เปิดชีวิตรัก มิยาบิ อดีตซุปตาร์ AV กับหนุ่มข้างกาย นี่แหละ เจ้าชายในฝัน

          ส่องชีวิตรักของ มิยาบิ หรือ มาเรีย โอซาวา อดีตนางเอกหนังเอวีชื่อดัง กับ เชฟหนุ่มหล่อ ชาวฟิลิปปินส์ ผ่านมาเกือบ 2 ปี ยังเติมความหวานให้กันไม่ขาด นี่แหละ คนที่ใช่

          ถ้าหากให้เอ่ยชื่อนางเอกหนังผู้ใหญ่ฝั่งญี่ปุ่น หรือนางเอกหนังเอวี แล้วละก็ เชื่อว่าชื่อแรกที่หลาย ๆ คนคงนึกถึงก็คือ มิยาบิ (Miyabi) หรือ มาเรีย โอซาวา (Maria Ozawa) โดยตลอดระยะเวลาของการทำงานในวงการนี้ สาวสวยคนนี้ได้ฝากผลงานเอาไว้มากมาย และกลายเป็นขวัญใจของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทั่วโลก

          ปัจจุบัน มาเรียได้โบกมือลาวงการหนังผู้ใหญ่มาหลายปีแล้ว และเธอเองก็ใช้ชีวิตปกติเหมือนผู้หญิงทั่วไป มาเรียได้ข้ามน้ำข้ามทะเลมาทำงานที่ฟิลิปปินส์ และการใช้ชีวิตที่นี่ ทำให้เธอได้พบกับผู้ชายที่เธอรัก และบอกได้เลยว่า นี่แหละ คนที่ใช่ของชีวิต


          จากการรายงานของเว็บไซต์เอบีเอส-ซีบีเอ็น ระบุว่า หวานใจของมาเรีย คือ โฮเซ ซาราโซลา (Jose Sarasola) นักแสดงและเชฟชื่อดังชาวฟิลิปปินส์ พวกเขาทั้งสองอายุ 32 ปี เท่ากัน และได้ปลูกต้นรักกันมานานแล้ว ทั้งมาเรียและโฮเซ มักจะโพสต์ภาพคู่โชว์ความหวานลงบนอินสตาแกรมอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะตอนไปออกเดตหวานชื่นด้วยกันที่ร้านอาหารหรู ไปสนุกกับสายลมแสงแดดริมทะเล ไปจนถึงการออกไปทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่น วิ่งมาราธอนการกุศล ซึ่งนอกจากไลฟ์สไตล์จะคล้าย ๆ กันแล้ว พวกเขายังมีธุรกิจเป็นของตัวเองอีกด้วย 

          ปัจจุบัน มาเรียเป็นหุ้นส่วนของเลาจน์ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในฟิลิปปินส์ ทำให้เธอย้ายมาทำงานที่นี่อย่างถาวร และยังคงรับงานด้านการบันเทิงอยู่เรื่อย ๆ ส่วนโฮเซนั้น ข้อมูลจากเว็บไซต์ฟิลนิวส์ ระบุว่า เขาเคยเป็นผู้เข้าแข่งขันในรายการ Fear Facter ของฟิลิปปินส์มาก่อน ปัจจุบันเขาเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองอยู่ที่เมืองปาราญาเก หนึ่งในเมืองปริมณฑลของกรุงมะนิลา ตั้งอยู่ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ร้านอาหารร้านนี้ เป็นที่ที่มาเรียมาใช้บริการบ่อย ๆ ทั้งสองได้พบกันเป็นครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2559 และนั่นก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก


          โฮเซเปิดเผยถึงการเข้าไปทำความรู้จักกับมาเรีย ว่า ตอนนั้นเขาเจอเธอที่บาร์ เขาจำได้ว่าเธอเป็นคนดัง และรู้ดีว่าเธอเคยทำงานด้านไหนมาก่อน แต่เขาไม่ได้รังเกียจหรือซีเรียสอะไรกับเรื่องนี้ เพราะเขาเองก็มีเพื่อนหลาย ๆ คนที่ทำงานในอุตสาหกรรมหนังผู้ใหญ่ ตอนแรกเขาเองก็ไม่ได้อยากเข้าไปรบกวน แต่สุดท้ายก็เข้าไปขอถ่ายรูปด้วย พอได้คุยกันก็กลายเป็นคลิก โฮเซ เผยว่า มาเรียเป็นคนสวย และเขาก็ประทับใจในความเป็นกันเองและความธรรมชาติของเธอ มาเรียเองก็พบว่าโฮเซเป็นผู้ชายที่สุภาพ น่ารัก แถมยังตลกดีอีกด้วย หลังจากนั้นก็ได้มีการแลกเปลี่ยนเบอร์โทร. ของกันและกัน

          แม้ว่าทั้งคู่จะรู้จักกันมาตั้งแต่ต้นปี 2559 แต่พวกเขาก็ยังคงสถานะความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน จนกระทั่งได้ขยับสถานะกลายเป็นคนใจรู้ ในช่วงต้นปี 2560 มาเรีย กล่าวว่า โฮเซนี่แหละคือสเปกของเธอ เขาคือชายในฝัน เป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอชอบ ทั้งรูปร่างหน้าตา และนิสัยของเขา ด้วยความที่เธอเป็นคนชอบอาหารมาก เธอชอบกินหลาย ๆ อย่าง รวมทั้งอาหารของฟิลิปปินส์ การที่ได้มีแฟนหนุ่มเป็นเชฟ ก็ยิ่งทำให้เธอแฮปปี้ขึ้นไปอีก เพราะเขาสามารถทำอาหารให้เธอกินได้เสมอ


          ทางด้านโฮเซเองก็ชอบอาหารญี่ปุ่น ซึ่งในจุดนี้เป็นสิ่งที่มาเรียประทับใจ เพราะโดยส่วนตัวแล้ว คนฟิลิปปินส์หลาย ๆ คนไม่ค่อยถูกกับอาหารของชาติเธอ โดยเฉพาะอาหารดิบ แต่โฮเซไม่มีปัญหาในส่วนนี้ ทุกอย่างจึงเป็นไปได้ดีมาก

          มาเรีย ยังเปิดเผยอีกว่า เธอเป็นคนที่ชอบอะไรแปลก ๆ พวกทฤษฎีสมคบคิด อย่าง UFO หรือสัตว์ประหลาดล็อกเนส ไปจนถึงเรื่องการเดินทางข้าม-ย้อนเวลา ในหนัง Sci-Fi โฮเซ กล่าวว่า มันเป็นอะไรที่เฮฮาสำหรับเขา เขาไม่เบื่อที่เธอจะพูดเรื่องนี้ และในขณะเดียวกัน มาเรียก็เริ่มหันมาสนใจกีฬาบาสเกตบอลอย่างจริงจังอีกด้วย สาเหตุก็เพราะหวานใจคนนี้ชื่นชอบมันอย่างที่สุด อย่างไรก็ตาม แม้ทั้งคู่จะไปด้วยกันได้ดี แต่สังคมก็วิพากษ์วิจารณ์อยู่ไม่ใช่น้อย สาเหตุเพราะภูมิหลังของมาเรีย พวกเขาพบเจอถ้อยคำต่อว่าดูถูก หยาบคาย รวมทั้งเหยียดหยามบนโซเชียลมีเดียอยู่บ่อยครั้ง


          แน่นอนว่ามันอาจจะบั่นทอนจิตใจไปบ้าง แต่มาเรียไม่เคยเก็บเรื่องพวกนั้นมาคิด โฮเซก็ไม่แคร์ว่าใครจะว่าอะไร เพราะเขาโชคดีมากที่ได้พบกับผู้หญิงคนนี้ และที่เรียกว่าดีที่สุดก็คือ ครอบครัวของเขา ตอนแรกเขาคิดว่าแม่คงจะเป็นลมแน่ ๆ เมื่อได้รับรู้ แต่พ่อแม่ของเขาเปิดกว้างกว่าที่คิด เมื่อเขาพามาเรียไปพบครั้งแรก พวกเขาก็แสดงความเอ็นดูกับคนรักของลูกเป็นอย่างดี และก็สนับสนุนในความสัมพันธ์ครั้งนี้อีกด้วย เรียกได้เลยว่าผ่านฉลุยทุกฝ่ายเลยทีเดียว

          ปัจจุบันทั้งสองคบหาดูใจกันมาได้เกือบ 2 ปี แล้ว กราฟชีวิตก็ไปกันได้ดี เรียกได้ว่าพุ่งสุด ๆ ทั้งเรื่องนิสัยใจคอ เรื่องงาน รสนิยมความชอบต่าง ๆ ไปจนถึงอาหารและครอบครัว บอกได้เลยว่าหวานแหววขนาดนี้ ในอนาคตอันใกล้นี้อาจจะมีข่าวดีให้ได้ยินก็ได้ ใครจะรู้