ควาญช้างเปิดปาก ไม่ใช่เจ้าของ พลายนำโชค แต่เช่ามาจาก จ.สุรินทร์ พาเดินเร่หาเงินวันละ 6 ชม. ด้านตำรวจแจ้ง 4 ข้อหาหนัก
ภาพจาก Workpoint News
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2561 ข่าวเวิร์คพอยท์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้อนุญาตให้เจ้าของและผู้ดูแลช้างตัวนี้นำซากช้างจาก อบต.บางพลีใหญ่ เคลื่อนย้ายขึ้นรถบรรทุกหกล้อเดินทางกลับไป อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ เพื่อประกอบพิธีกรรมตามประเพณีของช้างตามความเชื่อ จากนั้นจึงฝังกลบตามกฎระเบียบที่วางไว้ โดยได้นิมนต์ พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ หรือ พระครูแจ้ รองเจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ทำพิธีทอดผ้าบังสุกุลและสวดอุทิศบุญกุศลให้กับพลายนำโชคแล้ว
ด้าน ร.ต.อ. นพพร แสงสว่าง รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี เจ้าของคดี ระบุว่า เบื้องต้นได้ตั้ง 4 ข้อหา แก่ควาญช้างทั้งสองคน ประกอบด้วย ข้อหาเคลื่อนย้ายสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต, ความผิดการทารุณกรรมสัตว์, ความผิดในฐานนำสัตว์มาทำงานเกินควร และข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.ทางหลวง ในข้อหานำสัตว์มาเดินทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก Workpoint News
จากกรณีเกิดเหตุ พลายนำโชค เดินตกท่อในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ก่อนจะล้มในเวลาต่อมา ซึ่งมีคนระบุว่า ควาญนำช้างมาเดินเร่ประมาณ 2 สัปดาห์ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้จัดการนั้น (อ่านข่าว : เบื้องหลัง พลายนำโชค ช้างน้อยล้มกลางกรุง แจ้ง จนท. แต่ไม่ทำอะไร สุดท้ายตกท่อดับ)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2561 ข่าวเวิร์คพอยท์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้อนุญาตให้เจ้าของและผู้ดูแลช้างตัวนี้นำซากช้างจาก อบต.บางพลีใหญ่ เคลื่อนย้ายขึ้นรถบรรทุกหกล้อเดินทางกลับไป อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ เพื่อประกอบพิธีกรรมตามประเพณีของช้างตามความเชื่อ จากนั้นจึงฝังกลบตามกฎระเบียบที่วางไว้ โดยได้นิมนต์ พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ หรือ พระครูแจ้ รองเจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ทำพิธีทอดผ้าบังสุกุลและสวดอุทิศบุญกุศลให้กับพลายนำโชคแล้ว
ภาพจาก Workpoint News
ผู้ดูแลช้างพลายสีดอ สารภาพว่า ตนเองและเพื่อน ๆ รวม 5 คน
ได้เช่าช้างตัวนี้จาก จ.สุรินทร์ เดือนละ 7,000-8,000 บาท
เพื่อมาเร่ร่อนขายอาหารโดยจะให้ออกเดินตั้งแต่เวลา 15.00 - 21.00 น.
ซึ่งจะมีรายได้จากการขายอาหารวันละเฉลี่ย 1,000 บาท
หลังเกิดเหตุตนเองก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจะนำซากช้างกลับไปทำบุญ
พร้อมทั้งลั่นวาจาว่าจะเปลี่ยนอาชีพทันทีและไม่ย้อนกลับมาสู่ขบวนการนำช้างเร่ร่อนแบบนี้อีก
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ซากช้างตัวนี้ พร้อมทั้งใช้เครื่องสแกนไมโครชิปที่ทางเจ้าของอ้างว่ามีการติดตั้งฝังไว้ในตัว แต่การตรวจสแกนยังไม่พบไมโครชิปแต่อย่างใด พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างขนจากส่วนต่าง ๆ ของช้างเพื่อนำกลับไปตรวจ DNA ระบุตัวตนของช้างตัวนี้ต่อไป และให้ปศุสัตว์จังหวัดสมุทรปราการ เข้าแจ้งข้อหากับเจ้าของและควาญช้างทั้งสองคน
ด้าน ร.ต.อ. นพพร แสงสว่าง รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี เจ้าของคดี ระบุว่า เบื้องต้นได้ตั้ง 4 ข้อหา แก่ควาญช้างทั้งสองคน ประกอบด้วย ข้อหาเคลื่อนย้ายสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต, ความผิดการทารุณกรรมสัตว์, ความผิดในฐานนำสัตว์มาทำงานเกินควร และข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.ทางหลวง ในข้อหานำสัตว์มาเดินทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก