ศาลจังหวัดชลบุรี พิพากษาสั่งจำคุกลุงวิศวะ 10 ปี ปรับ 2 พันบาท และให้ชดใช้ผู้เสียหายเป็นเงิน 3.4 แสนบาท หลังยิงนักเรียนชายชั้น ม.4 ดับ โดยล่าสุดทนายยื่นประกันตัว 6.7 แสน ศาลไฟเขียวอนุมัติ
![คดีลุงวิศวะ]( "คดีลุงวิศวะ")
วันที่ 27 กันยายน 2561 ศาลจังหวัดชลบุรี
อ่านคำพิพากษา ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์
อาชีพวิศวกร เป็นจำเลยในความผิดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
จากกรณีที่จำเลยก่อเหตุยิง นายนวพล ผึ่งผาย นักเรียนชั้น ม.4
บริเวณแยกครกใหญ่ ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี จนถึงแก่ความตาย ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 4
กุมภาพันธ์ 2560 จนเป็นข่าวโด่งดัง
โดยคดีนี้จำเลยให้การรับสารภาพในความผิดฐานพกพาอาวุธปืน
ส่วนความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา จำเลยต่อสู้อ้างว่าป้องกันตัว
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าคดีนี้พวกของผู้ตายซึ่งเป็นคนขับรถตู้ ได้จอดรถที่หน้าร้านขายของฝากกีดขวางทางออกรถของจำเลย จนเป็นเหตุให้มีปากเสียงทะเลาะวิวาทกัน กระทั่งพวกของผู้ตายขับรถออกไป โดยไม่ได้มีการท้าทาย แต่จำเลยกลับขับรถตาม จากนั้นรถคู่กรณีทั้ง 2 คัน บีบแตรใส่และปาดหน้าเสมือนเป็นการท้าทาย จนคู่กรณีเกิดบันดาลโทสะ และเข้ามาวิวาทกับจำเลย จากนั้นจำเลยได้ใช้อาวุธปืนซึ่งบรรจุกระสุนไว้ลงจากรถไปโต้ตอบกับคู่กรณี แต่เมื่อเห็นทีท่าไม่ดี ประกอบกับถูกผู้ตายและพวกลงมือทำร้ายร่างกาย จนรู้สึกหวาดกลัวจึงใช้ปืนยิงเข้าใส่
![คดีลุงวิศวะ]( "คดีลุงวิศวะ")
ศาลจึงพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง แต่เนื่องจากไม่ได้มีจิตใจเหี้ยมโหดเยี่ยงโจรผู้ร้าย เพียงแต่ขาดสติยับยั้งชั่งใจในการควบคุมตัวเองและมิได้หลบหนี พร้อมยอมรับกับตำรวจในทันที่ว่าลงมือยิงผู้ตาย นอกจากนี้ ผู้ตายยังมีส่วนร่วมในการกระทำผิด จึงเห็นสมควรลงโทษสถานเบา รวมโทษจำคุก 10 ปี ปรับ 2,000 บาท และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 340,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา 7.5 ต่อปี
ต่อมา เว็บไซต์ อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ทนายของนายสุเทพ ได้ยื่นขอประกันตัว หลักทรัพย์ 6.7 แสนบาท ซึ่งศาลพิเคราะห์ว่า จำเลยไม่มีแนวโน้มหลบหนี จึงให้ประกันตัว
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
หมายเหตุ อัปเดตข้อมูลล่าสุด 27 สิงหาคม 2561 เวลา 15.23 น.
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าคดีนี้พวกของผู้ตายซึ่งเป็นคนขับรถตู้ ได้จอดรถที่หน้าร้านขายของฝากกีดขวางทางออกรถของจำเลย จนเป็นเหตุให้มีปากเสียงทะเลาะวิวาทกัน กระทั่งพวกของผู้ตายขับรถออกไป โดยไม่ได้มีการท้าทาย แต่จำเลยกลับขับรถตาม จากนั้นรถคู่กรณีทั้ง 2 คัน บีบแตรใส่และปาดหน้าเสมือนเป็นการท้าทาย จนคู่กรณีเกิดบันดาลโทสะ และเข้ามาวิวาทกับจำเลย จากนั้นจำเลยได้ใช้อาวุธปืนซึ่งบรรจุกระสุนไว้ลงจากรถไปโต้ตอบกับคู่กรณี แต่เมื่อเห็นทีท่าไม่ดี ประกอบกับถูกผู้ตายและพวกลงมือทำร้ายร่างกาย จนรู้สึกหวาดกลัวจึงใช้ปืนยิงเข้าใส่
ศาลเห็นว่า
เหตุดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องเชื่อมโยงกันไม่ขาดตอนในระยะเวลาเพียง
5 นาทีเศษ จากพฤติการณ์เป็นกรณีที่ต่างฝ่ายสมัครใจวิวาทกัน
จำเลยจะอ้างว่าเป็นการยิงเพื่อป้องกันตัวเองไม่ได้
รวมทั้งไม่ปรากฏว่าผู้ตายกับพวกทำร้ายร่างกาย มารดา ภรรยา และหลาน
ที่มากับจำเลย ดังนั้นจะอ้างว่ายิงเพื่อป้องกันผู้อื่นไม่ได้
ศาลจึงพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง แต่เนื่องจากไม่ได้มีจิตใจเหี้ยมโหดเยี่ยงโจรผู้ร้าย เพียงแต่ขาดสติยับยั้งชั่งใจในการควบคุมตัวเองและมิได้หลบหนี พร้อมยอมรับกับตำรวจในทันที่ว่าลงมือยิงผู้ตาย นอกจากนี้ ผู้ตายยังมีส่วนร่วมในการกระทำผิด จึงเห็นสมควรลงโทษสถานเบา รวมโทษจำคุก 10 ปี ปรับ 2,000 บาท และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 340,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา 7.5 ต่อปี
ต่อมา เว็บไซต์ อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ทนายของนายสุเทพ ได้ยื่นขอประกันตัว หลักทรัพย์ 6.7 แสนบาท ซึ่งศาลพิเคราะห์ว่า จำเลยไม่มีแนวโน้มหลบหนี จึงให้ประกันตัว
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
หมายเหตุ อัปเดตข้อมูลล่าสุด 27 สิงหาคม 2561 เวลา 15.23 น.
