สมรักษ์ คำสิงห์ เตรียมเข้ารายงานตัวที่กองทัพ เพื่อชี้แจงกรณีถูกศาลตัดสินเป็นบุคคลล้มละลาย ยันตอนนี้ครอบครัวยังสบายดี เผยเรื่องคดีถ้าจะสู้คงต้องใช้เงินลูกสาวก่อน
ความคืบหน้ากรณี สมรักษ์ คำสิงห์ และภรรยา ถูกศาลล้มละลายกลางตัดสินให้เป็นบุคคลล้มละลาย ล่าสุด (24 กันยายน 2561) เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานบทสัมภาษณ์ ร.อ. สมรักษ์ คำสิงห์ นายทหารประจำกรมกิจการพลเรือนทหารเรือ กองทัพเรือ และอดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 1996 เปิดเผยว่า ต้นเหตุของเรื่องราวดังกล่าวมาจากการลงทุนทำปั๊มน้ำมันให้พ่อตาแม่ยาย ในชื่อ หจก.สมรักษ์ คำสิงห์ บริการ ประกอบกับมีเหตุขัดข้องเรื่องบ้าน จากราคา 7 ล้านบาท ที่กลายเป็น 9 ล้านบาท รวมทั้งปัญหาเกี่ยวกับการถูกทวงภาษีย้อนหลัง
สมรักษ์ เผยว่า หลังตกเป็นข่าว ก็มีผู้ใหญ่เข้ามาถามไถ่และรับปากว่าจะช่วยเหลือ แต่ตนได้ปฏิเสธไปเพราะเกรงใจ จะขอต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งยอมรับว่าถ้าจะต้องต่อสู้เรื่องคดีความคงต้องใช้เงินลูกสาวก่อน จากรายได้รายการในยูทูบ "คำสิงห์แฟมิลี่" ที่ได้เงินต่อเดือนร่วมแสนกว่าบาท ทั้งที่ไม่อยากจะทำแบบนั้น แต่ก็ต้องทำ พร้อมยืนยันว่าตนไม่ได้มีเจตนาที่จะทำเรื่องไม่ดี หรือโกงใคร
ทั้งนี้ ขอทุกคนอย่าเป็นห่วง ตนและครอบครัวยังสุขสบายดี สำหรับประเด็นเรื่องการรับราชการทหารเรือนั้น ตนมีความผูกพันมานานและมีความภาคภูมิใจในหน้าที่มาโดยตลอด ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยใช้ชื่อทางการทหารไปหากินหรือไปทำในสิ่งไม่ดี แต่การล้มละลายเป็นเรื่องสุดความสามารถของนักมวยจริง ๆ ตนไม่เคยคิดจะไปโกงใคร แต่เพราะเจ้าหนี้ปล่อยเวลาเนิ่นนานโดยไม่ทวงถาม ทั้งยังมีการขายหนี้ไปให้บริษัทอื่นจนดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัว จึงจำเป็นต้องยอมแพ้
อย่างไรก็ตาม ตนจะเดินทางเข้ารายงานตัวต่อกองทัพเรือ เพื่อชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ความคืบหน้ากรณี สมรักษ์ คำสิงห์ และภรรยา ถูกศาลล้มละลายกลางตัดสินให้เป็นบุคคลล้มละลาย ล่าสุด (24 กันยายน 2561) เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานบทสัมภาษณ์ ร.อ. สมรักษ์ คำสิงห์ นายทหารประจำกรมกิจการพลเรือนทหารเรือ กองทัพเรือ และอดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 1996 เปิดเผยว่า ต้นเหตุของเรื่องราวดังกล่าวมาจากการลงทุนทำปั๊มน้ำมันให้พ่อตาแม่ยาย ในชื่อ หจก.สมรักษ์ คำสิงห์ บริการ ประกอบกับมีเหตุขัดข้องเรื่องบ้าน จากราคา 7 ล้านบาท ที่กลายเป็น 9 ล้านบาท รวมทั้งปัญหาเกี่ยวกับการถูกทวงภาษีย้อนหลัง
สมรักษ์ เผยว่า หลังตกเป็นข่าว ก็มีผู้ใหญ่เข้ามาถามไถ่และรับปากว่าจะช่วยเหลือ แต่ตนได้ปฏิเสธไปเพราะเกรงใจ จะขอต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งยอมรับว่าถ้าจะต้องต่อสู้เรื่องคดีความคงต้องใช้เงินลูกสาวก่อน จากรายได้รายการในยูทูบ "คำสิงห์แฟมิลี่" ที่ได้เงินต่อเดือนร่วมแสนกว่าบาท ทั้งที่ไม่อยากจะทำแบบนั้น แต่ก็ต้องทำ พร้อมยืนยันว่าตนไม่ได้มีเจตนาที่จะทำเรื่องไม่ดี หรือโกงใคร
ทั้งนี้ ขอทุกคนอย่าเป็นห่วง ตนและครอบครัวยังสุขสบายดี สำหรับประเด็นเรื่องการรับราชการทหารเรือนั้น ตนมีความผูกพันมานานและมีความภาคภูมิใจในหน้าที่มาโดยตลอด ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยใช้ชื่อทางการทหารไปหากินหรือไปทำในสิ่งไม่ดี แต่การล้มละลายเป็นเรื่องสุดความสามารถของนักมวยจริง ๆ ตนไม่เคยคิดจะไปโกงใคร แต่เพราะเจ้าหนี้ปล่อยเวลาเนิ่นนานโดยไม่ทวงถาม ทั้งยังมีการขายหนี้ไปให้บริษัทอื่นจนดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัว จึงจำเป็นต้องยอมแพ้
อย่างไรก็ตาม ตนจะเดินทางเข้ารายงานตัวต่อกองทัพเรือ เพื่อชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
