เปิดเรื่องราวชีวิตเปี่ยมแรงบันดาลใจของ หญิงสาวชาวอเมริกัน วัย 25 ปี หลังหนีคนร้ายลวนลามจนตกเขาที่ไทย แต่ไม่ย่อท้อชะตาชีวิต จนได้เป็นนักวิ่งมาราธอน เผยครั้งนี้ใช้ไม้เท้าช่วยค้ำ แต่ครั้งหน้า จะวิ่งด้วยสองขาของตัวเอง
การที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ต้องกลายมาเป็นคนพิการ มันได้ส่งผลกระทบต่อฮันนาห์เป็นอย่างมาก ทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่เธอไม่ยอมท้อถอยกับชะตาชีวิต เธอลุกขึ้นสู้ จนในวันหนึ่ง เธอก็สามารถทำในสิ่งที่ท้าทายที่สุดได้สำเร็จ นั่นคือการวิ่งมาราธอน
ผลจากอุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ฮันนาห์เป็นอัมพาตบางส่วน
(Partial Pralysis) ขาและกล้ามเนื้อของเธอยังพอมีความรู้สึก
แต่เธอไม่สามารถกลับไปเดินเป็นปกติได้เหมือนเดิม แม้ว่าฮันนาห์จะเป็นทุกข์
แต่เธอไม่ย่อท้อ โดยเมื่ออาการบาดเจ็บหายสนิทแล้ว
ฮันนาห์ต้องใช้เวลานานมากในการฟื้นฟูร่างกาย ทั้งการทำกายภาพบำบัดและอื่น ๆ
เธอไม่อยากให้ชีวิตตัวเองต้องอับเฉาด้วยการนอนอยู่เฉย ๆ
ปล่อยให้พลังงานแห้งเหือดไปเรื่อย ๆ เธอจึงลุกขึ้นมาสู้
แม้ว่ามันจะยากก็ตาม
ฮันนาห์หันหน้าเข้าสู่การวิ่ง สำหรับคนปกติมันอาจจะง่าย แต่สำหรับเธอมันยากมาก แต่เธอก็ไม่ย่อท้อ พยายามฝึกฝนไปเรื่อย ๆ และเมื่อเวลาผ่านไป 2 ปี ฮันนาห์ได้เดินเข้าสู่ความท้าทายครั้งสำคัญ นั่นคือการวิ่งมาราธอน
ฮันนาห์ได้เข้าร่วมการแข่งขันวิ่งมาราธอน TCS New York City Marathon 2018 ที่มหานครนิวยอร์ก เมืองเกิดของเธอ มันเป็นการท้าทายโชคชะตาครั้งใหญ่สำหรับฮันนาห์ เพราะมันเป็นการวิ่งมาราธอนครั้งแรกของเธอ แถมเธอยังต้องใช้ไม้เท้าและที่รัดขาในการวิ่ง เธอกลัวว่าเธออาจจะทำได้ไม่สำเร็จ แต่เธอก็ทำได้ ฮันนาห์ก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ จากจุดสตาร์ต และใช้ไม้เท้าขยับร่างไปเรื่อย ๆ อย่างไม่ย่อท้อ
ฮันนาห์ใช้เวลานานกว่า 11 ชั่วโมง ในการต่อสู้กับร่างกายตัวเองตลอดระยะทาง 42 กิโลเมตร และในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงเส้นชัย นักวิ่งคนอื่น ๆ รวมทั้งผู้ชม ต่างส่งเสียงเชียร์ โห่ร้องให้กำลังใจฮันนาห์อย่างเต็มที่ จนเธอสามารถก้าวสู้เส้นชัยได้ในที่สุด
"ฉันเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ถ้าฉันพยายามให้ถึงที่สุด และรักษาตัวเองอย่างสุดความสามารถ สักวันหนึ่ง ฉันจะกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้ง สำหรับวันนี้ ฉันได้เปิดใจยอมรับความพิการของตัวเอง และทำใจได้แล้วว่าต้องใช้ชีวิตอยู่กับมัน แต่ทั้งนี้ฉันก็ยังเชื่อว่า ความพิการของฉันมันเป็นแค่ของชั่วคราวเท่านั้น สักวันมันจะต้องจากฉันไปค่ะ"
"ในปีนี้ โลกได้เห็นฉันเตาะแตะด้วยไม้เท้าสู่เส้นชัยการวิ่งมาราธอน และในเร็ว ๆ นี้ โลกจะต้องได้เห็นฉันเข้าสู่เส้นชัยอีกครั้ง ด้วยการวิ่ง และด้วยสองเท้าของฉันเอง" ฮันนาห์ กล่าว
ภาพจาก workpointtv.com
ฮันนาห์ กาวิออส คือหญิงสาวชาวอเมริกัน วัย 25 ปี
ผู้รักการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ และเดินทางท่องเที่ยวมาแล้วหลายแห่งทั่วโลก
ซึ่งนอกจากจะเป็นแบ็กแพ็กเกอร์แล้ว
เธอยังทำหน้าที่เป็นครูสอนภาษาอังกฤษอีกด้วย ในช่วงปี 2559
ฮันนาห์เดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย
เธอหวังว่าจะได้พบกับความสงบสุขในประเทศที่แสนสวยงามนี้
แต่ฮันนาห์กลับพบเจอกับฝันร้ายที่จะหลอกหลอนเธอไปตลอดชีวิต
และเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอกลายเป็นอัมพาต
การที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ต้องกลายมาเป็นคนพิการ มันได้ส่งผลกระทบต่อฮันนาห์เป็นอย่างมาก ทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่เธอไม่ยอมท้อถอยกับชะตาชีวิต เธอลุกขึ้นสู้ จนในวันหนึ่ง เธอก็สามารถทำในสิ่งที่ท้าทายที่สุดได้สำเร็จ นั่นคือการวิ่งมาราธอน
เรื่องราวชีวิตของผู้หญิงคนนี้ถูกหยิบยกมารายงานโดยเว็บไซต์เมโทร เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2561 โดยในช่วงที่ฮันนาห์อยู่ที่ประเทศไทยนั้น
เธอได้ไปท่องเที่ยวที่ภาคใต้ของไทย ในวันหนึ่ง
เธอได้ออกไปเดินกินลมชมวิวบนเขา แต่จำทางกลับโรงแรมไม่ได้
ขณะที่ฮันนาห์กำลังเดินหาทางอยู่นั้น เธอถูกผู้ชายคนหนึ่งจู่โจม
และพยายามจะลวนลามเธอ ฮันนาห์ดิ้นรนหนีเอาตัวรอด จนวิ่งหนีมาได้
และพลัดลื่นตกเขา ความสูงประมาณ 50 เมตร จนหลังหัก
ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้ และเธอต้องนอนอยู่ตรงนั้นเป็นเวลาร่วม 8
ชั่วโมง กว่าเจ้าหน้าที่จะช่วยเหลือเธอได้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Hannah Gavios
ฮันนาห์หันหน้าเข้าสู่การวิ่ง สำหรับคนปกติมันอาจจะง่าย แต่สำหรับเธอมันยากมาก แต่เธอก็ไม่ย่อท้อ พยายามฝึกฝนไปเรื่อย ๆ และเมื่อเวลาผ่านไป 2 ปี ฮันนาห์ได้เดินเข้าสู่ความท้าทายครั้งสำคัญ นั่นคือการวิ่งมาราธอน
ฮันนาห์ได้เข้าร่วมการแข่งขันวิ่งมาราธอน TCS New York City Marathon 2018 ที่มหานครนิวยอร์ก เมืองเกิดของเธอ มันเป็นการท้าทายโชคชะตาครั้งใหญ่สำหรับฮันนาห์ เพราะมันเป็นการวิ่งมาราธอนครั้งแรกของเธอ แถมเธอยังต้องใช้ไม้เท้าและที่รัดขาในการวิ่ง เธอกลัวว่าเธออาจจะทำได้ไม่สำเร็จ แต่เธอก็ทำได้ ฮันนาห์ก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ จากจุดสตาร์ต และใช้ไม้เท้าขยับร่างไปเรื่อย ๆ อย่างไม่ย่อท้อ
ฮันนาห์ใช้เวลานานกว่า 11 ชั่วโมง ในการต่อสู้กับร่างกายตัวเองตลอดระยะทาง 42 กิโลเมตร และในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงเส้นชัย นักวิ่งคนอื่น ๆ รวมทั้งผู้ชม ต่างส่งเสียงเชียร์ โห่ร้องให้กำลังใจฮันนาห์อย่างเต็มที่ จนเธอสามารถก้าวสู้เส้นชัยได้ในที่สุด
"ฉันเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ถ้าฉันพยายามให้ถึงที่สุด และรักษาตัวเองอย่างสุดความสามารถ สักวันหนึ่ง ฉันจะกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้ง สำหรับวันนี้ ฉันได้เปิดใจยอมรับความพิการของตัวเอง และทำใจได้แล้วว่าต้องใช้ชีวิตอยู่กับมัน แต่ทั้งนี้ฉันก็ยังเชื่อว่า ความพิการของฉันมันเป็นแค่ของชั่วคราวเท่านั้น สักวันมันจะต้องจากฉันไปค่ะ"
"ในปีนี้ โลกได้เห็นฉันเตาะแตะด้วยไม้เท้าสู่เส้นชัยการวิ่งมาราธอน และในเร็ว ๆ นี้ โลกจะต้องได้เห็นฉันเข้าสู่เส้นชัยอีกครั้ง ด้วยการวิ่ง และด้วยสองเท้าของฉันเอง" ฮันนาห์ กล่าว
ทั้งนี้ฮันนาห์สามารถระดุมทุนหาเงินค่ารักษาพยาบาลได้กว่า
20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 659,600 บาท
ซึ่งเธอจะใช้เงินส่วนนี้ไปกับโครงการวิจัยโรคกระดูกสันหลัง
และหวังว่าความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ จะสามารถช่วยให้เธอหาย
และสามารถเดินได้ด้วยสองขาของตัวเองอีกครั้ง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Hannah Gavios









