บอย สกล โต้ปมลวงโลก แจงโผล่จุฬาฯ เพราะเพื่อนชวน ปัดอมเงินรุ่น จ่อแจ้งความกลับ

บอย สกล เปิดใจสื่อ แจงโผล่จุฬาฯ เพราะเพื่อนชวน ยันเปล่าแอบอ้างรหัสคนอื่น ปัดอมเงินรุ่น ม.บูรพา เตรียมแจ้งความกลับคนกล่าวหา ยันแค่ชี้แจงไม่ได้มาขอโทษสังคม

ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว

ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ชื่อของ "บอย สกล" กลายเป็นที่พูดถึงในสังคมออนไลน์อย่างหนัก หลังมีผู้คนบางส่วนออกมาเปิดเผยพฤติกรรมที่หนุ่มบอย เข้าไปโผล่ร่วมกิจกรรมในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้เรียนที่นั่น ตามมาซึ่งการแฉอีกว่า บอย มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินรุ่นคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ที่หายไปหลายแสนบาทหรือไม่นั้น

ล่าสุด วันที่ 28 ตุลาคม 2561 บอย สกล ให้สัมภาษณ์กับรายการทุบโต๊ะข่าว ว่า ช่วงแรกที่ทราบเรื่อง รู้สึกแย่มาก เพราะมีกระแสวิจารณ์แรงมาก ทำให้ต้องถอยกลับไปตั้งหลัก โดยตอนนี้พร้อมออกมาชี้แจงแล้ว ซึ่งกรณีที่ตนปรากฏตัวในงานประเพณีฟุตบอล เกิดจากเพื่อนที่รู้จักชักชวนให้ไปช่วยงาน อ้างว่าคนไม่เพียงพอ ซึ่งงานดังกล่าวก็เป็นงานเปิดใครก็สามารถเข้าร่วมได้ และตนส่งหนังสือชี้แจงไปยังมหาวิทยาลัยแล้ว ซึ่งตอนนี้หากเลือกได้ก็จะไม่ไปเดินอยู่ในงานนั้นอย่างแน่นอน พร้อมยืนยันว่าไม่เคยไปนั่งเรียนในมหาวิทยาลัย และไม่เคยทำเลขนักศึกษาที่จบไปแล้วมาแอบอ้างแต่อย่างใด

ส่วนดราม่าเรื่องเงินคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา นายสกล เปิดเผยว่า ตนเคยเข้าเรียนเป็นเวลา 1 ปี ขณะนั้นได้รับหน้าที่เป็นประธานรุ่นและยังเคยเป็นคนเก็บเงินรุ่นจริง คาดว่าเป็นเงินไม่เกิน 600,000 บาท ซึ่งภายหลังทราบว่าเงินหายไป แต่ตนไม่ได้เอาเงินไป เพราะชื่อบัญชีไม่ใช่ชื่อของตนจึงไม่สามารถเบิกไปใช้จ่ายได้ ส่วนเงินหายไปไหน ตนไม่ทราบ ดังนั้นควรให้เหรัญญิกออกมาชี้แจง

ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว

นายสกล ยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของคนในครอบครัว แต่ก็ยังมีกำลังใจที่ดี และได้รับคำแนะนำตลอด แต่เรื่องที่ครอบครัวยังคงติดใจคือเรื่องเงินรุ่น เพราะเป็นเงินจำนวนไม่น้อย จึงไม่สามารถปล่อยให้เรื่องเงียบให้สังคมเข้าใจว่าตนเป็นคนผิด โดยในวันที่ 31 ตุลาคม นี้ ตนจะเข้าแจ้งความกรณีที่มีคนอ้างว่าตนนำเงินไปใช้ พร้อมทั้งจะเปิดหลักฐานทั้งหมด เพื่อให้สังคมเข้าใจต่อไป

สุดท้ายนี้ บอย สกล ย้ำว่า ออกมาให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการขอโทษสังคมแต่อย่างใด แต่เป็นเพียงแค่ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเท่านั้น ยืนยันว่าตัวเองไม่ผิด และให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อีกไม่นานความจริงจะปรากฏ