รวบแล้ว เจ้าของบริษัททัวร์ ขายแพ็กเก็จเที่ยวญี่ปุ่น 1 แถม 1 ก่อนลอยแพนักท่องเที่ยว ด้านตำรวจฝากเตือนประชาชน จะซื้อทัวร์ให้ดูดี ๆ ถ้าถูกเกินไปอาจถูกโกงได้
คืบหน้าล่าสุด (20 ตุลาคม 2561) พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผู้กำกับการ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ทางตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากนักท่องเที่ยว 4 คน ในวันที่ 17 ตุลาคม ว่าจองทัวร์ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกับบริษัททัวร์เจ้าหน้า ที่ขายแพ็กเก็จ 1 แถม 1 ผ่านเฟซบุ๊ก แต่เมื่อถึงเวลากลับไม่สามารถเดินทางได้ จึงได้เชิญทางผู้เสียหาย รวมถึงเจ้าของบริษัททัวร์คือ นางสาวนิธินันท์ มาไกล่เกลี่ยกัน จนยอมคืนเงินให้กับลูกค้าทั้ง 4 คนแล้ว
แต่แล้วในคืนวันที่ 19 ตุลาคม กลับมาผู้เสียหายอีก 15 รายมาแจ้งความเพิ่มเติม ว่าได้จองทัวร์กับบริษัทของนางสาวนิธินันท์ แต่ไม่สามารถเดินทางได้ ทางตำรวจจึงเรียกตัวคู่กรณีมาไกล่เกลี่ยอีกครั้ง และตรวจสอบพบว่ายังมีผู้เสียหายที่จองทัวร์ล็อตนี้ รวม 37 คน อยู่ระหว่างประสานให้มาแจ้งความดำเนินคดีกับนางสาวนิธินันท์
ทั้งนี้ ทางตำรวจได้แจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เนื่องจากมีการโฆษณาเรื่องแพ็คเก็ตทัวร์ในเพจเฟซบุ๊ก แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่กล่าวอ้าง พร้อมควบคุมตัวนางสาวนิธินันท์ไปขออำนาจศาลฝากขังแล้ว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ผู้กำกับการ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ฝากถึงประชาชนว่า หากจะจองแพ็คเก็ตทัวร์ต่าง ๆ ให้ตรวจสอบข้อมูลให้ดี และพึงระลึกไว้ว่า หากราคาถูกเกินไป อาจจะมีปัญหาหรือถูกโกงได้
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
จากกรณีกรุ๊ปทัวร์ฮอกไกโดฝันสลาย ถูกลอยแพ กลางสุวรรณภูมิ โดยลูกทัวร์เผยว่าทางนายหน้าได้ติดต่อมาขอเลื่อนวันเดินทางโดยไม่ให้เหตุผล แถมเมื่อซักไซ้ก็ยังไม่สามารถตอบคำถามได้ จึงรวมตัวกันมาแจ้งความเอาผิดนั้น [อ่านข่าว : กรุ๊ปทัวร์ฮอกไกโดฝันสลาย 59 ชีวิตถูกลอยแพ กลางสุวรรณภูมิ เสียหาย 1.7 ล้าน]
คืบหน้าล่าสุด (20 ตุลาคม 2561) พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผู้กำกับการ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ทางตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากนักท่องเที่ยว 4 คน ในวันที่ 17 ตุลาคม ว่าจองทัวร์ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกับบริษัททัวร์เจ้าหน้า ที่ขายแพ็กเก็จ 1 แถม 1 ผ่านเฟซบุ๊ก แต่เมื่อถึงเวลากลับไม่สามารถเดินทางได้ จึงได้เชิญทางผู้เสียหาย รวมถึงเจ้าของบริษัททัวร์คือ นางสาวนิธินันท์ มาไกล่เกลี่ยกัน จนยอมคืนเงินให้กับลูกค้าทั้ง 4 คนแล้ว
โดยทางพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบข้อมูลบริษัททัวร์ดังกล่าว พบว่ามีการจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2561 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท แต่บริษัทนี้ ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการนำเที่ยว เจ้าหน้าที่ จึงมีการแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนจะให้ประกันตัวไป
ทั้งนี้ ทางตำรวจได้แจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เนื่องจากมีการโฆษณาเรื่องแพ็คเก็ตทัวร์ในเพจเฟซบุ๊ก แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่กล่าวอ้าง พร้อมควบคุมตัวนางสาวนิธินันท์ไปขออำนาจศาลฝากขังแล้ว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ผู้กำกับการ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ฝากถึงประชาชนว่า หากจะจองแพ็คเก็ตทัวร์ต่าง ๆ ให้ตรวจสอบข้อมูลให้ดี และพึงระลึกไว้ว่า หากราคาถูกเกินไป อาจจะมีปัญหาหรือถูกโกงได้
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN