คดีสะเทือนขวัญ เด็กชาย วัย 13 ปี คว้ามีดปล้นหญิงชราพิการ กระหน่ำแทงยับ 60 แผล ตัดเต้านมทิ้ง ก่อนขโมยเงิน 75 บาท แล้วหลบหนี
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561 เว็บไซต์มิเรอร์ รายงานข่าวสะเทือนขวัญจากประเทศรัสเซีย โดยหญิงชราพิการ วัย 78 ปี
ถูกเด็กชาย วัย 13 ปี ผู้กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
บุกเข้ามาทำร้ายร่างกายอย่างหนัก เขาทั้งทรมานเธอ ตัดเต้านมของเธอทิ้ง
และฆ่าเธอ เพียงเพื่อจะขโมยเงิน แต่หญิงชรามีฐานะขัดสนมาก
เด็กชายคนร้ายจึงได้เงินจากเธอไปแค่ 150 รูเบิล หรือประมาณ 75 บาท เท่านั้น
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความตกตะลึงและสะเทือนขวัญแก่ชาวบ้านเป็นอย่างยิ่ง
เหตุการณ์สลดนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านเชสมา ในเมืองเชสมินกี เขตพื้นที่แคว้นเชเลียบินสค์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศรัสเซีย โดยเด็กชายคนดังกล่าวได้บุกเข้าไปในบ้านคุณยาย พร้อมกับมีด 1 เล่มในมือ เมื่อคุณยายเห็นเขา เธอก็จำได้ว่าเด็กคนนี้เป็นหลานของเพื่อนเธอ จึงได้กล่าวทักทาย แต่เด็กชายแสดงท่าทีคุกคามพร้อมโชว์มีด เธอจึงขอให้เขาออกจากบ้านไป
แต่เด็กชายไม่ทำตาม เขาปราดเข้ามาหาเธอ ใช้มีดกระหน่ำแทงหญิงชราไปทั่วร่าง ทั้งใบหน้า หน้าอก แขนขา และส่วนอื่น ๆ รวมแล้วกว่า 60 แผล และเขาก็ได้ตัดเต้านมเธอออกไปด้วย หลังจากนั้นเขาก็ค้นหาของมีค่า รื้อค้นเงินมาได้ 150 รูเบิล ก่อนจะหลบหนีไป
ทั้งนี้ตามกฎหมายรัสเซียแล้ว
หากคนร้ายยังเป็นเยาวชน พวกเขาจะไม่สามารถถูกลงโทษตามกฎหมายเหมือนผู้ใหญ่
แต่สำหรับกรณีของเด็กชายคนนี้ เขาพฤติการณ์โหดเหี้ยมมาก
และสังหารหญิงชราอย่างทารุณที่สุด ซึ่งเขาก็จะถูกคุมขังในเรือนจำของเยาวชน
และจะต้องออกจากโรงเรียน
เพื่อมาเรียนที่โรงเรียนพิเศษสำหรับเยาวชนผู้มีปัญหา
ภายใต้การดูแลของทางการอย่างเข้มงวดต่อไป