พบแล้ว ซากลำตัวเครื่องบินไลอ้อนแอร์ เร่งกู้-ส่งทีมค้นหากล่องดำไขปริศนา

เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียเร่งกู้ซากเครื่องบินไลอ้อนแอร์ หลังเจอซากส่วนลำตัวเครื่องที่ใต้ก้นทะเลชวา พร้อมส่งทีมดำน้ำลงค้นหากล่องดำ เพื่อไขปริศนาโศกนาฏกรรม

ภาพจาก ADEK BERRY / AFP

นับเป็นเหตุสะเทือนขวัญทางอากาศครั้งล่าสุด เมื่อเครื่องบินเที่ยวบินที่ JT-610 ของสายการบินไลอ้อนแอร์ อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเครื่องรุ่นใหม่ โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 (Boeing 737 MAX 8) อายุการใช้งานเพียง 2 เดือน เกิดประสบเหตุตกลงกลางทะเล หลังออกเดินทางจากกรุงจาการ์ตา ได้เพียงไม่กี่นาที โดยมีเส้นทางมุ่งหน้าไปยังหมู่เกาะบังกาเบลีตุง แต่สุดท้ายไปไม่ถึงจุดหมาย เป็นเหตุให้ 189 ชีวิต ดิ่งลงสู่ทะเล

ภายหลังจากเกิดเหตุเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ (31 ตุลาคม 2561) แม้ว่าความหวังการพบผู้รอดชีวิตจะริบหรี่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังคงปฏิบัติการค้นหาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด เว็บไซต์เดลี่เมล เผยรายงานความคืบหน้าว่า ทางเจ้าหน้าที่กองทัพอินโดนีเซีย แถลงการค้นพบซากส่วนลำตัวเครื่องบินที่บริเวณใต้ก้นทะเลชวา ทางตอนเหนือของเขตกาลาวงศ์ จังหวัดชวาตะวันตก

โดยทางเจ้าหน้าที่เร่งกู้ซากชิ้นส่วนดังกล่าว พร้อมส่งทีมนักดำน้ำดำค้นหากล่องดำ เพื่อทราบข้อมูลบันทึกการบิน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่มั่นใจและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเจอ อันจะนำไปสู่การไขปริศนาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ ในขณะที่ทีมช่วยเหลือผู้ประสบภัย ยังคงเดินหน้าค้นหาผู้รอดชีวิต 24 ชั่วโมง แม้ความหวังจะเหลือน้อยมากลงทุกที โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บกู้ชิ้นส่วนร่างผู้เสียชีวิตบรรจุลงถุงจำนวน 48 ถุง โดยยังไม่สามารถระบุเป็นจำนวนศพได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอเพื่อระบุตัวตนเหยื่อ โดยคาดว่าจะทราบผลใน 4-8 วัน

ภาพจาก BAY ISMOYO / AFP

ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดและความกดดันของทางเจ้าหน้าที่ ข้อสงสัยสำคัญที่ว่า เพราะเหตุใดเครื่องบินรุ่นใหม่ที่มีอายุการใช้งานเพียง 2 เดือน ถึงได้ตกลงกลางทะเลเช่นนี้ ก็ยังคงเป็นประเด็นที่พูดถึงอย่างมาก โดยรายงานเผยว่า ทางผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทโบอิ้ง บริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์อากาศยานและยุทโธปกรณ์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐฯ ได้เดินทางมาร่วมทำงานกับทางเจ้าหน้าที่ เพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียดเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น

โดยก่อนหน้านี้ตามรายงานการติดตามการบิน ระบุว่าเครื่องบินเที่ยวบินมรณะดังกล่าว มีระดับความเร็วและระดับความสูงที่ไม่แน่นอน ก่อนที่เครื่องบินจะขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมภาคพื้นดิน อย่างไรก็ดีทางผู้เชี่ยวชาญระบุว่า จะต้องนำข้อมูลจากกล่องดำมาวิเคราะห์ร่วมกันก่อน ถึงจะทราบแน่ชัดว่าสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดจากอะไร

ภาพจาก ADEK BERRY / AFP