แม่ค้าทุบรถเข็นผลไม้วอนเห็นใจคนหาเช้ากินค่ำ เผยมีลูกค้าเรียกจึงจอดขาย ไม่ได้จอดแช่ เผยหัวหน้าเทศกิจถุยน้ำลายใส่ พร้อมบอก "อย่าให้เจอแถวลาดพร้าว" ด้านเทศกิจซัด มีป้ายห้ามขายชัดเจน แค่จะเข้าไปคุย แต่แม่ค้าทุบรถเอง ยันไม่ได้ปรับแม่ค้า
ภาพจาก เฟซบุ๊ก หัวร้อนเลย
จากกรณีที่โลกโซเชียลพากันวิพากษ์วิจารณ์คลิปการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เทศกิจเขตลาดพร้าว
ขณะเข้าจับกุมแม่ค้าขายอาหารริมทาง บริเวณหน้าโรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4
ซึ่งมีแม่ค้าขายผลไม้คนหนึ่งถูกจับกุม
และทุบตู้กระจกรถเข็นใส่ผลไม้ของตัวเองจนแตกกระจาย
โดยชาวเน็ตต่างก็สงสารทั้งแม่ค้า
และเห็นใจเทศกิจที่ต้องทำตามหน้าที่ด้วยเช่นกัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (13 พฤศจิกายน 2561) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานสัมภาษณ์ นางฐิติชญา สุภารัตน์ หรือ ป้ากาย แม่ค้าขายผลไม้คนดังกล่าว เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ (12 พฤศจิกายน) ตนเข็นรถผลไม้ผ่านบริเวณหน้าโรงพยาบาล ขณะนั้นมีลูกค้าเรียกซื้อ จึงจอดขาย ยืนยันว่าไม่ได้จอดแช่นาน ซึ่งวันนั้นมีรถเทศกิจขับมา 5-6 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ประมาณ 10-20 คน ตนกลัวถูกจับและไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ เพราะเพิ่งขายของได้ไม่กี่ร้อย อีกทั้งต้องจ่ายค่าเทอมลูก และต้องคืนเงินที่ยืมมาลงทุนอีก หากโดนจับปรับ 2,000 บาท คงลำบาก บวกกับความอัดอั้นตันใจ จึงทุบรถเข็นตัวเองเพราะคิดว่าตนหากินสุจริต ไม่ได้ไปคดโกงใคร
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่บางคนก็นิสัยดีมากที่ไม่จับตน แค่บีบแตรไล่ให้ตนไป แต่หัวหน้าเทศกิจพูดจาไม่ดี ถุยน้ำลายใส่ตนและบอกว่า "อย่าให้เจอแถวลาดพร้าว" ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าเป็นคนไทย ทำไมถึงเดินในประเทศไทยไม่ได้ และหลังจากนั้น ตนก็ไปที่เขตเพื่อร้องเรียนว่าทำไมเจ้าหน้าที่จับแต่แม่ค้ารถเข็นที่มาขายตอนเช้า แต่แม่ค้าที่มาขายตอนเย็นไม่โดนจับ
ตนเป็นแม่ค้ารถเข็นคันเล็ก ๆ ไม่ได้เกะกะขวางทาง ไม่ได้จอดแถวประตูฉุกเฉิน อยากให้อะลุ่มอล่วยและเห็นใจหัวอกคนหาเช้ากินค่ำบ้าง ต่อไปตนคงไม่จอดขายหน้าโรงพยาบาลแล้ว คงเข็นขายไปเรื่อย ๆ แทน
ขณะที่ยังไม่ทันคุยกันรู้เรื่อง แม่ค้าผลไม้ก็หยิบท่อนเหล็กมาทุบตู้ผลไม้ตัวเอง ซึ่งตนเป็นคนถ่ายคลิปไว้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องบันทึกภาพทุกครั้งที่ทำงาน เพราะหากเกิดปัญหาจะได้มีหลักฐาน และถ้าตนไม่จับก็จะมีแม่ค้ารวมตัวมาขายของอีก ตนยืนยันว่าทำตามกฎหมาย และวันนั้นก็ไม่ได้ปรับแม่ค้าผลไม้ด้วย
ทั้งนี้ พื้นที่หน้าโรงพยาบาลตามมาตรฐานสากลจะต้องสะอาด ไม่มีสิ่งกีดขวาง
เพื่อความสะดวกรวดเร็วของผู้ป่วยที่เดินทางมารักษา นอกจากนี้
ตนขอฝากบอกผู้ค้าด้วยว่า อยากให้นึกถึงสังคมมาก ๆ
ถ้าร่วมมือกันสังคมจะน่าอยู่ขึ้น แต่ถ้าไม่ให้ความร่วมมือ
สังคมก็จะคงย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก รายการทุบโต๊ะข่าว