หลานสาวเผยหลังยายนวดประคบทำคนตาย เกิดอาการเครียดจัด เศร้าซึมเก็บตัวเงียบ ไม่ยอมกินข้าว ยันไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
โดย น.ส.พัชญ์สินี อายุ 27 ปี หลานของยายหมอนวด กล่าวว่า ปกติสถานที่แห่งนี้เป็นของเอกชนรายหนึ่งที่มาเช่าสถานที่ ไม่ได้เป็นของตลาดน้ำ 4 ภาค เนื่องจากยายอยู่บ้านคนเดียวเกรงว่าจะเหงา เลยพามาฝากให้ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หมู่บ้านวิถีไทย แบบไม่มีเงินเดือน คอยทำหน้าที่ต้อนรับลูกค้าและแนะนำสินค้าในร้าน ซึ่งยายไม่ได้มีอาชีพเป็นหมอนวด ซึ่งยายเล่าให้ฟังว่า ในวันเกิดเหตุได้ใช้ลูกประคบสมุนไพรประคบที่ขาของผู้ตาย และใช้น้ำมันทาเท่านั้น ไม่ได้ลงมือบีบนวดร่างกาย
หลังเกิดเรื่องยายรู้สึกเสียใจจนความดันขึ้น
มีอาการเครียด และไม่ยอมรับประทานอาหาร ตนก็ได้แต่ปลอบใจ
และบอกให้ยายมาทำงานตามปกติ เพราะเกรงจะคิดมาก
กระทั่งมีการนำคลิปไปลงในโลกโซเชียล
และมีพนักงานในร้านเดียวกันพูดในเชิงไม่ดี ทำให้ยายเสียใจมาก
จนปัจจุบันไม่ยอมพูดกับใคร และไม่อยากรับประทานอาหาร เอาแต่เก็บตัวเงียบ
ตนเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
หากจะไปโทษสถานที่ก็คงไม่ถูกนัก เพราะตนเป็นคนนำยายมาฝากให้ทำงาน
ส่วนตัวก็รู้สึกผิด ยายเองก็เสียใจ หากยายเป็นอะไรไป
ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเช่นกัน
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2561 น.ส.จันทร์ดา ศักดิ์เหิม อายุ 32 ปี
ภรรยาของนายสมบัติ กวนศักดิ์ อายุ 37 ปี ที่ไปนวดแผนไทยและเสียชีวิต
และนางพรรธน์นภา อุดหนุน อายุ 37 ปี ผู้โพสต์เหตุดังกล่าว
ได้พาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่หมู่บ้านวิถีไทย ต.หนองปรือ อ.บางละมุง
จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้ตายเข้าไปนวด
พบว่าด้านในมีการจำลองหมู่บ้านตามแบบวิถีไทย
โดยสถานที่ที่ผู้ตายเข้าไปนวดเปิดเป็นร้านจำหน่ายของที่ระลึก และสมุนไพร
ไม่ได้เปิดเป็นร้านนวดแผนโบราณ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก พรรธน์นภา อุดหนุน
โดย น.ส.พัชญ์สินี อายุ 27 ปี หลานของยายหมอนวด กล่าวว่า ปกติสถานที่แห่งนี้เป็นของเอกชนรายหนึ่งที่มาเช่าสถานที่ ไม่ได้เป็นของตลาดน้ำ 4 ภาค เนื่องจากยายอยู่บ้านคนเดียวเกรงว่าจะเหงา เลยพามาฝากให้ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หมู่บ้านวิถีไทย แบบไม่มีเงินเดือน คอยทำหน้าที่ต้อนรับลูกค้าและแนะนำสินค้าในร้าน ซึ่งยายไม่ได้มีอาชีพเป็นหมอนวด ซึ่งยายเล่าให้ฟังว่า ในวันเกิดเหตุได้ใช้ลูกประคบสมุนไพรประคบที่ขาของผู้ตาย และใช้น้ำมันทาเท่านั้น ไม่ได้ลงมือบีบนวดร่างกาย