นายบุญชัย เจ้าของ "ไผ่ทองไอศครีม" ขอไม่ตอบโต้อีกฝ่าย รอให้เวลาเป็นตัวพิสูจน์ ยันตนเองเป็นคนคิดค้นสูตรไอศกรีมแต่แรกร่วมกับคุณพ่อ
ตกเป็นประเด็นดราม่า เลือดข้นไผ่ทองจาง เมื่ออยู่ ๆ เพจเฟซบุ๊ก ไผ่ทองไอสครีม ได้มีการโพสต์ข้อความเตือนระวังเจอไอศกรีมของปลอม โดยชี้จุดสังเกตง่าย ๆ คือ ไอศกรีมไผ่ทองของจริงโลโก้ไม่ใช่ต้นไผ่ และคำว่าไอศกรีม ต้องเขียนว่า "ไอสครีม" ซึ่งชาวโซเชียลต่างมุ่งปมเหตุของดราม่านี้ไปที่ศึกสายเลือดการแย่งชิงแบรนด์ ไผ่ทอง นั่นเอง ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : ดราม่า ! ไอศกรีมไผ่ทอง เปิดศึกชิงแบรนด์ โซเชียลชี้ เลือดข้นคนจาง ที่แท้ทรู)
ล่าสุด (25 กันยายน 2561) ทีมข่าวนิว18 ได้เปิดเผยบทสัมภาษณ์ นายบุญชัย ชัยผาติกุล เจ้าของบริษัท ไผ่ทองไอศครีม จำกัด บุคคลที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของไอศกรีมไผ่ทองของปลอม ซึ่งยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะไอศกรีมไผ่ทองทั้ง 2 เจ้า คือของแท้ทั้งสิ้น โดยไผ่ทองไอสครีมที่สะกดด้วย ส เสือ นั้น เป็นของพี่ชายคนโต
นายบุญชัย เล่าว่า ธุรกิจไอศกรีมของตระกูลมีมานาน จนเมื่อปี 2537 พ่อได้ยกโรงงานไอศกรีมให้ตน เดิมเป็นเพียงห้องแถว 4 คูหา ตั้งอยู่ที่ถนนเจริญรัถ ใช้ชื่อว่า "หมีบิน" ก่อนจะไปซื้อที่ดินใหม่และเปลี่ยนชื่อเป็น "ไผ่ทองไอสครีม" เมื่อกิจการเจริญก้าวหน้า โดยคุณพ่อเป็นผู้ออกแบบสัญลักษณ์รูปต้นไผ่ทอง
ทั้งนี้ ปี 2538 คุณแม่ได้เข้ามาดูแลกิจการแทน โดยให้พี่ชายคนโตมาเป็นผู้บริหารแทนตน ทำให้ตนต้องออกจากบ้านมาตั้งตัวใหม่ จนปี 2543 ตนสามารถสร้างกิจการโรงงานไอศกรีมขึ้นใหม่ ใช้ชื่อ "ไผ่ทองไอศครีม" และมีมาจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งตนยืนยันว่าตนเป็นผู้สืบทอดและคิดค้นสูตรกับคุณพ่อมาตั้งแต่แรก โดยใช้สัญลักษณ์เดิมคือต้นไผ่ แต่ที่เปลี่ยนจาก ส. เป็น ศ. เพราะต้องการใช้ภาษาให้ถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ตกเป็นข่าวเกิดขึ้น ตนไม่ได้กังวลใจอะไร เพราะรู้ว่าข้อเท็จจริงคืออะไร และก็เชื่อว่าลูกค้าก็รู้ดีว่าข้อเท็จจริงคืออะไร ซึ่งกระแสข่าวที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร ยอดขายยังมีเพิ่มมากขึ้นในทุก ๆ ปี ทั่วประเทศมีลูกค้าเอเย่นต์มากกว่า 100 ราย
นายบุญชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนคงไม่ตอบโต้ใด ๆ กับอีกฝ่าย เพราะรู้ดีว่าการเอาคนในครอบครัวไปด่าออกสื่อเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ก็คงต้องรอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก newtv
