รัสเซียเกิดคดีสยอง เด็กหญิงวัยเพียง 12 ปี ร่วมมือกับแฟนหนุ่มวัย 22 ปี ก่อเหตุฆาตกรรมกินเนื้อมนุษย์ เจ้าหน้าที่ผงะ พบส่วนสมองถูกปรุงเป็นอาหาร เหลืออยู่บนเตาในบ้าน
รายงานเผยว่า พ่อและแม่ของเด็กหญิงวัย 12 ปี ได้แจ้งความว่า ลูกสาวหายตัวไปจากบ้านเมื่อประมาณ 10 วันหน้านั้น ก่อนจะมารู้อีกทีว่า เธอมีส่วนรู้เห็นและร่วมมือในการก่อเหตุสุดสยองขวัญในครั้งนี้ด้วย แต่ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า หลังจากที่เธอหายตัวไปจากบ้าน เธอไปรู้จักและไปพบกับชายวัย 22 ปีได้เช่นไร แต่ในช่วงนั้นเธอได้มีการโพสต์ข้อความลงโซเชียลมีเดีย ระบุว่า "ฉันรักสตอล์กเกอร์คนหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เขาไปหาใคร เขาเป็นของฉัน ฉันไม่ต้องการคนอื่นอีกแล้ว"
ทางคณะกรรมการสอบสวนแห่งรัสเซีย
ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดสะเทือนขวัญ
เผยให้เห็นบางส่วนของสภาพภายในบ้านหลังดังกล่าว
ซึ่งมีรอยเลือดอยู่ตามจุดต่าง ๆ หลายจุดทั่วบ้าน
และมีชิ้นส่วนศพที่เหลือบางส่วนถูกปิดอยู่ภายใต้ผ้าคลุมที่นอนสีขาว
โดยเจ้าหน้าที่เผยว่า เหยื่อถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม
ศพถูกตัดแยกชิ้นส่วนศีรษะและแขน-ขา เครื่องในถูกควักออกมาจากร่างกาย
ส่วนขวานซึ่งถูกใช้เป็นอาวุธก่อเหตุก็อยู่ภายในบ้านเช่นเดียวกัน
ภายหลังจากถูกควบคุมตัว
ผู้ต้องหายชายวัย 22 ปี และเด็กหญิงวัย 12 ปี สารภาพกับทางเจ้าหน้าที่
โดยกล่าวว่า "ไม่มีอะไรให้พวกเขากินแล้ว" พร้อมกันนี้
ผู้ต้องหาชายรายดังกล่าว ยังได้ยอมรับว่ามีสัมพันธ์ทางเพศกับเด็กหญิงวัย 12
ปี ซึ่งยังถือว่าเป็นผู้เยาว์ และเรียกเด็กหญิงรายนี้ว่า "แฟน"
โดยชายคนร้ายวัย
22 ปี ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมและแยกชิ้นส่วนศพ
ซึ่งอาจจะได้รับโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี
รวมไปถึงข้อหามีสัมพันธ์ทางเพศกับผู้เยาว์ ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี
ส่วนเด็กหญิงวัย 12 ปี ถือเป็นเยาวชน
ยังอายุไม่ถึงเกณฑ์ได้รับโทษอาญาตามกฎหมายของรัสเซีย
โดยหลังจากนี้เธอจะถูกส่งตัวให้ไปอยู่ในความดูแลของสถานพินิจ
ในกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2561 เว็บไซต์เดลี่เมล เผยรายงานชวนสยองขวัญที่เกิดขึ้นที่ประเทศรัสเซีย
เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัวชายวัย 22 ปี พร้อมแฟนสาววัยเยาว์ อายุเพียง
12 ปี ภายหลังจากก่อเหตุฆาตกรรมเหยื่ออย่างโหดเหี้ยม
ก่อนจะนำศพมาชำแหละแยกชิ้นส่วนแล้วปรุงเป็นอาหารรับประทาน
รายงานเปิดเผยชื่อเหยื่อคือ
อเล็กซานเดอร์ โปโปวิช อายุ 21 ปี
เป็นผู้ให้ฆาตกรทั้งสองมาเช่าพักอาศัยอยู่ด้วยที่บ้านพักของเขาที่หมู่บ้านโนวินคา
ห่างจากเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กไปราว 97 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสถานที่ก่อเหตุ
ก่อนคาดว่าจะมีเรื่องบาดหมางกัน
โดยเหยื่อถูกคนร้ายฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมด้วยอาวุธขวาน
ก่อนจะชำแหละแยกชิ้นส่วนไปปรุงอาหาร
โดยเจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนศพของเขาเป็นส่วนของสมองที่ปรุงเป็นอาหาร
คงเหลืออยู่บนเตาที่ภายในบ้าน
รายงานเผยว่า พ่อและแม่ของเด็กหญิงวัย 12 ปี ได้แจ้งความว่า ลูกสาวหายตัวไปจากบ้านเมื่อประมาณ 10 วันหน้านั้น ก่อนจะมารู้อีกทีว่า เธอมีส่วนรู้เห็นและร่วมมือในการก่อเหตุสุดสยองขวัญในครั้งนี้ด้วย แต่ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า หลังจากที่เธอหายตัวไปจากบ้าน เธอไปรู้จักและไปพบกับชายวัย 22 ปีได้เช่นไร แต่ในช่วงนั้นเธอได้มีการโพสต์ข้อความลงโซเชียลมีเดีย ระบุว่า "ฉันรักสตอล์กเกอร์คนหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เขาไปหาใคร เขาเป็นของฉัน ฉันไม่ต้องการคนอื่นอีกแล้ว"
สภาพภายในบ้านที่เกิดเหตุ
ภาพจาก ภาพจาก ทวิตเตอร์ @sledcom_rf