ตัวแทนแรปเปอร์เพลง "ประเทศกูมี" เชื่อผลงานสำเร็จแล้วหลังสังคมนำไปขยายต่อ ปัดล้างสมอง แนะให้คนฟังตัดสินเองว่าจริงหรือเท็จ
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในสังคม กรณีเพลง "ประเทศกู มี" ของกลุ่มศิลปินแรปเปอร์ Rap Against Dictatorship ซึ่งภายหลังเพลงถูกปล่อยได้ไม่นาน ก็พบว่าทางฝั่งตัวแทนรัฐบาลได้เผยว่ารู้สึกไม่สบายใจ รวมถึงทางตำรวจก็เตรียมจะสอบสวน โดยอ้างว่าเนื้อหาเพลงอาจเป็นการให้ร้ายประเทศไทย และอาจเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมฯ นั้น (อ่านข่าว : รัฐบาลเสียใจ เยาวชนทำเพลงแรป "ประเทศกูมี" ชี้คนที่เสียหายที่สุดคือประเทศไทย)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 26 ตุลาคม 2561 รายการทุบโต๊ะข่าว ได้สอบถาม ฮอว์ค ตัวแทนกลุ่ม Rap Against Dictatorship เปิดเผยว่า ชื่อกลุ่มและชื่อโปรเจกต์ เกิดจากความต้องการที่จะร้องเพลงแรปเพื่อต่อต้านระบบเผด็จการ ซึ่งหลังจากเอ็มวีเพลงถูกเผยแพร่ออกไป พบว่าได้นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์และตีความกันต่อ ซึ่งตนคิดว่าผลงานชิ้นนี้สำเร็จในตัวของมันแล้ว ส่วนสาเหตุที่ทีมงานเลือกผลิตเอ็มวีเป็นฉากแขวนคอของเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 นั้น เนื่องจากอยากเตือนให้เห็นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะประเทศไทยถูกปกครองด้วยรัฐบาลทหารในอดีต
ภาพจาก Rap Against Dictatorship
ทั้งนี้ กรณีที่ตำรวจจะเอาผิดในเรื่องนำข้อมูลอันเป็นเท็จลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์นั้น ตนคิดว่า ทีมงานได้ทำเพลงวิพากษ์สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ก็ไม่รู้ว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นเท็จต่อกลุ่มไหนหรือไม่ เพราะมันเป็นสิ่งที่พูดคุยกันบนโลกออนไลน์ อย่างเช่น เรื่องเสือดำ เรื่องบ้านพักบนอุทยาน ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของคนฟัง ที่จะเป็นคนตัดสินว่าเนื้อเพลงท่อนไหนจริง ท่อนไหนเท็จ เพราะบางเรื่องก็ยังไม่ได้รับการพิสูจน์เพียงแต่พวกเราได้นำเสนอในแบบของพวกเรา
ส่วนเรื่องที่มีคนบอกว่า เพลงประเทศกูมี เป็นเพลงล้างสมอง โดยส่วนตัวก็ไม่เข้าใจ เพราะทีมงานของตนมีอุดมการณ์ในการวิพากษ์วิจารณ์การเมืองเพื่อให้การเมืองนั้นดีขึ้น และแสดงให้เห็นว่า ยังมีข้อบกพร่องอยู่ในประเทศไทยและอยากให้มีการพัฒนาต่อไป เพราะทีมงานก็ไม่อยากให้เพลงส่งผลให้เกิดเรื่องในแง่ลบอยู่แล้ว
สุดท้ายนี้ ฮอว์ค กล่าวว่า ทุกคนหวังผลตั้งแต่ตอนทำแล้วว่า อยากให้เพลงถูกพูดถึง และมีการหยิบประเด็นภายในเพลงไปพูดคุยกันต่อ สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับคนฟังว่า จะตีความว่าเพลงทำลายประเทศชาติ หรือได้ประโยชน์จากเพลงมากน้อยแค่ไหน
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในสังคม กรณีเพลง "ประเทศกู มี" ของกลุ่มศิลปินแรปเปอร์ Rap Against Dictatorship ซึ่งภายหลังเพลงถูกปล่อยได้ไม่นาน ก็พบว่าทางฝั่งตัวแทนรัฐบาลได้เผยว่ารู้สึกไม่สบายใจ รวมถึงทางตำรวจก็เตรียมจะสอบสวน โดยอ้างว่าเนื้อหาเพลงอาจเป็นการให้ร้ายประเทศไทย และอาจเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมฯ นั้น (อ่านข่าว : รัฐบาลเสียใจ เยาวชนทำเพลงแรป "ประเทศกูมี" ชี้คนที่เสียหายที่สุดคือประเทศไทย)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 26 ตุลาคม 2561 รายการทุบโต๊ะข่าว ได้สอบถาม ฮอว์ค ตัวแทนกลุ่ม Rap Against Dictatorship เปิดเผยว่า ชื่อกลุ่มและชื่อโปรเจกต์ เกิดจากความต้องการที่จะร้องเพลงแรปเพื่อต่อต้านระบบเผด็จการ ซึ่งหลังจากเอ็มวีเพลงถูกเผยแพร่ออกไป พบว่าได้นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์และตีความกันต่อ ซึ่งตนคิดว่าผลงานชิ้นนี้สำเร็จในตัวของมันแล้ว ส่วนสาเหตุที่ทีมงานเลือกผลิตเอ็มวีเป็นฉากแขวนคอของเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 นั้น เนื่องจากอยากเตือนให้เห็นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะประเทศไทยถูกปกครองด้วยรัฐบาลทหารในอดีต
ภาพจาก Rap Against Dictatorship
ทั้งนี้ กรณีที่ตำรวจจะเอาผิดในเรื่องนำข้อมูลอันเป็นเท็จลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์นั้น ตนคิดว่า ทีมงานได้ทำเพลงวิพากษ์สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ก็ไม่รู้ว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นเท็จต่อกลุ่มไหนหรือไม่ เพราะมันเป็นสิ่งที่พูดคุยกันบนโลกออนไลน์ อย่างเช่น เรื่องเสือดำ เรื่องบ้านพักบนอุทยาน ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของคนฟัง ที่จะเป็นคนตัดสินว่าเนื้อเพลงท่อนไหนจริง ท่อนไหนเท็จ เพราะบางเรื่องก็ยังไม่ได้รับการพิสูจน์เพียงแต่พวกเราได้นำเสนอในแบบของพวกเรา
ส่วนเรื่องที่มีคนบอกว่า เพลงประเทศกูมี เป็นเพลงล้างสมอง โดยส่วนตัวก็ไม่เข้าใจ เพราะทีมงานของตนมีอุดมการณ์ในการวิพากษ์วิจารณ์การเมืองเพื่อให้การเมืองนั้นดีขึ้น และแสดงให้เห็นว่า ยังมีข้อบกพร่องอยู่ในประเทศไทยและอยากให้มีการพัฒนาต่อไป เพราะทีมงานก็ไม่อยากให้เพลงส่งผลให้เกิดเรื่องในแง่ลบอยู่แล้ว
สุดท้ายนี้ ฮอว์ค กล่าวว่า ทุกคนหวังผลตั้งแต่ตอนทำแล้วว่า อยากให้เพลงถูกพูดถึง และมีการหยิบประเด็นภายในเพลงไปพูดคุยกันต่อ สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับคนฟังว่า จะตีความว่าเพลงทำลายประเทศชาติ หรือได้ประโยชน์จากเพลงมากน้อยแค่ไหน