คู่รักจอดรถขวาง ยันยกมือไหว้ขอโทษฝ่ายนาวิน ต้าร์ แล้ว เผยสาเหตุโพสต์แฉเพราะโมโหถูกเขียนด่าบุพการี วอนเห็นใจอย่าเอาเรื่อง เพราะมีลูกเล็ก 3 คน ที่ต้องดูแล
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
จากกรณีที่ ไฮโซน้ำหวาน พัสวี ภรรยาสาวของหนุ่มนาวิน ต้าร์ ได้มีการเปิดเผยว่าจะดำเนินการฟ้องร้องคู่กรณีที่มีการโพสต์ข้อความกล่าวหาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง หลังเหตุการณ์จอดรถขวางแต่ใส่เบรกมือที่หาดบางแสน จ.ชลบุรี ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : น้ำหวาน ภรรยา นาวิน ต้าร์ ซัดโจ๋แต่งเรื่อง จ่อฟ้องกลับ ปมจอดรถขวางใส่เบรกมือ)
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (19 พฤศจิกายน 2561) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV ลงพื้นที่ยังจุดเกิดเหตุพบตรงบริเวณถนนเลียบหาดบางแสน สาย 1 ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี มีการติดตั้งป้ายสีน้ำเงินชัดเจน ระบุว่า "กรณีจอดรถซ้อนคัน กรุณาปลดเกียร์ว่าง และลดเบรกมือ" เอาไว้
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ โดย นายพุธ อุดมพันธุ์ หรือ เป๋ อายุ 73 ปี เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนเห็นเหตุการณ์ มีรถจอดซ้อนคันเยอะมาก แต่คันอื่นขยับได้ มีคันที่เกิดเหตุที่ไม่ใส่เกียร์ว่าง ซึ่งก็เห็นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยประกาศตามหาเจ้าของรถจริง ตามริมชายหาด แต่ไม่นานมาก และเมื่อเจอตัวก็ไม่ได้มีปากเสียงหรือทะเลาะกัน พูดคุยกันไม่นานก็แยกย้ายไป ซึ่งเรื่องมีการไหว้ขอโทษหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ด้าน นางสมศรี หุ่มมะหัน อายุ 50 ปี แม่ค้าหมึกย่าง เปิดเผยว่า ตนเห็นเหตุการณ์ ในวันนั้นมีเจ้าหน้าที่ช่วยเดินตามหาเจ้าของรถที่จอดขวางอยู่นานพอสมควร มีการประกาศหาเสียงดังทั่วริมหาด แต่เจ้าของรถที่ขวางกลับไม่ได้ยิน จนมาตอนเคลียร์กันนั้น เจ้าของรถที่ถูกขวางที่เป็นผู้หญิง มีการถ่ายคลิปตลอด ก่อนจะถูกผู้ชายที่มาด้วยกันห้ามและพยายามให้ขึ้นรถ แต่ตอนนั้นตนก็ไม่รู้ว่าเป็นดาราหรือเป็นใคร ซึ่งในส่วนที่ว่ามีการวนรถมาเขียนจดหมายด่านั้น ตนไม่เห็น โดยส่วนตัวตนมองว่าคนที่ผิดที่สุดคือเจ้าของรถที่จอดขวาง เพราะไม่เอาเบรกมือลง และควรที่จะต้องขอโทษคู่กรณี
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ขณะที่ วิทและแนน เจ้าของรถที่จอดขวาง เปิดเผยยืนยันว่า วันที่เกิดเหตุยอมรับว่าผิดจริง และก็ได้มีการยกมือไหว้ขอโทษอีกฝ่ายแล้ว ตอนนี้รู้สึกเครียดมาก เมื่อรู้ว่าจะมีการฟ้องร้องเอาผิดกรณีที่มีการโพสต์ข้อความ ขอยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้อีกฝ่ายเสียหาย แต่ที่โพสต์ไปนั้นเพราะอารมณ์โมโหที่มีการเขียนด่าถึงบุพการี เพราะมีคนแถวนั้นบอกว่าฝ่ายของนาวิน ต้าร์ วนรถกลับมาเขียนด่าทิ้งไว้
ทั้งนี้ วิท เผยว่า หากฝ่ายนาวิน ต้าร์ ยืนยันว่าไม่ได้เขียน เพราะตนก็ไม่ได้เห็นกับตา ตนก็ต้องขอโทษจากใจด้วย และอยากให้เห็นใจ ถ้าหากมีการฟ้องร้องตนจะเดือดร้อน เพราะก็มีลูกเล็กที่ต้องดูแล 3 คน
ด้าน แนน กล่าวว่า ตนต้องขอโทษที่โพสต์ข้อความลงไปทำให้เสื่อมเสีย รวมถึงขอโทษที่ใส่เบรกมือทำให้รถอีกฝ่ายออกไม่ได้ ตนยืนยันว่าไม่มีเจตนา
"กังวลถ้ามันมีอะไรขึ้นมา แฟนเป็นเสาหลักไง แล้วคือเราคนเดียว ลูกเราอีกตั้ง 2 คน 3 คน เราจะทำไง แล้วถ้าสมมติว่าเราไปอีกคนนึง แล้วลูกเราอะ คือพี่เขาก็มีลูก เขาน่าจะเข้าใจเพราะพี่เขาก็เป็นคนแบบบริจาคอะไรแบบนี้ หนูก็รู้อยู่ หนูก็เข้าใจความรู้สึก ถ้าลูกหนูไปยืนโดนยุงกัดก็ต้องโมโหเป็นธรรมดา"
เบื้องต้น พ.ต.ท. สมพล นาคขำพันธุ์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.แสนสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้รับการประสานงาน หรือติดต่อแจ้งความจากนาวิน ต้าร์ และภรรยาแต่อย่างใด ซึ่งการจะแจ้งความในเรื่องการโพสต์ข้อความกล่าวหานั้นสามารถทำได้ในทุกพื้นที่ ไม่จำเป็นต้องมาแจ้งที่ สภ.แสนสุข พื้นที่จุดเกิดเหตุ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
จากกรณีที่ ไฮโซน้ำหวาน พัสวี ภรรยาสาวของหนุ่มนาวิน ต้าร์ ได้มีการเปิดเผยว่าจะดำเนินการฟ้องร้องคู่กรณีที่มีการโพสต์ข้อความกล่าวหาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง หลังเหตุการณ์จอดรถขวางแต่ใส่เบรกมือที่หาดบางแสน จ.ชลบุรี ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : น้ำหวาน ภรรยา นาวิน ต้าร์ ซัดโจ๋แต่งเรื่อง จ่อฟ้องกลับ ปมจอดรถขวางใส่เบรกมือ)
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (19 พฤศจิกายน 2561) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV ลงพื้นที่ยังจุดเกิดเหตุพบตรงบริเวณถนนเลียบหาดบางแสน สาย 1 ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี มีการติดตั้งป้ายสีน้ำเงินชัดเจน ระบุว่า "กรณีจอดรถซ้อนคัน กรุณาปลดเกียร์ว่าง และลดเบรกมือ" เอาไว้
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ โดย นายพุธ อุดมพันธุ์ หรือ เป๋ อายุ 73 ปี เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนเห็นเหตุการณ์ มีรถจอดซ้อนคันเยอะมาก แต่คันอื่นขยับได้ มีคันที่เกิดเหตุที่ไม่ใส่เกียร์ว่าง ซึ่งก็เห็นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยประกาศตามหาเจ้าของรถจริง ตามริมชายหาด แต่ไม่นานมาก และเมื่อเจอตัวก็ไม่ได้มีปากเสียงหรือทะเลาะกัน พูดคุยกันไม่นานก็แยกย้ายไป ซึ่งเรื่องมีการไหว้ขอโทษหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ด้าน นางสมศรี หุ่มมะหัน อายุ 50 ปี แม่ค้าหมึกย่าง เปิดเผยว่า ตนเห็นเหตุการณ์ ในวันนั้นมีเจ้าหน้าที่ช่วยเดินตามหาเจ้าของรถที่จอดขวางอยู่นานพอสมควร มีการประกาศหาเสียงดังทั่วริมหาด แต่เจ้าของรถที่ขวางกลับไม่ได้ยิน จนมาตอนเคลียร์กันนั้น เจ้าของรถที่ถูกขวางที่เป็นผู้หญิง มีการถ่ายคลิปตลอด ก่อนจะถูกผู้ชายที่มาด้วยกันห้ามและพยายามให้ขึ้นรถ แต่ตอนนั้นตนก็ไม่รู้ว่าเป็นดาราหรือเป็นใคร ซึ่งในส่วนที่ว่ามีการวนรถมาเขียนจดหมายด่านั้น ตนไม่เห็น โดยส่วนตัวตนมองว่าคนที่ผิดที่สุดคือเจ้าของรถที่จอดขวาง เพราะไม่เอาเบรกมือลง และควรที่จะต้องขอโทษคู่กรณี
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ขณะที่ วิทและแนน เจ้าของรถที่จอดขวาง เปิดเผยยืนยันว่า วันที่เกิดเหตุยอมรับว่าผิดจริง และก็ได้มีการยกมือไหว้ขอโทษอีกฝ่ายแล้ว ตอนนี้รู้สึกเครียดมาก เมื่อรู้ว่าจะมีการฟ้องร้องเอาผิดกรณีที่มีการโพสต์ข้อความ ขอยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้อีกฝ่ายเสียหาย แต่ที่โพสต์ไปนั้นเพราะอารมณ์โมโหที่มีการเขียนด่าถึงบุพการี เพราะมีคนแถวนั้นบอกว่าฝ่ายของนาวิน ต้าร์ วนรถกลับมาเขียนด่าทิ้งไว้
ทั้งนี้ วิท เผยว่า หากฝ่ายนาวิน ต้าร์ ยืนยันว่าไม่ได้เขียน เพราะตนก็ไม่ได้เห็นกับตา ตนก็ต้องขอโทษจากใจด้วย และอยากให้เห็นใจ ถ้าหากมีการฟ้องร้องตนจะเดือดร้อน เพราะก็มีลูกเล็กที่ต้องดูแล 3 คน
ด้าน แนน กล่าวว่า ตนต้องขอโทษที่โพสต์ข้อความลงไปทำให้เสื่อมเสีย รวมถึงขอโทษที่ใส่เบรกมือทำให้รถอีกฝ่ายออกไม่ได้ ตนยืนยันว่าไม่มีเจตนา
"กังวลถ้ามันมีอะไรขึ้นมา แฟนเป็นเสาหลักไง แล้วคือเราคนเดียว ลูกเราอีกตั้ง 2 คน 3 คน เราจะทำไง แล้วถ้าสมมติว่าเราไปอีกคนนึง แล้วลูกเราอะ คือพี่เขาก็มีลูก เขาน่าจะเข้าใจเพราะพี่เขาก็เป็นคนแบบบริจาคอะไรแบบนี้ หนูก็รู้อยู่ หนูก็เข้าใจความรู้สึก ถ้าลูกหนูไปยืนโดนยุงกัดก็ต้องโมโหเป็นธรรมดา"
เบื้องต้น พ.ต.ท. สมพล นาคขำพันธุ์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.แสนสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้รับการประสานงาน หรือติดต่อแจ้งความจากนาวิน ต้าร์ และภรรยาแต่อย่างใด ซึ่งการจะแจ้งความในเรื่องการโพสต์ข้อความกล่าวหานั้นสามารถทำได้ในทุกพื้นที่ ไม่จำเป็นต้องมาแจ้งที่ สภ.แสนสุข พื้นที่จุดเกิดเหตุ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก