ซูเปอร์ไต้ฝุ่นมังคุดทำฮ่องกงอ่วมหนัก คาดมูลค่าความเสียหาย 3.25 หมื่นล้าน เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้านศาสตราจารย์เศรษฐศาสตร์เผย แม้ว่าความเสียหายรุนแรง แต่ภาครัฐทำงานได้ดี ในการเตือนประชาชน
เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2561 เว็บไซต์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า หลังจากพายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นมังคุด คือพายุหมุนเขตร้อนที่รุนแรงที่สุดในปีนี้ เคลื่อนผ่านฮ่องกงแค่เพียงไม่กี่วัน ได้สร้างความเสียหายรุนแรงอย่างมาก ตั้งแต่ ระบบขนส่งสาธารณะ อาคารต่าง ๆ บ้านเรือนประชาชน รวมทั้งสถานที่ก่อสร้างอื่น ๆ อีกหลายแห่ง ล้วนได้รับผลกระทบ ความเสียหายทางเศรษฐกิจครั้งนี้ คาดว่าสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.25 หมื่นล้านบาท และผลงานนี้ทำให้ มังคุด เป็นพายุที่สร้างความเสียหายรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ฮ่องกง
ไม่นานหลังจากที่ไต้ฝุ่นมังคุดมาถึงฮ่องกง เจ้าหน้าที่ทางการได้รับแจ้งเหตุความเสียหายจากต้นไม้หักโค่นกว่า 1,500 ครั้ง เหตุกระจกหน้าต่างบ้านเรือนเสียหายกว่า 500 ครั้ง ระบบคมนาคมแทบทุกอย่างกลายเป็นอัมพาต ถนนกว่า 600 สาย และรางรถไฟหลายแห่ง ถูกต้นไม้ล้มทับ ทำให้ไม่สามารถสัญจรได้ สนามบินนานาชาติฮ่องกงต้องระงับการให้บริการ ส่งผลให้เที่ยวบินกว่า 2,000 เที่ยว ไม่สามารถออกเดินทางได้ ผู้โดยสารต้องติดค้างอยู่ในอาคาร เฝ้ามองดูพายุอย่างหวาดหวั่น
คลิปวิดีโอที่แชร์บนสังคมออนไลน์ เผยให้เห็นเหตุการณ์สุดสะพรึง อาคารอพาร์ตเมนต์เหิงฟาฉวน ซึ่งตั้งอยู่ริมอ่าววิกตอเรีย ถูกสตอร์ม เซิร์จ ซัดโถมเข้าใส่ คลื่นสูงถึง ชั้น 3-4 ของตึก ลานจอดรถใต้ดินจมน้ำบาดาล นอกจากนี้ที่อยู่อาศัยหลายแห่งก็ไม่สามารถใช้ไฟฟ้าและน้ำได้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อรรถรส
ผลลัพธ์เหล่านี้ส่งผลให้บิลเคลมประกันต่าง ๆ สูงเป็นประวัติการณ์ โดยเฮย์วูด ลุง ผู้อำนวยการบริษัทประกัน ทาร์เกต (Target) กล่าวว่า พายุไต้ฝุ่นฮาโตะ เมื่อปีที่แล้ว ได้สร้างความเสียหาย 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.5 พันล้านบาท ความเสียหายจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นมังคุดลูกนี้มีแววว่าจะมากกว่านั้น แต่คำว่ามีแวว ก็ดูจะเป็นการมองโลกในแง่ดีมากเกินไป เพราะไต้ฝุ่นลูกนี้ถล่มฮ่องกงเกือบ 12 ชั่วโมง มากกว่าครั้งก่อนถึง 6 เท่า คาดว่าประชาชนจะเริ่มยื่นเรื่องเรียกร้องค่าชดเชยความเสียหายภายในสัปดาห์นี้
เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2561 เว็บไซต์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า หลังจากพายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นมังคุด คือพายุหมุนเขตร้อนที่รุนแรงที่สุดในปีนี้ เคลื่อนผ่านฮ่องกงแค่เพียงไม่กี่วัน ได้สร้างความเสียหายรุนแรงอย่างมาก ตั้งแต่ ระบบขนส่งสาธารณะ อาคารต่าง ๆ บ้านเรือนประชาชน รวมทั้งสถานที่ก่อสร้างอื่น ๆ อีกหลายแห่ง ล้วนได้รับผลกระทบ ความเสียหายทางเศรษฐกิจครั้งนี้ คาดว่าสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.25 หมื่นล้านบาท และผลงานนี้ทำให้ มังคุด เป็นพายุที่สร้างความเสียหายรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ฮ่องกง
ไม่นานหลังจากที่ไต้ฝุ่นมังคุดมาถึงฮ่องกง เจ้าหน้าที่ทางการได้รับแจ้งเหตุความเสียหายจากต้นไม้หักโค่นกว่า 1,500 ครั้ง เหตุกระจกหน้าต่างบ้านเรือนเสียหายกว่า 500 ครั้ง ระบบคมนาคมแทบทุกอย่างกลายเป็นอัมพาต ถนนกว่า 600 สาย และรางรถไฟหลายแห่ง ถูกต้นไม้ล้มทับ ทำให้ไม่สามารถสัญจรได้ สนามบินนานาชาติฮ่องกงต้องระงับการให้บริการ ส่งผลให้เที่ยวบินกว่า 2,000 เที่ยว ไม่สามารถออกเดินทางได้ ผู้โดยสารต้องติดค้างอยู่ในอาคาร เฝ้ามองดูพายุอย่างหวาดหวั่น
คลิปวิดีโอที่แชร์บนสังคมออนไลน์ เผยให้เห็นเหตุการณ์สุดสะพรึง อาคารอพาร์ตเมนต์เหิงฟาฉวน ซึ่งตั้งอยู่ริมอ่าววิกตอเรีย ถูกสตอร์ม เซิร์จ ซัดโถมเข้าใส่ คลื่นสูงถึง ชั้น 3-4 ของตึก ลานจอดรถใต้ดินจมน้ำบาดาล นอกจากนี้ที่อยู่อาศัยหลายแห่งก็ไม่สามารถใช้ไฟฟ้าและน้ำได้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อรรถรส
ผลลัพธ์เหล่านี้ส่งผลให้บิลเคลมประกันต่าง ๆ สูงเป็นประวัติการณ์ โดยเฮย์วูด ลุง ผู้อำนวยการบริษัทประกัน ทาร์เกต (Target) กล่าวว่า พายุไต้ฝุ่นฮาโตะ เมื่อปีที่แล้ว ได้สร้างความเสียหาย 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.5 พันล้านบาท ความเสียหายจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นมังคุดลูกนี้มีแววว่าจะมากกว่านั้น แต่คำว่ามีแวว ก็ดูจะเป็นการมองโลกในแง่ดีมากเกินไป เพราะไต้ฝุ่นลูกนี้ถล่มฮ่องกงเกือบ 12 ชั่วโมง มากกว่าครั้งก่อนถึง 6 เท่า คาดว่าประชาชนจะเริ่มยื่นเรื่องเรียกร้องค่าชดเชยความเสียหายภายในสัปดาห์นี้
ขณะที่ พอล ถัง ไซ-อน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารเอเชียตะวันออก (Bank of East Asia) กล่าวว่า พายุไต้ฝุ่นมังคุด คือบททดสอบครั้งใหญ่ของฮ่องกง มันแสดงให้เห็นว่าสามารถทำลายล้างได้ขนาดไหน พายุรุนแรงแบบนี้ไม่ได้มีครั้งเดียว และมันจะเกิดขึ้นอีก
ด้าน ฉง ไท่-หลุง รองศาสตราจารย์ประจำภาคคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮ่องกง ให้ความเห็นว่า การจัดการเก็บกวาดความเสียหาย น่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 วัน ส่วนที่เสียหายหนักจะใช้เวลานานกว่านั้น บริษัทห้างร้าน และการทำงานต่าง ๆ ในวันจันทร์น่าจะยุติหมดทั่วทั้งเกาะ ซึ่งมันสามารถสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจได้ถึง 7.3 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือกว่า 3 หมื่นล้านบาท อ้างอิงจากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี ของปีที่แล้ว
รองศาสตราจารย์ กล่าวอีกว่า แม้ว่าความเสียหายครั้งนี้จะรุนแรงมาก แต่ภาครัฐและหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาก็ทำงานได้ดีมาก ในการแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนรับมือกับพายุ
ด้าน ฉง ไท่-หลุง รองศาสตราจารย์ประจำภาคคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮ่องกง ให้ความเห็นว่า การจัดการเก็บกวาดความเสียหาย น่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 วัน ส่วนที่เสียหายหนักจะใช้เวลานานกว่านั้น บริษัทห้างร้าน และการทำงานต่าง ๆ ในวันจันทร์น่าจะยุติหมดทั่วทั้งเกาะ ซึ่งมันสามารถสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจได้ถึง 7.3 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือกว่า 3 หมื่นล้านบาท อ้างอิงจากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี ของปีที่แล้ว
รองศาสตราจารย์ กล่าวอีกว่า แม้ว่าความเสียหายครั้งนี้จะรุนแรงมาก แต่ภาครัฐและหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาก็ทำงานได้ดีมาก ในการแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนรับมือกับพายุ