เจ้าชายซาอุฯ ปัดอยู่เบื้องหลังคดีนักข่าวฝีปากกล้า หายตัวลึกลับในสถานกงสุล

          ปธน.สหรัฐฯ เผยเจ้าชายซาอุฯ แจงไม่มีส่วนรู้เห็น กรณี จามัล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวอิสระ หายตัวลึกลับในสถานกงสุล พร้อมสั่งให้สอบสวนอย่างเต็มที่

          กรณีการหายตัวไปของ จามัล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวอิสระ ภายหลังจากที่เข้าไปในอาคารสถานกงสุลซาอุดีอาระเบีย ในนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2561 ซึ่งจากรายงานของสื่อหลายสำนักเชื่อได้ว่าเขาถูกสังหารแล้ว โดยมีประเด็นเชื่อมโยงว่าการที่ จามัล มักวิจารณ์มกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน อาจกลายเป็นปมสังหารในครั้งนี้ (อ่านข่าว : สุดช็อก ! นักข่าวซาอุฯ ถูกหั่นร่างทั้งเป็น เจ้าตัวกดอัดเสียงขณะถูกสังหารโหด)

          เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 17 ตุลาคม 2561 นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ @realDonaldTrump เปิดเผยว่า มกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงปฏิเสธว่า รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับนายจามัล คาช็อกกี ที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย พร้อมยืนยันว่าพระองค์ทรงมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนในเรื่องนี้อย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งน่าจะมีคำตอบในเร็ว ๆ นี้

          ขณะเดียวกัน ทรัมป์ ยังให้สัมภาษณ์กับช่องฟ็อกซ์ เกี่ยวกับประเด็นนี้กับสื่อสหรัฐฯ ว่า คงจะเป็นเรื่องแย่มากหากซาอุดีอาระเบียรู้เห็นเรื่องนี้ แต่หากไม่รู้เรื่อง ก็แปลว่าอาจจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นจริง

          แถลงการณ์ของ ทรัมป์ เกิดขึ้นไม่นานนักหลังจากที่ ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบีย เพื่อเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน และมกุฎราชกุมารด้วย เพื่อหารือถึงการแก้ไขปัญหาความสัมพันธ์ของสองชาติ จากการหายตัวลึกลับของนักข่าวรายนี้


          ผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ซาอุดีอาระเบีย ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากชาติพันธมิตร ที่ต้องการทราบความจริงเบื้องหลังเหตุการณ์นี้ และแม้รัฐบาลซาอุฯ จะยืนกรานปฏิเสธมาตลอดว่าไม่มีส่วนรู้เห็น แต่ผู้ต้องสงสัยทั้งหมดในขณะนี้ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับมกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แทบทั้งสิ้น