x close

2 ผู้นำเขมรแดง ขึ้นศาลคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ประวัติศาสตร์โหดร้าย ที่โลกไม่ลืม

          นวน เจีย และ เขียว สัมพัน สองผู้นำเขมรแดง ถูกศาลตัดสินมีความผิด ในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชาวมุสลิมเชื้อสายจามและชาวเวียดนาม ในสมัยเขมรแดงเรืองอำนาจ
คดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
เขียว สัมพัน : ภาพจาก AFP PHOTO / MARK PETERS / EXTRAORDINARY CHAMBERS IN THE COURTS OF CAMBODIA (ECCC)

          เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า นายนวน เจีย วัย 92 ปี และนายเขียว สัมพัน วัย 87 ปี สองผู้บัญชาการระดับสูงของเขมรแดง ผู้มีอำนาจรองจาก นายพล พต ได้ถูกนำตัวขึ้นพิจารณาคดีในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมเชื้อสายจาม และชุมชนชาวเวียดนามในกัมพูชา ในสมัยที่เขมรแดงเรืองอำนาจ ช่วงปี 2518-2522 โดยศาลตัดสินว่าพวกเขาทั้งสองมีความผิดจริงตามข้อกล่าวหา และพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้งสองได้รับโทษนี้ เนื่องจากได้ถูกพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตในคดีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกันมาแล้วหลายครั้ง และพวกเขาทั้งสองนับเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ถูกตัดสินโทษโดยศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ

          ช่วงที่เขมรแดงภายใต้การนำของ พล พต เรืองอำนาจ ในกัมพูชาเมื่อกว่า 4 ทศวรรษก่อน คือช่วงเวลาสุดโหดร้ายทารุณที่ไม่มีใครลืมได้ลง ประชากรกว่า 2 ล้านคน ในทุกเพศทุกวัย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา ได้ถูกฆ่าทิ้ง โดยภาพถ่ายของเหยื่อ เสื้อผ้า โครงกระดูก และกะโหลกศีรษะจำนวนมากที่ถูกเก็บเอาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ทุ่งสังหาร เป็นเครื่องตอกย้ำถึงความโหดร้ายที่มนุษย์กระทำกับมนุษย์ด้วยกัน และเป็นแผลเป็นที่บาดลึกอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์สมัยใหม่

คดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
นวน เจีย : ภาพจาก AFP PHOTO / MARK PETERS / EXTRAORDINARY CHAMBERS IN THE COURTS OF CAMBODIA (ECCC)

          โจนาธาน เฮด ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้จำกัดความสิ่งที่เขมรแดงทำว่ามันเป็น "อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ" เพราะคำว่า "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ตามหลักกฎหมายนานาชาติ เป็นคำจำกัดความที่แคบเกินกว่าที่จะครอบคลุมการฆ่าล้างผู้คนในจำนวนมากขนาดนั้น นอกจากนี้แล้ว คดีเขมรแดงเป็นคดีที่แตกต่างออกไปจากคดีอื่น ๆ และมันเป็นหนึ่งในกระบวนการเรียกร้องความยุติธรรมระดับนานาชาติที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่าทศวรรษ และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในเรื่องความล่าช้า

          การพิจารณาคดีครั้งล่าสุดของ นวน เจีย และ เขียว สัมพัน มีขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 9 พศจิกายน โดยภายในห้องพิจารณาคดีที่กรุงพนมเปญนั้น เต็มไปด้วยผู้คนที่มาร่วมเป็นสักขีพยานการตัดสิน ส่วนใหญ่ล้วนเป็นบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากความโหดร้ายของเขมรแดง ผู้พิพากษานิน นนน์ ตัดสินว่าทั้งสองมีความผิดในข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต

คดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ภาพจาก AFP PHOTO / MARK PETERS / EXTRAORDINARY CHAMBERS IN THE COURTS OF CAMBODIA (ECCC)

          นวน เจีย มีความผิดในคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมเชื้อสายจาม ส่วน เขียว สัมพัน มีความผิดในฐานะคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชุมชนชาวเวียดนาม ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยของกัมพูชาในสมัยนั้น โดยข้อมูลจากการค้นคว้าวิจัยแสดงให้เห็นว่าชาวเวียดนามมากมายถูกบีบบังคับให้เดินทางออกนอกประเทศ ส่วนที่เหลืออยู่ประมาณ 20,000 คน ก็ถูกเขมรแดงสังหารทั้งหมด

          ชะตากรรมของชาวมุสลิมเชื้อสายจามในช่วงนั้นก็โหดร้ายไม่แพ้กัน กว่า 36 เปอร์เซ็นต์ของประชากรเหล่านี้ ได้ถูกสังหารทิ้งในช่วงที่เขมรแดงเรืองอำนาจ ส่วนจำนวนที่เหลืออยู่ก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้ปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา และถูกบังคับให้บริโภคเนื้อหมูเป็นอาหาร แม้ว่าการตัดสินคดีในครั้งนี้จะไม่สามารถแก้ไขประวัติศาสตร์ได้ แต่อย่างน้อยเหยื่อก็ได้รับความยุติธรรม หลังจากเฝ้ารอมาเป็นเวลานาน


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
2 ผู้นำเขมรแดง ขึ้นศาลคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ประวัติศาสตร์โหดร้าย ที่โลกไม่ลืม อัปเดตล่าสุด 5 สิงหาคม 2562 เวลา 14:15:27 29,535 อ่าน
TOP