โซเชียลวิจารณ์หนัก ! ตลาดแทบแตก หลังตำรวจบุกจับแม่ค้าขายกางเกงในตัวละ 18 บาท ชี้ ทำรุนแรงเกินไป แถมกระชากคนท้อง
โดยในคลิปตำรวจพยายามจะควบคุมตัวแม่ค้ากางเกงในที่กำลังตั้งท้องอยู่ ยืนรุมแม่ค้าหลายคน ซึ่งแม่ค้าก็ตะโกนโวยวายเสียงดังว่า ตำรวจรังแกประชาชน โดยแม่ค้าอธิบายว่าไปรับกางเกงในมาอีกทอดหนึ่ง ถ้าจะจับทำไมไม่ไปจับร้านขายส่ง โดยแม่ค้าขอให้ยึดของกลางไปก่อน แล้วตนจะตามไป แต่ทางตำรวจไม่ยอม ยืนยันจะควบคุมตัวแม่ค้าไปที่สถานีตำรวจทันที พร้อมแจ้งข้อหาไม่ติดฉลากภาษาไทย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ True4UNews รายงานสัมภาษณ์ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์
เปิดเผยว่า หากกางเกงในดังกล่าวเป็นกางเกงในยี่ห้อดังจริง
ซึ่งแม่ค้าอาจรับมาจากโรงงาน และเป็นเกรดต่ำกว่ามาตรฐาน
จึงนำมาขายในราคาถูกกรณีนี้ก็ไม่มีความผิด แต่หากเป็นสินค้าก๊อบปี้
ก็จะมีความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี และปรับไม่เกิน 4
แสนบาท
เฟซบุ๊ก Phanthanakrit O'por , เฟซบุ๊ก Phanthanakrit O'por , True4UNews
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Phanthanakrit O'por
กลายเป็นคลิปที่โซเชียลกำลังให้ความสนใจอย่างมาก
สำหรับคลิปเหตุการณ์ปะทะดุเดือดกลางตลาด
ของกลุ่มตำรวจนอกเครื่องแบบและแม่ค้า
ซึ่งตำรวจได้ไปบุกจับแม่ค้าขายกางเกงในตัวละ 18 บาท
ที่ตลาดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
โดยที่ร้านมีการติดป้ายว่าเป็นกางเกงในยี่ห้อดัง ราคาตัวละ 18 บาท
โดยในคลิปตำรวจพยายามจะควบคุมตัวแม่ค้ากางเกงในที่กำลังตั้งท้องอยู่ ยืนรุมแม่ค้าหลายคน ซึ่งแม่ค้าก็ตะโกนโวยวายเสียงดังว่า ตำรวจรังแกประชาชน โดยแม่ค้าอธิบายว่าไปรับกางเกงในมาอีกทอดหนึ่ง ถ้าจะจับทำไมไม่ไปจับร้านขายส่ง โดยแม่ค้าขอให้ยึดของกลางไปก่อน แล้วตนจะตามไป แต่ทางตำรวจไม่ยอม ยืนยันจะควบคุมตัวแม่ค้าไปที่สถานีตำรวจทันที พร้อมแจ้งข้อหาไม่ติดฉลากภาษาไทย
ทั้งนี้
ชาวเน็ตได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมและมองว่าตำรวจทำรุนแรงเกินไป
เพราะมีการกระชากแม่ค้าที่ท้องอยู่ และจับพ่อค้าใส่กุญแจมืออีกด้วย
ทั้งที่ไม่ใช่คดีร้ายแรงอะไร ไม่น่าทำรุนแรงขนาดนี้ นอกจากนี้
ยังมีการตั้งข้อสงสัยว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว เป็นตำรวจจริงหรือไม่ !?
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Phanthanakrit O'por
อย่างไรก็ตาม หากดูจากในคลิป
กลุ่มตำรวจนอกเครื่องแบบดังกล่าวพูดย้ำกับแม่ค้าหลายรอบว่าไม่ได้มาจับเรื่องลิขสิทธิ์
แต่จับเพราะไม่ติดป้ายฉลากที่เป็นภาษาไทยตามกฎหมายกำหนด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก Phanthanakrit O'por , เฟซบุ๊ก Phanthanakrit O'por , True4UNews