ปัจจุบันการบริโภคพืชผักปลอดภัยจากสารเคมีหรืออินทรีย์ กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ในด้านของเกษตรกรแม้การปลูกพืชแบบประณีตที่ต้องให้กระบวนการสำคัญทุกขั้นตอน ซึ่งแนวคิดในการขับเคลื่อนเรื่องเกษตรอินทรีย์ของสถานพัฒนาที่ดินนครราชสีมา ผลผลิตจะต้องปลอดภัยตั้งแต่ต้นน้ำ นั่นก็คือผู้ผลิตหรือเกษตรกร กลางน้ำ คือผู้แปรรูป ผู้ขนส่งและปลายน้ำก็คือผู้บริโภค
โดยการสร้างเครือข่ายเกษตรกรผู้ผลิต พืชผักปลอดสารพิษด้วยวิถีเกษตรอินทรีย์ ให้ลดสารเคมีทุกกระบวนการผลิต โดยส่งเสริมและแนะนำให้เกษตรกรหันมาใช้วัสดุธรรมชาติบริเวณรอบแปลงเกษตร หรือในพื้นที่ชุมชน อาทิ หอย ปลา ผลไม้ พืชผักที่ตกเกรดไม่สามารถจำหน่ายได้ให้นำมาหมักร่วมกับ กากน้ำตาล และจุลินทรีย์สารเร่งซุปเปอร์ พด.2 ที่เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติพิเศษ คือ เพิ่มประสิทธิภาพการย่อยโปรตีน ไขมัน ช่วยลดกลิ่นเหม็น ระหว่างหมักและเพิ่มการละลายธาตุอาหารในการหมักเปลือกไข่ ก้าง และกระดูกสัตว์ในเวลาอันสั้นและได้ คุณภาพ เพื่อผลิตน้ำหมักชีวภาพ การทำปุ๋ยหมัก โดยการนำซากหรือเศษเหลือจากพืชมาหมักรวมกัน และผ่าน กระบวนการย่อยสลายโดยกิจกรรมจุลินทรีย์จนเปลี่ยนสภาพไปจากเดิมเป็นวัสดุที่มีลักษณะอ่อนนุ่ม เปื่อยยุ่ย ไม่แข็งกระด้าง และมีสีน้ำตาลปนดำ โดยใช้การช่วยย่อยสลายจากสารเร่งซุปเปอร์พด.1 ที่เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่ทนอุณหภูมิสูงมีประสิทธิภาพในการย่อยสลายวัสดุเหลือใช้ จากการเกษตรและอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรที่มีองค์ประกอบของเซลลูโลสและไขมันที่ ย่อยสลายยากเพื่อผลิตปุ๋ยหมักในเวลารวดเร็ว รวมไปถึงการขับไล่แมลงด้วยวิธีการธรรมชาติ ที่ใช้พืชสมุนไพรที่สามารถปลูกได้เองร่วมกับกากน้ำตาล และสารเร่งซุปเปอร์ พด.7 ฉีดพ่นป้องกันแมลงศัตรูพืชได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ทิ้งสารตกค้างในพืชและดิน
สำหรับพื้นที่ตำบลสูงเนิน อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมาที่ถือว่าเป็นพื้นที่กลุ่มเกษตรกรต้นแบบที่หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนสารเคมีจากกรมพัฒนาที่ดินอย่างต่อเนื่อง วรายุทธ แฉ่งสูงเนิน หมอดินอาสาประจำอำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา หนึ่งในเกษตรกรที่อดีตใช้สารเคมีในการทำเกษตรกรรมแต่ประสบปัญหาหลายเรื่องจึงคิดหาวิธีการเลิกใช้ และได้มาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการหันมาปลูกพืชผักปลอดภัย กล่าวว่า ในช่วงที่ตนใช้สารเคมีนั้น ตนและครอบครัวประสบปัญหาในเรื่องของสุขภาพ ป่วยมาอย่างต่อเนื่อง เพราะมีสารพิษในร่างกายสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก จึงอยากหาวิธีการที่จะเลิกใช้เคมีในการทำเกษตร และวันหนึ่งก็ได้มารู้จักกับเจ้าหน้าที่จากกรมพัฒนาที่ดินเข้ามาในพื้นที่แล้วส่งเสริมให้เกษตรกรลดการมใช้เคมีในทุกกระบวนการผลิต โดยมีการให้ความรู้ในการหาสารทดแทนที่มีฤทธิ์คุณภาพเหมือนกับเคมีและสามารถทดแทนกันได้ ทั้งยังชักชวนให้ร่วมเป็นจิตอาสา ส่งต่อความรู้ด้านการพัฒนาและปรับปรุงบำรุงดินให้กับพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ใกล้บ้าน รวมไปถึงพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงได้หันมาใช้วัสดุธรรมชาติมาใช้แทนสารเคมี รวมถึงคนเองได้เรียนรู้ในด้านของศาสตร์พระราชา ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ทรวงห่วงใยประชาชนชาวไทย อยากให้กินดีอยู่ดี สุขภาพดี อยู่อย่างพอเพียง ด้วยการทำเกษตรเพื่อสร้างอาหาร ตนจึงคิดว่าเมื่อต้องบริโภคอาหารที่ปลูกเอง ผลผลิตนั้นจำเป็นต้องสะอาดปลอดจากสารพิษทุกกระบวนการผลิต
นายธรรมรัตน์ กังวาลสิงหนาท นักวิชาการเกษตรชำนาญการ สถานีพัฒนาที่ดินพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า การส่งเสริมให้เกษตรกรลดการใช้สารเคมีนั้น เป็นอีกนโยบายหนึ่งที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดย กรมพัฒนาที่ดินนั้นได้มุ่งเน้นให้เกษตรกรมีความเข้าใจและสามารถลงมือทำ โดยจังหวัดนครราชสีมาก็ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่และทำเกษตรกรรมเกือบทุกครัวเรือนเพื่อบริโภคและจำหน่ายให้กับผู้บริโภคในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานคร หากสามารถรณรงค์ให้เกษตรกรจังหวัดนครราชสีมาหันมาทำเกษตรอินทรีย์ได้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไปได้แล้วส่วนหนึ่ง นอกจากเกษตรกรจะลดปริมาณสารเคมีได้แล้ว การทำสารชีวภัณฑ์ใช้เองก็ถือว่าเป็นการลดต้นทุนการผลิต ทำให้มีกำไรจากการจำหน่ายพืชผักมากยิ่งขึ้น การส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ของจังหวัดนครราชสีมานี้จะทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นต้นแบบให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศตระหนักถึงการทำเกษตรอินทรีย์และการบริโภคพืชผักอินทรีย์ เพื่อให้เกิดความสมดุลของธรรมชาติ ดินกลับมาอุดมสมบูรณ์ คนและสัตว์พึ่งพากันได้ด้วยธรรมชาติ ให้ประเทศไทยสมกับเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำอีกครั้ง
