ปลื้ม ไม่กลัวถูกคนเทียบ ชวน หลีกภัย ผู้เป็นพ่อ พร้อมสมัครเข้าพรรค ลงสนามการเมืองแบบคนรุ่นใหม่ พร้อมจัดทีมของตัวเอง หวังเข้าถึงคนรุ่นใหม่

ภาพจาก Instagram pleum_official
สำหรับงานที่จะเข้าไปช่วยนั้น นายสุรบถกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าทางพรรคจะเล็งเห็นความสามารถของตนในส่วนใด ตนอยู่ในจุดไหนก็ได้ตามแต่ที่พรรคเห็นว่าตนมีประสิทธิภาพในจุดนั้น
ทั้งนี้ นายสุรบถ เปิดใจว่า ตนไม่กลัวว่าตนจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับบิดา ที่ประสบความสำเร็จในทางการเมือง ตนนับถือบิดาที่เป็นคนดี และปลูกฝังสิ่งต่าง ๆ ในใจจนตนมีทุกวันนี้ได้ แต่ตนคงไม่ต้องทำงานหรือมีจุดยืนที่เหมือนกับบิดา เพราะตนมีสไตล์เป็นของตัวเอง มีสิ่งที่อยากทำและทำในสิ่งที่ถนัด
เมื่อถามถึงการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนี้ นายสุรบถ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้ บอกได้เพียงว่าคนรุ่นตนจะทำอะไรได้บ้าง ส่วนคนยุคก่อนได้บุกเบิกให้สิ่งต่าง ๆไว้ให้คนรุ่นหลัง เขาอาจทำสิ่งที่ดีและผิดพลาด แต่คือบทเรียนของเรา ทุกคนทุกรัฐบาล ผู้ใหญ่ที่ทำงานเพื่อให้ประเทศดีขึ้น ตนจึงอยากให้การเมืองยุคหลังมองอนาคตไปข้างหน้าด้วยกัน ลดความแตกแยก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ภาพจาก Instagram pleum_official
วันที่ 22 กันยายน 2561 เดลินิวส์ออนไลน์ ได้มีรายงานคำสัมภาษณ์จาก นายสุรบถ หลีกภัย หรือ ปลื้ม บุตรชายของ นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กรณีมีกระแสข่าวว่านายสุรบถจะสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายสุรบถ เปิดเผยว่า ตนจะดำเนินการทันทีที่ทางพรรคเปิดรับสมาชิก โดยทางบิดาก็ให้การสนับสนุน และคิดว่าตนน่าจะมาสื่อสารกับคนยุคใหม่ได้ แต่ในเรื่องนี้ยังไม่ได้พูดคุยอย่างเป็นทางการกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค เพราะอยากเข้าไปสมัครเป็นสมาชิกแบบปกติ
สำหรับงานที่จะเข้าไปช่วยนั้น นายสุรบถกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าทางพรรคจะเล็งเห็นความสามารถของตนในส่วนใด ตนอยู่ในจุดไหนก็ได้ตามแต่ที่พรรคเห็นว่าตนมีประสิทธิภาพในจุดนั้น
หลังจากที่ตนเข้าพรรคแล้ว ก็จะมีทีมที่ถนัดแต่ละด้านเข้ามาทำงานด้วย โดยทีมของตนมีลูกหลานของนักการเมืองจากหลายพรรคมารวมกัน รู้ว่าจะนำเสนอหรือสื่อสารอะไรให้คนรุ่นใหม่เข้าใจได้ ดผ่านภาษาที่ง่าย ตนมีความถนัดในการสื่อสารกับคนยุคใหม่เพราะทำงานด้านนี้มานาน มีความเข้าใจในการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย

ภาพจาก Instagram pleum_official
ทั้งนี้นายสุรบถเชื่อว่าการเมืองในอนาคต จะเหมือนกับการทำธุรกิจที่สามารถร่วมงานกันได้ โดยไม่ต้องแบ่งฝ่ายชัดเจน ไม่ต้องแบ่งแยกเช่นในอดีต ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็มีจุดร่วมและเป้าหมายเดียวกัน คือการทำให้ประเทศและประชาชนดีขึ้น หาคนเก่งสุดในทุกด้านแล้วไปทำสิ่งนั้น ๆ ให้เหมาะสมที่สุด นักการเมืองในอนาคตจะอยู่ในจุดที่คล้ายโปรดิวเซอร์ คัดเลือกของดีที่สุดในแต่ละแขนงมารวมกัน ไม่ใช่เอาพวกพ้องที่สนิทกัน
ทั้งนี้ นายสุรบถ เปิดใจว่า ตนไม่กลัวว่าตนจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับบิดา ที่ประสบความสำเร็จในทางการเมือง ตนนับถือบิดาที่เป็นคนดี และปลูกฝังสิ่งต่าง ๆ ในใจจนตนมีทุกวันนี้ได้ แต่ตนคงไม่ต้องทำงานหรือมีจุดยืนที่เหมือนกับบิดา เพราะตนมีสไตล์เป็นของตัวเอง มีสิ่งที่อยากทำและทำในสิ่งที่ถนัด
เมื่อถามถึงการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนี้ นายสุรบถ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้ บอกได้เพียงว่าคนรุ่นตนจะทำอะไรได้บ้าง ส่วนคนยุคก่อนได้บุกเบิกให้สิ่งต่าง ๆไว้ให้คนรุ่นหลัง เขาอาจทำสิ่งที่ดีและผิดพลาด แต่คือบทเรียนของเรา ทุกคนทุกรัฐบาล ผู้ใหญ่ที่ทำงานเพื่อให้ประเทศดีขึ้น ตนจึงอยากให้การเมืองยุคหลังมองอนาคตไปข้างหน้าด้วยกัน ลดความแตกแยก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก