ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ชำระเงินค่าชดเชยรายได้ แก่บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด เป็นเงิน 1.79 พันล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย หลังตัดสินว่าการสร้างทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ ของ กทพ. เป็นการแข่งขันทางด่วนสายบางปะอิน - ปากเกร็ด ทำให้ปริมาณการจราจรและรายได้ลดลงจากที่ประมาณการไว้
สืบเนื่องมาจากกรณีที่ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จํากัด ได้ก่อสร้างทางด่วนสายบางปะอิน - ปากเกร็ด ตามสัญญาที่รัฐมนตรีมีมติให้เอกชนเข้าร่วมดําเนินการ และกรมทางหลวงได้ก่อสร้างทางยกระดับ ดอนเมืองโทลเวย์ช่วงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ - รังสิต ซึ่งบริษัทเห็นว่าเป็นทางแข่งขันกับทางด่วนสายบางปะอิน - ปากเกร็ด ตามที่กําหนดในสัญญา เนื่องจากไม่เข้าข้อยกเว้นที่ระบุไว้ว่าเป็นทางที่ไม่มีลักษณะแข่งขัน จึงร้องขอให้ กทพ. ชําระเงินค่าชดเชยปริมาณจราจรและรายได้ ที่ลดลงจากที่ประมาณการไว้
คณะอนุญาโตตุลาการได้มีคําชี้ขาดว่า ทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ ช่วงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ - รังสิต
เป็นทางแข่งขันที่ทําให้ปริมาณการจราจรและรายได้ค่าผ่านทางของทางด่วนสายบางปะอิน - ปากเกร็ด ลดลงจากที่ประมาณการไว้
ซึ่งมีผลกระทบตามสัญญา จึงชี้ขาดให้ กทพ.
ชําระเงินค่าชดเชยรายได้ที่ลดลง ให้แก่บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จํากัด
สําหรับปี พ.ศ. 2542 จํานวน 730,800,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
ตามที่กําหนดในสัญญา และสําหรับปี พ.ศ. 2543 จํานวน 1,059,200,000 บาท
พร้อมดอกเบี้ย ตามที่กําหนดในสัญญา
ศาลปกครองสูงสุด โดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า การยอมรับหรือการบังคับตามคําชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการดังกล่าว ไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงมีคําพิพากษายืนตามคําพิพากษาของศาลปกครองกลางที่ให้บังคับตามคําชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ที่ให้ กทพ. ชําระเงินแก่บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จํากัด และยกคําร้องของ กทพ. ที่ขอให้เพิกถอนคําชี้ขาดดังกล่าว
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2561
ศาลปกครองสูงสุดได้มีคําพิพากษายืนตามศาลปกครองกลาง
ที่ให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)
ชำระเงินค่าชดเชยรายได้ที่ลดลงแก่บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด
รวมเป็นเงิน 1,790,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย ตามที่กำหนดในสัญญา
กรณีมีการสร้างทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ ช่วงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ -
รังสิต
ซึ่งเป็นทางแข่งขันที่ทำให้ปริมาณการจราจรและรายได้ค่าผ่านทางของทางด่วนสายบางปะอิน
- ปากเกร็ด ของบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด ลดลงจากที่ประมาณการไว้
ซึ่งมีผลกระทบตามสัญญา
สืบเนื่องมาจากกรณีที่ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จํากัด ได้ก่อสร้างทางด่วนสายบางปะอิน - ปากเกร็ด ตามสัญญาที่รัฐมนตรีมีมติให้เอกชนเข้าร่วมดําเนินการ และกรมทางหลวงได้ก่อสร้างทางยกระดับ ดอนเมืองโทลเวย์ช่วงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ - รังสิต ซึ่งบริษัทเห็นว่าเป็นทางแข่งขันกับทางด่วนสายบางปะอิน - ปากเกร็ด ตามที่กําหนดในสัญญา เนื่องจากไม่เข้าข้อยกเว้นที่ระบุไว้ว่าเป็นทางที่ไม่มีลักษณะแข่งขัน จึงร้องขอให้ กทพ. ชําระเงินค่าชดเชยปริมาณจราจรและรายได้ ที่ลดลงจากที่ประมาณการไว้
ศาลปกครองสูงสุด โดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า การยอมรับหรือการบังคับตามคําชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการดังกล่าว ไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงมีคําพิพากษายืนตามคําพิพากษาของศาลปกครองกลางที่ให้บังคับตามคําชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ที่ให้ กทพ. ชําระเงินแก่บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จํากัด และยกคําร้องของ กทพ. ที่ขอให้เพิกถอนคําชี้ขาดดังกล่าว
ทั้งนี้ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (NECL)
เป็นบริษัทย่อยของบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM
และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด เป็นผู้บริหารจัดการ ทางพิเศษอุดรรัถยา
(ทางด่วนสายบางปะอิน - ปากเกร็ด)
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก