ศาลพิพากษาคดีตำรวจ สภ.ปราจีนบุรี รุมซ้อมเด็ก ม.6 พร้อมยัดข้อหาวิ่งราว เมื่อปี 2552 เจอโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 8,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี
ล่าสุดวันนี้ (3 ตุลาคม 2561) ไทยโพสต์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา ศาลปราจีนบุรีได้มีคำพิพากษา ว่า พ.ต.ท. วชิรพันธ์ โพธิราช มีความผิดจริง ส่วน พ.ต.ท. ปัญญา เรือนดี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา ศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง
ส่วนคำพิพากษายกฟ้อง พ.ต.ท. ปัญญา
เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานยืนยันว่าได้ทำร้ายโจทก์ เพราะขณะนั้น
ฝ่ายโจทก์ถูกถุงคลุมศีรษะอยู่ จึงไม่ได้เห็นว่าผู้พูดเป็นใคร
ได้ยินเพียงเสียงที่ถามว่าโจทก์รับสารภาพแล้วหรือยัง
ส่งผลให้คำให้การของโจทก์ไม่ยืนยันพฤติกรรมการกระทำความผิดของ พ.ต.ท. ปัญญา
เป็นเหตุให้มีข้อสงสัย ศาลจึงยกประโยชน์ต่อความสงสัยนั้น
และยกฟ้องจำเลยดังกล่าว
ด้านนายสมศักดิ์ ชื่นจิตร พ่อนายฤทธิรงค์ เด็กนักเรียน ม.6 กล่าวภายหลังรับฟังคำพิพากษา ว่า เรารอคอยความยุติธรรมมา ตลอด 9 ปี หวังให้ความจริงปรากฏ ครอบครัวของเราต้องเป็นเหยื่อของเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำร้ายร่างกายประชาชน สิ่งที่ลูกชายได้พูดมาตลอดระยะเวลา 9 ปี เป็นความจริง มิได้เป็นการใส่ร้ายกล่าวหาตำรวจ แต่สิ่งที่ไม่เห็นพ้องคือบทลงโทษ ซึ่งก็ต้องร้องขอในชั้นอุทธรณ์ต่อไป

ภาพจาก INN
จากกรณีที่นายฤทธิรงค์ ชื่นจิตร นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
โรงเรียนปราจิณราษฎรอำรุง (ในขณะนั้น) โจทก์ฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สังกัดกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรีพร้อมพวกเป็นจำเลย
ต่อศาลจังหวัดปราจีนบุรี เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.925/2558. ว่า
จำเลยได้ร่วมกันซ้อมทรมานเพื่อให้ตนเองรับสารภาพข้อหาวิ่งราวทรัพย์ ทั้ง ๆ
ที่ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด เหตุเกิดที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 28
มกราคม 2552 นั้น (อ่านข่าว : เด็ก ม.6 ร้อง จงรัก ถูกชุดสืบ จ.ปราจีน
ซ้อมยัดข้อหา)
ล่าสุดวันนี้ (3 ตุลาคม 2561) ไทยโพสต์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา ศาลปราจีนบุรีได้มีคำพิพากษา ว่า พ.ต.ท. วชิรพันธ์ โพธิราช มีความผิดจริง ส่วน พ.ต.ท. ปัญญา เรือนดี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา ศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง
โดยจากพยานหลักฐานศาลเชื่อว่า
โจทก์ได้ถูก พ.ต.ท. วชิรพันธ์ จำเลยทำร้ายเพื่อให้รับสารภาพจริง
จึงมีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ลงโทษจำคุก 2 ปี
ปรับ 12,000 บาท แต่จำเลยที่ 3 ให้การเป็นประโยชน์
ศาลลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 1 ปี ปรับ 8,000 บาท
เนื่องด้วยวิชาชีพของจำเลย และไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยถูกลงโทษมาก่อน
จึงให้รอลงอาญา 2 ปี
ด้านนายสมศักดิ์ ชื่นจิตร พ่อนายฤทธิรงค์ เด็กนักเรียน ม.6 กล่าวภายหลังรับฟังคำพิพากษา ว่า เรารอคอยความยุติธรรมมา ตลอด 9 ปี หวังให้ความจริงปรากฏ ครอบครัวของเราต้องเป็นเหยื่อของเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำร้ายร่างกายประชาชน สิ่งที่ลูกชายได้พูดมาตลอดระยะเวลา 9 ปี เป็นความจริง มิได้เป็นการใส่ร้ายกล่าวหาตำรวจ แต่สิ่งที่ไม่เห็นพ้องคือบทลงโทษ ซึ่งก็ต้องร้องขอในชั้นอุทธรณ์ต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก