หนุ่มถูกไล่ออกจากงาน เพราะทำงานดีเกินไป แต่สุดท้ายทางบริษัทต้องเสียใจ ประธานบริษัทถึงขั้นกลับมาง้อให้มาทำงานด้วย เลยขอกลับไปในบทบาทใหม่ ไฉไลกว่าเก่า
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
แทนที่จะได้รับคำชื่นชมสำหรับการทำงานอันเยี่ยมยอด
แต่ชายคนหนึ่งกลับถูกเจ้านายไล่ออกจากงาน
ทั้งที่ปฏิบัติงานได้อย่างดี สามารถวางแผนการทำงานและแบ่งงานแก่ลูกน้องไว้ได้อย่างลงตัวก่อนลาพักร้อนยาว
7 วัน จนการทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น
แต่กลับกลายเป็นว่าทางบริษัทได้มองในมุมต่าง คิดว่าขนาดเขาหายไป 7 วัน
ยังไม่กระทบการทำงานใด ๆ เขาคนนี้คงไม่จำเป็นสำหรับบริษัทอีกต่อไป
แต่ใครจะคิดว่านั่นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ของฝ่ายบริหาร
โดยเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2561 เว็บไซต์บอร์แพนด้า ซึ่งหยิบเรื่องดังกล่าวมารายงาน เผยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ชายคนหนึ่ง ซึ่งใช้ชื่อว่า TotallyNotA30YearOldWhiteDude นำชีวิตในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาของเขา มาระบายลงโลกออนไลน์ โดยระบุว่า "ตอนที่ไปพักร้อน ผมได้เตรียมงานไว้ให้ลูกทีมอย่างผมอย่างดี แต่ในตอนที่กลับไปทำงาน ผมกลับถูกไล่ออกซะงั้น เพราะพวกเขาสามารถทำงานได้ด้วยดีแม้จะไม่มีผม
ด้วยความที่ไร้งานทำ ไร้ประกัน และยังมีลูกเป็นเด็กพิเศษให้ต้องเลี้ยงดู ผมจึงเริ่มต้นธุรกิจเล็ก ๆ ของตัวเอง ตอนนี้ธุรกิจเล็ก ๆ ของผมเดินหน้าไปอย่างช้า ๆ แต่ก็เลี้ยงตัวเองได้ ขณะที่ทีมงานเดิมในบริษัทเก่า ค่อย ๆ ล้มลงแยกตัวออกไป
ผมได้รับสายจากนายจ้างเก่า
ท่านประธานอยู่ที่ปลายสาย เขาต้องการให้ผมแนะนำว่าทำอย่างไร
จึงจะทำให้ทีมงานกลับมาเป็นกลุ่มก้อนเดียวกันอีกครั้ง
แถมยังว่าจ้างบริษัทเล็ก ๆ ของผมให้ทำงานเป็นที่ปรึกษา
พร้อมมอบค่าตอนแทนที่สูงขึ้น ตอนนี้ผมได้เงินค่าจ้างเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเกือบ
2 เท่า เพื่อบอกผู้นำเหล่านี้ ในเรื่องเดิม ๆ ที่ผมเคยบอกกับพวกเขา
สมัยผมยังเป็นลูกน้องเขาอยู่"
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
โดยเผยว่า เมื่อสักปีก่อน เขาได้เข้าทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเว็บไซต์ ของบริษัทเอเจนซี่เล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งมีพนักงานแห่ลาออกมาก สภาพแวดล้อมในการทำงานเลวร้ายสุด ๆ หน้าที่ของเขาก็คือการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ พวกผู้บริหารตื่นเต้นมากที่เขาจะเข้าไปช่วยพวกเขาแก้ปัญหาชวนปวดหัว อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นเขาต้องทำงานอย่างหนักจนล้มป่วย เขาหมดสติจนถึงขั้นถูกหามเข้าห้องฉุกเฉิน เมื่อรักษาตัวแล้วก็ยังต้องตามเก็บงานที่ล่าช้าไป
กระทั่ง 6 เดือนผ่านไป เขาแจ้งผู้บริหารว่าเขาอยากจะขอลาพักร้อนสักสัปดาห์หนึ่ง โดยไม่ต้องการให้ใครติดต่อ จากนั้นก็เริ่มเตรียมความพร้อมให้ทีม จัดการทุกอย่างไว้พร้อมสรรพ จนได้มีวันพักร้อนแสนวิเศษกับครอบครัว จากที่เครียดและหดหู่มาตลอด เขาเหมือนได้ชาร์จแบตตัวเองอีกครั้ง
แต่กลายเป็นว่าหลังกลับมาทำงานอีกครั้ง ฝ่ายบริหารกลับบอกว่า ไม่ต้องการเขาอีกต่อไปแล้ว และไล่เขาออกจากงาน
กระทั่งวันหนึ่งประธานบริษัทเดิมก็โทร. กลับมาขอร้องให้เขากลับไป แน่นอนว่าเขาปฏิเสธ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังสามารถให้คำปรึกษาแก่ทางนั้น เพื่อนำบริษัทให้หลุดพ้นจากภาวะดังกล่าวได้ เขาจึงยื่นข้อเสนอไป ให้ทางบริษัทเดิมจ้างเขาอีกครั้ง โดยไม่เอาแต่พร่ำบอกเขาอีกว่า "มันไม่ใช่วิถีที่เราทำกันที่นี่"
สุดท้ายประธานก็ตอบตกลง และจัดการจ้างเขามาเป็นที่ปรึกษา ตอนนี้มันถึงเวลาแล้วที่ผู้บริหารของที่นั่นจะถูกบังคับให้นั่งฟังในสิ่งที่เขาพูด แถมยังถูกบอกอีกด้วยว่า "เวลาของชายคนนี้มีค่ามาก ดังนั้นกรุณาให้ความสนใจด้วย"
สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงช่วงเวลาที่แตกต่างกันของชายคนนี้ นับตั้งแต่การทำงานหนักจนสามารถพาทีมงานให้ทำงานได้อย่างลุล่วง ไปจนถึงช่วงชีวิตขาลงเมื่อถูกไล่ออก กระทั่งปัจจุบันที่เขาก้าวกลับมาเป็นฝ่ายอยู่เหนือกว่าผู้บริหารหลายคนที่เคยเป็นเจ้านายของเขาในวันวาน แต่ทั้งนี้มันจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีความตั้งใจและความสามารถในการทำงานของเขา ซึ่งหลังจากที่เรื่องราวของเขาถูกนำมาเปิดเผย มันก็ได้กลายมาเป็นที่พูดถึงและเรียกความสะใจจากชาวเน็ตหลาย ๆ ราย ที่เคยเผชิญชีวิตในบริษัทเก่า ๆ ที่มีสภาพแวดล้อมการทำงานย่ำแย่ไม่ต่างกัน