ศาลอุทธรณ์ สั่ง 2 จำเลย คดีฆ่ายกครัว 8 ศพ บ้านผู้ใหญ่วรยุทธ ร่วมชดใช้ค่าเสียหาย ด้าน บังฟัต เตรียมรับผิดชอบจ่าย 7.5 ล้าน แทนจำเลยผู้ร่วมก่อเหตุ
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2561 ข่าวเวิร์คพอยท์ รายงานว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้นัดฟังคำสั่งคดีฆ่ายกครัว 8 ศพ ครอบครัวของ นายวรยุทธ สังหลัง อดีตผู้ใหญ่บ้านเขางาม ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ซึ่งถูก นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือ บังฟัต อายุ 41 ปี ร่วมกับพวกรวม 8 คน บุกเข้าไปใช้อาวุธสังหารเสียชีวิตภายในบ้านพักเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2560 โดยก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นได้พิพากษาประหารชีวิตบังฟัต พร้อมพวกรวม 6 คน และให้จ่ายค่าสินไหมชดเชย 7.5 ล้านบาท แก่ครอบครัวผู้เสียหาย ส่วนจำเลยอีก 2 คน โดนตัดสินโทษจำคุก 1-2 ปี
ทั้งนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ในส่วนของคดีแพ่งให้จำเลยที่ 7 และ 8 ชำระดอกเบี้ยนับแต่วันทำละเมิด แต่ในส่วนของคดีอาญาที่ญาติของผู้ตายยื่นอุทธรณ์นั้น ศาลมีคำสั่งว่าผู้ร้องไม่ได้เป็นโจทก์ร่วมกับฝ่ายอัยการตั้งแต่ต้น จึงไม่มีอำนาจยื่นอุทธรณ์ในส่วนของคดีอาญา ศาลจึงไม่จำเป็นต้องพิเคราะห์อุทธรณ์ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ดังนั้นจึงมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ในส่วนของคดีอาญา
ด้าน นายเกรียงศักดิ์ สารภี ทนายความของนายซูริก์ฟัต และจำเลยทั้ง 7 คน กล่าวว่า ศาลอุทธรณ์ยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นเกี่ยวกับเนื้อหาคดีอาญา ซึ่งในส่วนคดีแพ่ง นายซูริก์ฟัต บอกว่ายินยอมชดใช้ค่าเสียหายทดแทนในส่วนนั้นทั้งหมดแก่จำเลยที่ 2-6 รวมจำนวนประมาณ 7.5 ล้านบาท ส่วนจะจ่ายเมื่อไหร่ต้องรอประสานกับจำเลยที่ 1 และที่ 8 อีกครั้งหนึ่ง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2561 ข่าวเวิร์คพอยท์ รายงานว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้นัดฟังคำสั่งคดีฆ่ายกครัว 8 ศพ ครอบครัวของ นายวรยุทธ สังหลัง อดีตผู้ใหญ่บ้านเขางาม ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ซึ่งถูก นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือ บังฟัต อายุ 41 ปี ร่วมกับพวกรวม 8 คน บุกเข้าไปใช้อาวุธสังหารเสียชีวิตภายในบ้านพักเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2560 โดยก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นได้พิพากษาประหารชีวิตบังฟัต พร้อมพวกรวม 6 คน และให้จ่ายค่าสินไหมชดเชย 7.5 ล้านบาท แก่ครอบครัวผู้เสียหาย ส่วนจำเลยอีก 2 คน โดนตัดสินโทษจำคุก 1-2 ปี
ทั้งนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ในส่วนของคดีแพ่งให้จำเลยที่ 7 และ 8 ชำระดอกเบี้ยนับแต่วันทำละเมิด แต่ในส่วนของคดีอาญาที่ญาติของผู้ตายยื่นอุทธรณ์นั้น ศาลมีคำสั่งว่าผู้ร้องไม่ได้เป็นโจทก์ร่วมกับฝ่ายอัยการตั้งแต่ต้น จึงไม่มีอำนาจยื่นอุทธรณ์ในส่วนของคดีอาญา ศาลจึงไม่จำเป็นต้องพิเคราะห์อุทธรณ์ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ดังนั้นจึงมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ในส่วนของคดีอาญา
ด้าน นายเกรียงศักดิ์ สารภี ทนายความของนายซูริก์ฟัต และจำเลยทั้ง 7 คน กล่าวว่า ศาลอุทธรณ์ยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นเกี่ยวกับเนื้อหาคดีอาญา ซึ่งในส่วนคดีแพ่ง นายซูริก์ฟัต บอกว่ายินยอมชดใช้ค่าเสียหายทดแทนในส่วนนั้นทั้งหมดแก่จำเลยที่ 2-6 รวมจำนวนประมาณ 7.5 ล้านบาท ส่วนจะจ่ายเมื่อไหร่ต้องรอประสานกับจำเลยที่ 1 และที่ 8 อีกครั้งหนึ่ง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
