ตำรวจรวบ 3 โจ๋ ที่รุมทำร้ายน้องเก้าดับ ด้านแม่น้องเก้าสงสัยสาเหตุการตายของลูก ชี้ หลังเข้ารับการรักษาอาการยังปกติดี ขณะที่ รพ.ตราด แถลงลำดับการเสียชีวิตของน้องเก้า ยืนยันเสียชีวิตเพราะเส้นเลือดใหญ่ฉีกขาด ทำให้เสียเลือดมาก
จากกรณีที่ ด.ช.นันทพงศ์ กรเป๋ หรือ น้องเก้า วัย 14 ปี ถูกวัยรุ่นชาย 3 คน อายุ 16-17 ปี ทำร้ายร่างกายหน้าร้านเกมแห่งหนึ่ง อ.เมือง จ.ตราด จนได้รับบาดเจ็บ ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตราด กระทั่งน้องเก้า เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
โดย ไทยโพสต์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตราด สามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว ได้แก่ นายหนึ่ง อายุ 16 ปี, นายนุ อายุ 17 ปี และนายเป็ก อายุ 17 ปี โดยนายเป็ก ให้การว่า นายหนึ่งกับนายนุ เป็นคนลงมือทำร้ายน้องเก้า ขณะที่ขี่รถมาเจอกันพอดี และยังไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันด้วยซ้ำ ตนไม่ได้ทำร้ายด้วย แต่เพื่อนอีก 2 คน ทั้งเตะ ชก และใช้ขวดตีที่ศีรษะ ตนจึงเข้าห้าม ก่อนที่จะขี่รถหลบหนีไป
ด้านนายหนึ่ง เผยว่า สาเหตุที่ทำร้ายร่างกาย เพราะเคยมีเรื่องชกต่อยกันมาแล้ว 1 ครั้ง จากการมองหน้ากัน และเมื่อเจอกันครั้งนี้ น้องเก้าก็มองหน้าอีก ทำให้ไม่พอใจ จึงลงมือก่อเหตุ ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาเรื่องผู้หญิง และไม่เคยรู้จักผู้ตายมาก่อน
ขณะที่ อมรินทร์ ทีวี รายงานเพิ่มเติมว่า นางจิราภรณ์ กรเป๋ แม่ของน้องเก้า ยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูก เนื่องจากน้องเก้าถูกซ้อมไม่ได้สาหัสมาก เท่าที่เห็นมีเพียงบาดแผลภายนอก ซึ่งหลังทำแผลเสร็จก็ให้ลูกชายออกมาพักรักษาตัว กระทั่งเช้าวันที่ 17 พฤศจิกายน แพทย์แจ้งว่าน้องความดันลดต้องเข้าผ่าตัด บอกเพียงว่าผ่าตัดเพื่อดูภายในช่องท้อง เพราะพบของเหลวในท้องไม่รู้ว่าเป็นน้ำหรือเลือด
หลังผ่าตัดนาน 4 ชั่วโมง ปรากฏว่าลูกชายตนเสียชีวิตแล้ว เมื่อเข้าไปดูในห้องผ่าตัด เห็นพยาบาลกำลังซับเลือดอยู่ และแพทย์ในห้องผ่าตัดบอกตนว่า ผ่าตัดโดนเส้นเลือดใหญ่ ตนถึงกับทรุดและเสียใจมาก แต่ตนยังแคลงใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูก ซึ่งต่อมาแพทย์เรียกไปคุย และแจ้งว่าลูกเสียชีวิตจากอาการเสียเลือดเยอะ เพราะเส้นเลือดใหญ่เปราะอยู่แล้ว เมื่อโดนทำร้ายจึงทำให้เส้นเลือดแตก
เว็บไซต์ 77 ข่าวเด็ด รายงานว่า ทีมแพทย์โรงพยาบาลตราด ที่รักษาน้องเก้าได้เข้าประชุมอย่างเคร่งเครียดถึง 3 ชั่วโมง ก่อนจะแถลงลำดับอาการของน้องเก้าก่อนเสียชีวิต เผยว่า คืนวันเข้ารักษาตัว (16 พฤศจิกายน) หลังการรักษา อาการคนไข้ปกติทุกอย่าง กระทั่งตี 2 วันที่ 17 พฤศจิกายน คนไข้ดึงสายน้ำเกลือลุกออกจากเตียง จนล้มสลบลง เมื่อฟื้นขึ้นมาได้นำคนไข้เข้าสแกนสมอง วัดร่างกายทุกอย่างปกติดี
ต่อมาคนไข้เริ่มทรุดและสงสัยว่ามีเลือดในช่องท้อง จึงต้องเข้ารับการผ่าตัด ปรากฏพบมีเลือดในช่องท้องจำนวนมาก โดยมีเลือดในช่องท้องประมาณ 100 ซี.ซี. และพบเลือดจำนวน 4-5 ลิตร อยู่ด้านหลังช่องท้อง จากนั้นหัวใจก็หยุดเต้น แพทย์ได้ปั๊มหัวใจแต่ก็ไม่เป็นผล สรุปคนไข้เสียชีวิตจากเส้นเลือดใหญ่ฉีกขาด ทำให้สูญเสียเลือดจำนวนมาก ทั้งนี้ สาเหตุที่เส้นเลือดใหญ่ฉีกขาดนั้น ต้องผ่าศพเพื่อพิสูจน์อีกครั้ง
