วงจรปิดจับภาพนาทีสลด หนุ่มสาวซิ่งเก๋งชนขอบทางเสียหลักรถพลิกหลายตลบ ก่อนพุ่งตกลงไปในอุโมงค์ลอดทางแยกหนองประทีป กลางเมืองเชียงใหม่ ร่างกระเด็นดับสยองทั้งคู่
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก กลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เผยแพร่คลิปจากกล้องวงจรปิดบริเวณแยกหนองประทีป
ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง ต.ท่าศาลา อ.เมืองเชียงใหม่
ที่บันทึกเหตุการณ์ช่วงเช้ามืดของวันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา
มีรถเก๋งคันหนึ่งขับมาด้วยความเร็ว เสียหลักพุ่งชนขอบถนนทำให้รถพลิกหลายตลบ
ก่อนตกลงไปในอุโมงค์ลอดทางแยก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 2 คน คือ
นายพีระพงษ์ อายุ 25 ปี และ น.ส.สุภาวดี อายุ 29 ปี
สภาพศพมีบาดแผลฉกรรจ์นั้น
ล่าสุด (28 ตุลาคม 2561) อมรินทร์ ทีวี รายงานบทสัมภาษณ์ นายต๋อ (นามสมมติ) น้าชายของนายพีระพงษ์ คนขับรถเก๋งคันดังกล่าว เผยว่า หลังเกิดเหตุตนได้รับสายจากเบอร์หลานชายที่เสียชีวิต ซึ่งตอนนั้นตนยังไม่ทราบเรื่อง กระทั่งได้ยินเสียงปลายสายไม่ใช่เสียงของหลาน แต่เป็นเสียงของคนสำเนียงภาคเหนือ แจ้งว่าหลานชายเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้ว ขณะนั้นตนตกใจมาก ตนจึงได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าเป็นมาอย่างไร เมื่อฟังจบก็รู้สึกอึ้งและเสียใจมาก แต่ก็ไม่ทราบว่าเหตุใดหลานถึงไปประสบอุบัติเหตุอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ได้
ทั้งนี้คาดว่าหลานน่าจะไปทำงานและมีครอบครัวอยู่ที่นั่น แต่ทุกครั้งที่กลับมาบ้าน หลานก็ไม่เคยพาใครมาแนะนำให้รู้จัก อีกทั้งหลานเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด ตนเชื่อว่าอุบัติเหตุครั้งนี้หลานชายอาจไม่ชินเส้นทาง
ส่วนลางบอกเหตุ ตนฝันเห็นว่าหลานอีกคนมายืนอยู่ปลายเตียง และตกเตียง ไม่มีใครมาอุ้ม กระทั่งเมื่อตื่นขึ้นมา ตนก็ได้ยินข่าวการสูญเสียครั้งนี้
ขณะที่ นายคมกฤช อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นพยานและผู้เห็นเหตุการณ์ เผยว่า
ในช่วงเกิดเหตุรถเก๋งคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วสูงก่อนพุ่งชนเกาะกลางถนน
ทำให้รถเสียหลัก กระเด็นพลิกไปหลายตลบ
แล้วตกลงไปในอุโมงค์ลอดทางแยกหนองประทีป
ทำให้คนขับและคนที่นั่งมาด้วยเสียชีวิตคาที่ทั้งคู่
โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ส่วนตัวคิดว่าบริเวณดังกล่าวค่อนข้างมืด เนื่องจากไฟส่องสว่างถนนเสีย ทำให้คนขับรถมองไม่เห็นเกาะกลาง ประกอบกับไม่ชินเส้นทาง และขับมาด้วยความเร็วจึงเกิดอุบัติเหตุขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตนเพิ่งมาประจำอยู่ที่จุดนี้ได้ประมาณ 10 วัน แต่พบอุบัติเหตุลักษณะเดียวกันและที่จุดเดียวกัน เกิดขึ้น 3 ครั้งแล้ว ซึ่งอุบัติเหตุล่าสุดเกิดขึ้นอีกเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ล่าสุด (28 ตุลาคม 2561) อมรินทร์ ทีวี รายงานบทสัมภาษณ์ นายต๋อ (นามสมมติ) น้าชายของนายพีระพงษ์ คนขับรถเก๋งคันดังกล่าว เผยว่า หลังเกิดเหตุตนได้รับสายจากเบอร์หลานชายที่เสียชีวิต ซึ่งตอนนั้นตนยังไม่ทราบเรื่อง กระทั่งได้ยินเสียงปลายสายไม่ใช่เสียงของหลาน แต่เป็นเสียงของคนสำเนียงภาคเหนือ แจ้งว่าหลานชายเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้ว ขณะนั้นตนตกใจมาก ตนจึงได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าเป็นมาอย่างไร เมื่อฟังจบก็รู้สึกอึ้งและเสียใจมาก แต่ก็ไม่ทราบว่าเหตุใดหลานถึงไปประสบอุบัติเหตุอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ได้
ทั้งนี้คาดว่าหลานน่าจะไปทำงานและมีครอบครัวอยู่ที่นั่น แต่ทุกครั้งที่กลับมาบ้าน หลานก็ไม่เคยพาใครมาแนะนำให้รู้จัก อีกทั้งหลานเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด ตนเชื่อว่าอุบัติเหตุครั้งนี้หลานชายอาจไม่ชินเส้นทาง
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ด้านนางประยูรศรี อายุ 82 ปี ยายของผู้ตาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า
รู้สึกตกใจและเสียใจมาก หลานชายเป็นเด็กดี ออกไปทำงานหาเงินหลังจบ ม.3
ก่อนหน้านี้หลานได้แวะมาบอกตนก่อนจะเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัดว่า
คิดถึงยายนะ ไม่ต้องเป็นห่วง
ซึ่งหลานจะคอยดูแลตนตลอดเวลาที่แวะกลับมาที่บ้าน
เพราะตนเป็นผู้ป่วยนอนติดเตียง
ส่วนลางบอกเหตุ ตนฝันเห็นว่าหลานอีกคนมายืนอยู่ปลายเตียง และตกเตียง ไม่มีใครมาอุ้ม กระทั่งเมื่อตื่นขึ้นมา ตนก็ได้ยินข่าวการสูญเสียครั้งนี้
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ส่วนตัวคิดว่าบริเวณดังกล่าวค่อนข้างมืด เนื่องจากไฟส่องสว่างถนนเสีย ทำให้คนขับรถมองไม่เห็นเกาะกลาง ประกอบกับไม่ชินเส้นทาง และขับมาด้วยความเร็วจึงเกิดอุบัติเหตุขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตนเพิ่งมาประจำอยู่ที่จุดนี้ได้ประมาณ 10 วัน แต่พบอุบัติเหตุลักษณะเดียวกันและที่จุดเดียวกัน เกิดขึ้น 3 ครั้งแล้ว ซึ่งอุบัติเหตุล่าสุดเกิดขึ้นอีกเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก