือไม่ แต่หากไม่ป่วยก็ควรได้รับโทษทางกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ตนไม่เคยเห็นบอยมีแฟนหรือคบหากับใครในเชิงชู้สาว
ส่วนสาเหตุที่บอยโดนจับได้เรื่องแฝงมาเรียนจุฬาฯ เป็นเพราะเขามาชวนให้ตนไปเปิดค่ายด้วยกัน ซึ่งเป็นค่ายเกี่ยวกับฟุตบอล เพื่อช่วยเหลือและให้โอกาสเด็กต่างจังหวัด ตนจึงทำกิจกรรมค่ายขึ้นมา 1 ฉบับ เพื่อเสนอสภานักศึกษา แต่บอยอ้างว่าต้องการจัดค่ายเอง ไม่อยากเสนอเรื่องให้มีกระบวนการยุ่งยาก บอยจึงอาสาเขียนร่างเองและจัดทำกรรมการค่ายเองทั้งหมด จนมีการตรวจสอบพบว่ารหัสนักศึกษาที่บอยใช้เป็นรายชื่อของศิษย์เก่าที่จบไปแล้ว เมื่อปี 2555-2556 แต่บอยดึงชื่อมาใช้และปลอมรหัสเป็นปี 2557-2558 จึงมีการขุดคุ้ยจนเป็นเรื่องโด่งดัง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
