สาวเป็นตุ่มคันที่ขาหนีบ โร่ให้หมอตรวจ แทบกรี๊ดสลบ เจอหนอนใต้เนื้อ !

ภาพจาก journals.sagepub.com

            สำหรับคู่ข้าวใหม่ปลามันแล้ว สิ่งที่พวกเขาหลาย ๆ คนเฝ้ารอหลังแต่งงานก็คือ การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ หรือไปฮันนีมูนสุดโรแมนติกด้วยกัน หญิงสาวชาวอเมริกัน วัย 36 ปี เจ้าสาวป้ายแดงหมาด ๆ คนนี้ก็เช่นกัน เธอและสามีเดินทางไปฮันนีมูนกันที่ประเทศเบลีซ เพื่อดื่มด่ำกับสายลม แสงแดดและน้ำทะเลสีครามแสนสวยของทะเลแคริบเบียน ทุกอย่างหวานชื่นโรแมนติกและเป็นไปด้วยดีตลอดทริป และพวกเขาก็เดินทางกลับบ้านในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา กันอย่างมีความสุข

            แต่เมื่อเวลาผ่านไป 2 เดือน ฝ่ายภรรยาก็พบเห็นความผิดปกติบนร่างกายของเธอ เธอสังเกตเห็นตุ่มนูนขนาดเล็กคล้ายฝีไม่มีหัว บริเวณซอกขาหนีบด้านซ้าย ใกล้กับอวัยวะเพศ มันไม่ได้เจ็บปวดอะไร แต่ก็คันยิบ ๆ สร้างความรำคาญอย่างมาก เธอจึงไปโรงพยาบาลให้หมอตรวจดู โดยหมอวินิจฉัยว่าตุ่มคันนี้อาจจะเกิดจากแมลงสัตว์กัดต่อย จึงได้ให้ยาฆ่าเชื้อไป แต่ยาฆ่าเชื้อกลับไม่ช่วยอะไร แถมอาการยังแย่ลง ตุ่มแตกออกเป็นรู หญิงสาวจึงไปหาหมออีกครั้ง และก็ได้รับรู้ความจริงสุดสยอง ที่ทำเอาสะพรึงไปทั้งหมอและคนไข้

ภาพจาก journals.sagepub.com

            ปัญหาของคนไข้รายนี้ไม่ใช่ฝี ไม่ใช่ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ แต่เป็นหนอนตัวอ่อนที่ฝังตัวอยู่ใต้ผิวหนังของเธอ ! สิ่งมีชีวิตหน้าตาสุดสะพรึงตัวนี้มีความยาวประมาณ 1 เซนติเมตร มีหนามแหลมเล็ก ๆ สีดำเรียงรายรอบตัวมัน และมีปากแหลม ๆ ยึดเกาะดูดกินสารอาหารจากร่างกายของคนไข้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากแผนกพยาธิวิทยาถูกเชิญมาตรวจสอบว่ามันคือตัวอะไรกันแน่ ซึ่งเขาก็ระบุว่ามันคือหนอนตัวอ่อนของแมลงวันเบียน (Human Botfly) โดยแมลงวันเบียนโตเต็มวัยมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับผึ้ง มีถิ่นอาศัยอยู่ในประเทศแถบอเมริกากลางและอเมริกาใต้


            สาเหตุที่เรียกมันว่า Human Botfly ก็เป็นเพราะว่ามันแพร่พันธุ์ด้วยการฝังตัวอ่อนบนร่างกายมนุษย์ แต่มันจะไม่ได้กัดแล้วฝังไข่บนร่างกายมนุษย์โดยตรง โดยจะอาศัยแมลง หรือยุงเป็นพาหะแทน เมื่อยุงที่เป็นพาหะแมลงวันเบียนมากัดมนุษย์ ไข่ของแมลงวันเบียนก็จะถูกฝังลงไปด้วย และไข่ก็จะฟักตัวกลายเป็นตัวอ่อน เจริญเติบโตอยู่ใต้ผิวหนังของมนุษย์ ลึกลงไปในผิวหนังประมาณ 2-3 เซนติเมตร

            แผลแบบนี้เป็นอาการที่เรียกว่า โรคแผลหนอนแมลงวัน (Myiasis) โรคนี้ไม่ค่อยพบในสหรัฐฯ แต่จะพบได้บ่อยในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ซึ่งเป็นถิ่นอาศัยของแมลงวันเบียน ในกรณีของหญิงสาวรายนี้ คาดว่าเธอน่าจะถูกกัดขณะไปเที่ยวที่เบลีซ และเมื่อเวลาผ่านไป 2 เดือน ตัวอ่อนก็เจริญเติบโตจนกลายเป็นตุ่มคัน

            ตัวอ่อนของแมลงวันเบียนจะต้องการอากาศหายใจ ดังนั้นเมื่อตุ่มเริ่มโตไปในระยะหนึ่ง ผิวหนังก็จะเปิดออกเป็นรู ถ้าผู้คนในแถบอเมริกากลางและอเมริกาใต้ พบว่าตัวเองกลายเป็นที่อยู่ของตัวอ่อนแมลงวันเบียนเข้าแล้ว พวกเขาจะใช้วาสลีน หรือปิโตรเลียมเจลลี่ ยาทาเล็บ หรือไม่ก็ยาทาผิวหนัง มาทาบริเวณแผลเพื่อน็อกตัวอ่อน หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ตัวอ่อนจะขยับคืบคลานออกมาใกล้ปากแผล ทำให้สามารถใช้แหนบคีบดึงมันออกมาได้โดยง่าย


            หมอเอ็นริโก เปิดเผยว่า ถ้าหากหญิงสาวหรือคนไข้รายอื่น ๆ ที่โดนตัวอ่อนแมลงวันเบียนฝังในผิวหนัง แล้วไม่ได้มาหาหมอ ตัวอ่อนตัวนี้ก็จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้ตุ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นและลึกขึ้น แผลอักเสบมากขึ้น จนกระทั่งตัวอ่อนกลายเป็นแมลงวันเบียนโตเต็มวัยและหลุดออกมาในที่สุด

            สำหรับหญิงสาวนั้น เมื่อเธอรับรู้ว่าแผลที่ขาหนีบ ซึ่งห่างจากอวัยวะเพศของตัวเองไปแค่นิดเดียว แท้จริงแล้วเป็นที่อยู่อาศัยของตัวอ่อนแมลงหน้าตาสยดสยอง เธอก็รู้สึกขยะแขยงและขนพองสยองเกล้าเป็นอย่างมาก แทบจะเป็นลมคาห้องตรวจ แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาก็ได้รับการแก้ไขแล้ว และเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ แผลก็หายสนิทเป็นปกติ