ลูก 4 ขวบ นั่งกอดเข่าร้องไห้ เฝ้าศพพ่อใช้สายไฟผูกคอดับ หัวหน้างานพ่อมาเรียก หนูน้อยตะโกนบอก "พ่อตายแล้ว" คาดเครียด ถูกเมียทิ้ง ไม่มีใครเลี้ยงดูลูก
เมื่อถึงที่เกิดเหตุหน้าห้องน้ำ
พบ น้องเอ (นามสมมติ) อายุ 4 ขวบ นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่หน้าห้องน้ำ
ภายในพบศพของ นายวิไลย์ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นพ่อของน้องเอ
ตัดสินใจใช้สายไฟผูกคอฆ่าตัวตาย เสียชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำ
จากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และพบกระดาษเขียนข้อความตัดพ้อเรื่องส่วนตัว คาดว่าน่าจะเป็นของผู้ตาย
ด้าน นางแหวน อายุ 45 ปี เพื่อนข้างห้อง เล่าว่า ผู้ตายพักอาศัยอยู่กับน้องเอ แค่ 2 คน เคยย้ายออกไปเมื่อ 1 ปีก่อน และกลับมาเช่าห้องอีกครั้ง ผู้ตายเลิกรากับภรรยามากว่า 2 เดือน ซึ่งผู้ตายเป็นคนส่งเสียเลี้ยงดูน้องเอมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยมาปรึกษาและระบายความในใจเรื่องเลี้ยงลูก
ต่อมาช่วงเช้า
หัวหน้างานเห็นผู้ตายไม่มาทำงาน จึงมาตามที่ห้อง แต่กลับได้ยินเสียงน้องเอ
ตะโกนร้องออกมาว่า "พ่อตายแล้ว" จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะเป็นโรคซึมเศร้า และเครียดที่ถูกภรรยาเลิกรา ประกอบกับไม่มีใครเลี้ยงดูลูก จึงตัดสินใจเขียนจดหมายสั่งเสีย ก่อนที่จะใช้สายไฟผูกคอตนเอง เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่จะส่งร่างผู้ตายไปชันสูตรพลิกศพ และเชิญเจ้าของบ้านเช่า พร้อมกับเพื่อนข้างห้องไปสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
วันที่ 1 ตุลาคม 2561 เว็บไซต์ one31 รายงานว่า ที่บ้านเช่าแห่งหนุ่งในซอยสุขสวัสดิ์ 82 ต.ในคลองบางปลากด
อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปรารการ มีผู้ผูกคอเสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สภ.พระสมุทรเจดีย์ จึงรุดไปตรวจสอบ
จากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และพบกระดาษเขียนข้อความตัดพ้อเรื่องส่วนตัว คาดว่าน่าจะเป็นของผู้ตาย
ด้าน นางแหวน อายุ 45 ปี เพื่อนข้างห้อง เล่าว่า ผู้ตายพักอาศัยอยู่กับน้องเอ แค่ 2 คน เคยย้ายออกไปเมื่อ 1 ปีก่อน และกลับมาเช่าห้องอีกครั้ง ผู้ตายเลิกรากับภรรยามากว่า 2 เดือน ซึ่งผู้ตายเป็นคนส่งเสียเลี้ยงดูน้องเอมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยมาปรึกษาและระบายความในใจเรื่องเลี้ยงลูก
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะเป็นโรคซึมเศร้า และเครียดที่ถูกภรรยาเลิกรา ประกอบกับไม่มีใครเลี้ยงดูลูก จึงตัดสินใจเขียนจดหมายสั่งเสีย ก่อนที่จะใช้สายไฟผูกคอตนเอง เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่จะส่งร่างผู้ตายไปชันสูตรพลิกศพ และเชิญเจ้าของบ้านเช่า พร้อมกับเพื่อนข้างห้องไปสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก