เห็นแก่ได้ วัวถูกหมาบ้ากัดตาย เจ้าของเสียดายชำแหละเนื้อขาย ชาวบ้านเอาไปกินมีอาการคล้ายโดนพิษสุนัขบ้า ด้าน อธิบดีปศุสัตว์ สั่งเอาผิดเจ้าของวัว
จากกรณีที่เว็บไซต์เวิร์คพอยท์นิวส์ รายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังจากรับประทานเนื้อวัวที่ตายเพราะโรคพิษสุนัขบ้า หลังถูกสุนัขกัดตายในพื้นที่หมู่ 1 ต.นาเรียง อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเย็นวันที่ 13 กันยายน 2561 ทราบว่า เนื้อดังกล่าวเป็นวัวของนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งใน อ.พรหมคีรี ที่ถูกสุนัขกัดตาย แต่เกิดเสียดายจึงชำแหละวัวที่ตาย นำเนื้อและเครื่องในมาขายในราคาถูก ทั้งใน อ.เมือง และ อ.พรหมคีรี โดยเจ้าของวัวไม่เชื่อฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ให้ฝังกลบทำลายซาก
ล่าสุดวันที่ 16 กันยายน 2561 เว็บไซต์เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า ได้สั่งการให้ปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราช แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของวัวแล้ว ตามความผิด พ.ร.บ.ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ ในข้อหา จำหน่ายสัตว์ตายโดยไม่ได้ถูกฆ่า และไม่ได้ตรวจโรคโดยพนักงานตรวจโรคสัตว์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับตามรายตัวสัตว์ วัว หรือกระบือ ตัวละไม่เกิน 5 หมื่นบาท และโทษฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน มีโทษจำคุก 1-2 ปี ปรับ 1-2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้หลังจากที่ได้รับแจ้งว่าวัวป่วย มีอาการซึม น้ำลายไหลยืด และถ่ายเหลวเป็นเลือด เจ้าหน้าที่ได้รักษาจนวัวตัวดังกล่าวตาย เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา
![วัวติดพิษสุนัขบ้า]( "วัวติดพิษสุนัขบ้า")
ภาพจาก สำนักข่าว INN
![วัวติดพิษสุนัขบ้า]( "วัวติดพิษสุนัขบ้า")
ภาพจาก สำนักข่าว INN
![วัวติดพิษสุนัขบ้า]( "วัวติดพิษสุนัขบ้า")
ภาพจาก สำนักข่าว INN
, 
จากกรณีที่เว็บไซต์เวิร์คพอยท์นิวส์ รายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังจากรับประทานเนื้อวัวที่ตายเพราะโรคพิษสุนัขบ้า หลังถูกสุนัขกัดตายในพื้นที่หมู่ 1 ต.นาเรียง อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเย็นวันที่ 13 กันยายน 2561 ทราบว่า เนื้อดังกล่าวเป็นวัวของนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งใน อ.พรหมคีรี ที่ถูกสุนัขกัดตาย แต่เกิดเสียดายจึงชำแหละวัวที่ตาย นำเนื้อและเครื่องในมาขายในราคาถูก ทั้งใน อ.เมือง และ อ.พรหมคีรี โดยเจ้าของวัวไม่เชื่อฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ให้ฝังกลบทำลายซาก
ล่าสุดวันที่ 16 กันยายน 2561 เว็บไซต์เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า ได้สั่งการให้ปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราช แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของวัวแล้ว ตามความผิด พ.ร.บ.ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ ในข้อหา จำหน่ายสัตว์ตายโดยไม่ได้ถูกฆ่า และไม่ได้ตรวจโรคโดยพนักงานตรวจโรคสัตว์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับตามรายตัวสัตว์ วัว หรือกระบือ ตัวละไม่เกิน 5 หมื่นบาท และโทษฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน มีโทษจำคุก 1-2 ปี ปรับ 1-2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้หลังจากที่ได้รับแจ้งว่าวัวป่วย มีอาการซึม น้ำลายไหลยืด และถ่ายเหลวเป็นเลือด เจ้าหน้าที่ได้รักษาจนวัวตัวดังกล่าวตาย เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา
โดยเจ้าของวัวได้ทำการผ่าซาก และปศุสัตว์อำเภอพรหมคีรีได้ทำการเข้าไปตรวจสอบ พบม้ามมีลักษณะดำคล้ำ บริเวณลำไส้มีจุดเลือดออก ร่วมกับอาการจากการซักประวัติ สงสัยว่าติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า จึงได้ทำการเก็บซากหัวส่งมายังสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมให้คำแนะนำและกำชับเจ้าของว่าให้ทำการฝังซาก ห้ามนำมารับประทาน และตรวจสอบจนพบผลบวกต่อเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า
ด้านนายวิรัตน์ รักษ์พันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายแพทย์ไพศาล เกื้ออรุณ สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายสัตวแพทย์ธนวัฒน์ พันธุ์สนิท ปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แถลงการณ์ติดตามเรื่องนี้หลังจากที่กลายเป็นข่าวสร้างความหวาดผวาอย่างมากและยืนยันว่าไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อพิษสุนัขบ้าในคน
นายแพทย์ไพศาล เปิดเผยว่า ได้มีการติดตามกลุ่มเสี่ยงโดยได้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ซึ่งเกี่ยวข้องอยู่ใน อ.พรหมคีรี อ.เมือง และ อ.นบพิตำ จึงได้มีการติดตามคือ กลุ่มที่สัมผัสวัวก่อนที่วัวจะตายคือสัมผัสมาก่อน, กลุ่มชำแหละสัมผัสโดยตรง และกลุ่มที่สัมผัสเนื้อวัวและมีการนำมาปรุงอาหาร ทั้ง 3 กลุ่มนี้ถูกติดตามมาฉีดวัคซีนโดยที่ไม่ได้มีอาการใด ๆ ทั้งหมด 116 คน รับวัคซีนหมดแล้วยังคงเหลืออีก 8 คนที่อยู่ในระหว่างการติดตาม และย้ำว่าไม่มีใครมีการแสดงอาการติดเชื้อ
นายแพทย์ไพศาล เปิดเผยว่า ได้มีการติดตามกลุ่มเสี่ยงโดยได้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ซึ่งเกี่ยวข้องอยู่ใน อ.พรหมคีรี อ.เมือง และ อ.นบพิตำ จึงได้มีการติดตามคือ กลุ่มที่สัมผัสวัวก่อนที่วัวจะตายคือสัมผัสมาก่อน, กลุ่มชำแหละสัมผัสโดยตรง และกลุ่มที่สัมผัสเนื้อวัวและมีการนำมาปรุงอาหาร ทั้ง 3 กลุ่มนี้ถูกติดตามมาฉีดวัคซีนโดยที่ไม่ได้มีอาการใด ๆ ทั้งหมด 116 คน รับวัคซีนหมดแล้วยังคงเหลืออีก 8 คนที่อยู่ในระหว่างการติดตาม และย้ำว่าไม่มีใครมีการแสดงอาการติดเชื้อ
ภาพจาก สำนักข่าว INN
ภาพจาก สำนักข่าว INN
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, 
