คืบหน้าแผ่นดินไหว-สึนามิถล่มอินโดฯ ยอดตายพุ่งกว่า 1,200 ศพ กู้ภัยยังเร่งค้นหาและช่วยเหลือผู้รอดชีวิต และตอนนี้สามารถเข้าถึงเมืองดองกาลา ที่ถูกตัดขาดได้แล้ว
โดยจนถึงขณะนี้ชุดกู้ภัยยังคงเร่งทำงานแข่งกับเวลา เพื่อค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังมานานกว่า 2 วัน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้พบว่ายอดผู้เสียชีวิตมีจำนวนมากกว่า 1,200 คนแล้ว
ด้าน ซูโตโป เปอร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย เผยว่า ความพยายามค้นหาและช่วยเหลือผู้รอดชีวิตออกจากซากปรักหักพังนั้น จะต้องเพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติงานมากขึ้น เนื่องจากอาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นกว่า 200 ครั้ง นับตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา (28 กันยายน) ส่งผลให้โครงสร้างอาคารต่าง ๆ ไม่มั่นคง
ด้านสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย เผยว่า มีคนจำนวนมากถึง 16,700 คนที่ต้องพลัดถิ่นจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น และกว่า 2.4 ล้านชีวิตในเมืองดองกาลากำลังรอความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม โดยสิ่งที่พวกเขากำลังต้องการอย่างเร่งด่วน ประกอบด้วย เชื้อเพลิง น้ำดื่ม บุคลากรทางการแพทย์ เต็นท์ ไฟฟ้า อาหาร รวมถึงสิ่งจำเป็นอื่น ๆ
ภาพจาก MUHAMMAD RIFKI / AFP
ภาพจาก ADEK BERRY / AFP
วันที่ 1 ตุลาคม 2561 เว็บไซต์เดอะสเตรทไทมส์ มีรายงานความคืบหน้า เหตุแผ่นดินไหว 7.5 แมกนิจูด ที่เมืองปาลู บนเกาะสุลาเวสี ทางตอนกลางของอินโดนีเซีย ก่อนจะส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิสูงกว่า 6 เมตร พัดถล่มพื้นที่ชายฝั่ง และเกิดอาฟเตอร์ช็อกขึ้นอีกกว่า 200 ครั้ง นับตั้งแต่วันศุกร์ที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา
โดยจนถึงขณะนี้ชุดกู้ภัยยังคงเร่งทำงานแข่งกับเวลา เพื่อค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังมานานกว่า 2 วัน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้พบว่ายอดผู้เสียชีวิตมีจำนวนมากกว่า 1,200 คนแล้ว
ภาพจาก BAY ISMOYO / AFP
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ได้ลงพื้นที่ประสบภัยที่เมืองปาลู ด้วยตัวเอง พร้อมจัดสรรงบช่วยเหลือบรรเทาทุกข์จำนวน 560 พันล้านรูเปียห์ (ราว 1.2 พันล้านบาท) และสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยปฏิบัติการกู้ภัยและเยียวยาประชาชนในครั้งนี้
สำหรับเมืองดองกาลา ที่ถูกคลื่นยักษ์สึนามิสูง 3 เมตรถล่ม จนระบบการสื่อสารล่ม ถนนถูกปิดกั้นได้รับความเสียหาย จนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ขณะนี้ทราบว่าในที่สุดชุดกู้ภัยจำนวนมากก็สามารถเข้าถึงเมืองดังกล่าวได้แล้ว
ภาพจาก ADEK BERRY / AFP
ทางด้านเมืองปาลู ซึ่งรันเวย์ของสนามบินภายในเมืองรวมถึงหอบังคับการบินได้รับความเสียหายจากแรงสั่นสะเทือนนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นได้เคลียร์พื้นที่ภายในสนามบิน Mutiara Sis Al Jufri Airport เพื่อรองรับอากาศยานต่าง ๆ ที่จะเดินทางเข้ามาแล้ว รวมถึงเครื่องบินพาณิชย์สำหรับนำผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่