Thailand Web Stat

ยิ่งกว่าละคร.. แม่จ้างคนเป็นพ่อให้ลูก 10 ปี หวังเติมช่องว่างในใจ ยันจะหลอกลูกต่อไป

 

           เปิดเรื่องราวชีวิตที่ยิ่งกว่าละคร แม่ชาวญี่ปุ่นจ้างนักแสดงมาเป็นพ่อปลอม ๆ ให้ลูกสาว เพราะไม่อยากให้ลูกมีปม จ้างไปเรื่อย ๆ จนหยุดไม่ได้ จนลูกอยู่ในโลกปลอม ๆ มา 10 ปี แม่เผย จะจ้างไปตลอดชีวิต และไม่บอกความจริงเด็ดขาด
ความรักของแม่
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

           อาซาโกะ (นามสมมติ) คือคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวชาวญี่ปุ่นที่เลี้ยงดู เมกูมิ (นามสมมติ) ลูกสาวตัวน้อยขึ้นมาด้วยตัวเอง ด้วยความที่เธอแยกทางกับสามีไปตั้งแต่ตอนที่ลูกสาวยังเป็นเด็กน้อย ลูกจึงจำความอะไรไม่ได้ และไม่รู้สึกว่าชีวิตขาดอะไรไป เพราะอาซาโกะก็เป็นทั้งแม่และพ่อให้กับเธอ ชีวิตของสองแม่ลูกเป็นไปด้วยดีอย่างมาก ไม่มีปัญหาอะไรที่สร้างความยุ่งยากลำบากใจ จนกระทั่งเมกูมิโตขึ้นและเข้าโรงเรียนแล้ว อาซาโกะสังเกตได้ว่าลูกสาวเปลี่ยนแปลงไป ไม่พูดไม่จา และไม่อยากไปโรงเรียน อาซาโกะไม่รู้เลยว่ามันเป็นเพราะอะไร แต่เธอก็ค้นพบความจริงในที่สุด และมันทำให้เธอหัวใจสลาย สาเหตุสำคัญเป็นเพราะเมกูมิไม่มีพ่อนั่นเอง

           อาซาโกะทุกข์ใจอย่างมาก เธอไม่อยากให้ลูกสาวต้องเจ็บปวดต่อไปอีก เธอจึงตัดสินใจเติมเต็มช่องว่างและมอบสิ่งที่ลูกต้องการมากที่สุดในชีวิต นั่นก็คือ พ่อ แม้ว่าทุกอย่างจะเป็นเรื่องโกหกก็ตาม

           เรื่องราวชีวิตน่าเศร้าของอาซาโกะและลูกสาว ได้ถูกนำมาถ่ายทอดโดยสำนักข่าวบีบีซี เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 โดยปัญหาเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ตอนแรกที่เมกูมิไปโรงเรียน ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดีอย่างมาก เธอผ่านชีวิตวัยเรียนมาได้ดี จนกระทั่งเมื่อเธออายุได้ประมาณ 10 ขวบ เด็กคนอื่น ๆ ก็รับรู้ว่าเมกูมิเป็นลูกแม่เลี้ยงเดี่ยว เด็กหญิงก็ตกเป็นเหยื่อการกลั่นแกล้งรังแกทันที เธอถูกล้อเลียนอย่างหนักว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ พ่อทิ้ง ต่าง ๆ นานา เรื่องนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในสังคมประเทศญี่ปุ่น เด็กที่เป็นลูกแม่เลี้ยงเดี่ยวหรือพ่อเลี้ยงเดี่ยว มักจะถูกมองว่าเป็นพวกแปลกแยก แตกต่างไปจากคนอื่น และสุดท้ายก็ตกเป็นเหยื่อการกลั่นแกล้ง ปัญหานี้ได้ส่งผลกระทบต่อจิตใจของเมกูมิอย่างมาก จากเด็กที่ร่าเริงสดใส กลายเป็นเด็กที่ซึมเศร้า ไม่คุยกับแม่ และไม่อยากไปโรงเรียนอีกต่อไป เพราะเธอไม่อยากถูกล้อเลียนอีก

           หลังจากที่อาซาโกะรับรู้ปัญหาของลูก เธอก็เข้าไปปรึกษากับคุณครูที่โรงเรียนเพื่อหาทางแก้ไข และเธอก็กลับมานั่งคิดนอนคิดหาวิธี ในระหว่างกำลังทุกข์ใจนั้น อาซาโกะได้พบข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ "คนให้เช่า" ซึ่งก็คือบริการให้เช่าคนไปเป็นญาติพี่น้อง สมาชิกครอบครัว หรือคนรักแบบหลอก ๆ ในสถานการณ์ต่าง ๆ แล้วแต่ลูกค้า ตั้งแต่การทำกิจธุระ หรืองานสังคม เช่น งานแต่งงาน หรือไปเป็นคู่ควงในงานเลี้ยง สิ่งที่แวบเข้ามาในหัวอาซาโกะก็คือ เธอจะจ้างคนมาเป็นพ่อให้กับเมกูมิ อาซาโกะได้ศึกษาหาข้อมูลเรื่องนี้ และได้ติดต่อเรียกนักแสดงให้เช่ามาสัมภาษณ์ 5 คน เธอตัดสินใจเลือกชายหนุ่มที่ชื่อ ทาคาชิ (นามสมมติ) เพราะเขาเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ พูดคุยกันถูกคอ แถมยังจิตใจดี

           ทาคาชิค่อนข้างเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้ เพราะตัวเขาเองก็เปิดบริษัทคนให้เช่า มีพนักงานหรือนักแสดงประมาณ 20 คน อีกทั้งยังมีนักแสดงอิสระหรือฟรีแลนซ์อีกประมาณ 1,000 คน ที่สามารถติดต่อมารับบทตามที่ลูกค้าต้องการได้ในทุกรูปแบบ สำหรับตัวเขาเองนั้น เขาเคยรับบทบาทปลอม ๆ มาแล้วมากมาย ทั้งเป็นพ่อ คนรัก นักธุรกิจ เพื่อน อีกทั้งยังเคยรับบทเจ้าบ่าวในงานแต่งงานหลอก ๆ มาแล้ว ดังนั้นการรับบทเป็นพ่อของเด็กหญิงคนหนึ่ง จึงไม่ใช่เรื่องยากหรือซับซ้อนสำหรับเขา ทาคาชิได้นัดพบกับอาซาโกะหลายครั้งเพื่อเก็บข้อมูล รายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับครอบครัวของเธอ เขายังเตรียมตัวด้วยการดูหนังครอบครัวหลาย ๆ เรื่องอีกด้วย เพื่อให้มั่นใจว่ามันจะออกมาดีที่สุด

           "สิ่งที่ฉันต้องการมันเรียบง่ายมาก ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ข้อแรกคือ ฉันอยากให้เขาบอกเมกูมิว่าตัวเองรู้สึกเสียใจมาก และขอโทษที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ทำหน้าที่พ่อให้กับเธอ ส่วนข้อที่สองนั้น ฉันอยากให้เขารับฟังลูกในทุก ๆ อย่างที่เธออยากบอกเขา ง่าย ๆ แค่นี้เองค่ะ" อาซาโกะ กล่าวถึงสิ่งที่เธอต้องการ

           เมื่อจัดการซักซ้อมทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว อาซาโกะก็ตัดสินใจเล่าเรื่องพ่อให้เมกูมิฟัง กล่าวว่าพ่อได้แยกทางกับแม่ไป เขาได้แต่งงานมีครอบครัวใหม่ไปแล้ว แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ พ่อได้ติดต่อกลับมาหา และบอกว่าอยากเจอหน้าลูกสักครั้ง ตอนแรกเมกูมิตกใจมากที่ได้ยินแบบนี้ แต่เธอก็อยากเจอพ่อมาก ๆ และได้ตกลงไปเจอกับทาคาชิ หลังจากนั้น ทาคาชิก็กลายเป็นผู้ชายที่ชื่อ ยามาดะ พ่อของเมกูมิที่แยกทางกับแม่ไปตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กแบเบาะ ทาคาชิ เปิดเผยว่า ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันซับซ้อนและอธิบายได้ยาก ตอนที่เขาพบกับเมกูมิครั้งแรก เด็กหญิงเอ่ยปากถามเขาว่า "พ่อหายไปไหน ทำไมไม่เคยมาหาหนูบ้างเลย" และเขาก็รับรู้ได้ถึงความเหงาและเศร้าที่อยู่ในใจของเด็กน้อยคนนี้

           การพบปะครั้งแรกเป็นไปด้วยดีเป็นอย่างมาก ทาคาชิ หรือ ยามาดะ เริ่มเข้ามามีส่วนสำคัญในชีวิตของอาซาโกะและเมกูมิไปทีละน้อย เขามาพบพวกเธอเดือนละ 2 ครั้ง และยังมาหาในช่วงเวลาสำคัญอยู่เสมอ ทั้งเวลาออกไปเที่ยวข้างนอกบ้าน เวลาไปดูหนัง และมาร่วมงานวันเกิด อาซาโกะสังเกตได้ว่าเพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ เมกูมิก็เปลี่ยนแปลงไปมาก เธอมีความสุขมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กลายเป็นเด็กที่ร่าเริงแจ่มใส รักการออกไปเที่ยวข้างนอกบ้าน พูดจามากขึ้นกว่าแต่ก่อน และยินดีที่จะกลับไปเรียนที่โรงเรียน พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกสาวทำให้อาซาโกะปลื้มใจมาก และเธอก็คิดว่าสิ่งที่ลงทุนทำไป มันคุ้มค่าอย่างที่สุด

           "เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเมกูมิมีความสุขมากขึ้น และมีความมั่นใจในตัวเองมากกว่าเดิม ปกติแล้ว เวลาที่ผมมาพบเธอ อาซาโกะจะอยู่ด้วยเสมอ เป็น 3 คน พ่อ แม่ ลูก แต่มีวันหนึ่ง เมกูมิพูดขึ้นว่า 'หนูอยากออกไปกับพ่อ แค่หนูกับพ่อ 2 คน' อาซาโกะก็ไม่ว่าอะไร ผมก็ยินดีทำตามนั้น ผมพาเธอไปเที่ยว และเธอก็ได้เดินจับมือกับพ่อเป็นครั้งแรก" ทาคาชิ เล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเด็กหญิงตัวน้อย

           อาซาโกะได้สร้างโลกปลอม ๆ ให้กับลูกสาว หาคนแปลกหน้ามาเป็นพ่อให้กับเธอ จนทำให้เธอเชื่อว่านี่คือพ่อของเธอจริง ๆ ทำให้เธอมีความสุข และเติบโตมาด้วยความอบอุ่นที่ไม่ใช่ความจริง ความรู้สึกของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกับผู้ชายคนนี้ เป็นความรักที่บริสุทธิ์ และมันเป็นความผูกพันที่ลึกซึ้ง แม้แต่ตัวทาคาชิเองก็รู้สึกเหมือนว่าเขาเป็นพ่อของเมกูมิจริง ๆ เขารู้ดีว่าด้วยอาชีพแบบนี้ การแบ่งแยกการแสดงกับตัวตนที่แท้จริงเป็นเรื่องสำคัญ และเขาไม่ควรเอาตัวเองไปใส่ในบทบาทมากเกินไป แต่เขาก็คือมนุษย์คนหนึ่งที่มีความรู้สึก เขาใกล้ชิดกับเมกูมิมาก เป็นที่ปรึกษาให้กับเธอ และยังบอกรักกันเสมอ ซึ่งเป็นความรู้สึกจากใจของเขาจริง ๆ

           "งานแบบนี้ การสลับหรือแบ่งแยกคาแรกเตอร์ที่แสดงกับชีวิตจริง เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ แต่ผมก็เป็นคนที่มีหัวจิตหัวใจ ตอนที่ผมบอกรักเด็กคนนี้ ถ้าบอกว่าผมไม่ได้รู้สึกอะไรเลย มันก็คงเป็นเรื่องโกหก แต่ทุกอย่างคือธุรกิจ ผมจำเป็นต้องทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และต้องเตือนตัวเองไว้เสมอว่ามันเป็นแค่งานเท่านั้น" ทาคาชิ กล่าว

           ด้วยความที่ทาคาชิเป็นนักแสดงรับจ้าง ไม่ใช่พ่อที่แท้จริงของเมกูมิ อาซาโกะจึงต้องวางแผนจัดการเรื่องเงินอย่างละเอียด ตัดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นออกไป และกันเงินไว้สำหรับจ่ายค่าจ้างทาคาชิทุกครั้งที่เขามาพบเมกูมิ ครั้งละประมาณ 10,000 เยน หรือราว 2,900 บาท แม้ว่ามันจะเป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ยิ่งใช้บริการบ่อยขึ้น อาซาโกะก็ต้องเสียเงินมากขึ้น แต่เมื่อใดก็ตามที่เธอย้อนคิดไปถึงช่วงเวลาเลวร้ายของครอบครัว ตอนที่เมกูมิไม่มีความสุขเพราะขาดพ่อ อาซาโกะก็ลืมความเสียดายเงินไป เธอจึงจ้างทาคาชิแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ จากเป็นเดือน ก็กลายเป็นหลายเดือน กลายเป็นปี จนในที่สุด ทุกอย่างก็ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 10 ปี

ความรักของแม่
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

             แม้ว่าทาคาชิจะเตือนตัวเองเสมอว่าเขาเป็นเพียงนักแสดง การเป็นพ่อให้กับเมกูมิเป็นแค่งานหนึ่งของเขา แต่การรับบทบาทนี้ติดต่อกันนานถึง 10 ปี มันได้ทำให้ทุกอย่างซับซ้อนมาก จนกลายเป็นสิ่งที่ยากเกินย้อนกลับมาได้ และถ้ายังทำต่อไป สถานการณ์ก็จะยิ่งซับซ้อนมากขึ้นไปอีก ปัจจุบันเมกูมิเติบโตเป็นหญิงสาวอายุ 20 ปี แล้ว และเธอก็ไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้ว พ่อที่เธอเคารพเป็นนักแสดงที่แม่จ้างมา เรื่องนี้ก็เป็นปัญหาสำหรับอาซาโกะเช่นกัน เพราะการมีทาคาชิอยู่เคียงข้างในความสัมพันธ์ปลอม ๆ มันทำให้เธอเริ่มรู้สึกดีกับเขา จนกลายเป็นความรักในที่สุด

             อาซาโกะรู้ดีว่าทาคาชิเป็นใคร อยู่ในฐานะอะไร แต่มันก็ยากสำหรับเธอ ที่จะปิดกั้นหัวใจตัวเอง จนในที่สุด อาซาโกะก็ตัดสินใจสารภาพกับทาคาชิไปว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับเขา อย่างไรก็ตาม ทาคาชิก็มีความมืออาชีพมากพอที่จะรับมือเรื่องนี้ เขาอธิบายกับอาซาโกะไปตรง ๆ ว่าเขามาอยู่ตรงนี้ในฐานะนักแสดงคนหนึ่งเท่านั้น เขามาอยู่เคียงข้างเธอ เพราะว่าเธอจ่ายเงินจ้างเขา ไม่ใช่ในฐานะแฟนหนุ่ม สามี คือคนรักจริง ๆ ของเธอ อาซาโกะไม่มีทางเลือกอื่น และต้องทำใจยอมรับความจริงว่าสิ่งที่เธอหวังมันเป็นไปไม่ได้

             "ฉันรู้ดีค่ะว่าทาคาชิมาอยู่กับเรา เพราะว่าฉันจ่ายเงินจ้างเขา ความสัมพันธ์ระหว่างเรามันเหมือนกับโลกแฟนตาซี ฉันคิดนะว่าเราอาจจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันจริง ๆ ก็ได้ แต่อย่างน้อยความสัมพันธ์นี้ก็ช่วยฉันมากทั้งในเรื่องความรู้สึกและสภาพจิตใจ มันทำให้ฉันรู้สึกมั่นคงค่ะ" อาซาโกะ กล่าว

             ทาคาชิ กล่าวว่า ถ้าหากเมกูมิรับรู้ความจริงเรื่องนี้ เขาหวังว่าเธอจะรู้สึกขอบคุณเขาที่เป็นพ่อผู้ให้ความสนับสนุน และให้กำลังใจเธอมาตลอด แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมกูมิคงเจ็บปวดอย่างที่สุดและหัวใจสลาย สำหรับอาซาโกะ เธอเลือกที่จะไม่เปิดเผยความจริงอย่างเด็ดขาด ทุกอย่างจะยังคงเป็นเหมือนเดิม เธอจะไม่บอกความจริงให้ลูกสาวรู้ และจะจ้างทาคาชิเป็นคุณพ่อยามาดะของลูกต่อไปเรื่อย ๆ ตลอดชีวิต

             อาซาโกะ กล่าวว่า เมื่อเมกูมิแต่งงาน เธอก็จะจ้างให้ทาคาชิไปร่วมงานในฐานะคุณพ่อเจ้าสาว เมื่อเมกูมิมีลูก เขาก็จะเป็นคุณตาให้กับหลาน ๆ อาซาโกะ กล่าวอีกว่า ตัวเธอเองเข้าใจดีว่าถ้าคนอื่นรู้เรื่อง ก็คงไม่มีใครสนับสนุนเธอ และไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจแบบนี้ แต่เธอเลือกแล้ว และจะให้เมกูมิอยู่ในโลกแห่งความสัมพันธ์ปลอม ๆ กับคุณพ่อตัวปลอมแบบนี้ไปจนถึงที่สุด

             "ทุกคนน่าจะเข้าใจความรู้สึกของฉันดี ความรู้สึกทรมานใจที่ต้องเห็นลูกตัวเองเป็นทุกข์ ฉันรู้ดีค่ะ ว่าคนอื่นคงมองว่าฉันโง่ที่จ่ายเงินจ้างคนมาเป็นพ่อปลอม ๆ ใหักับลูกสาว และมันแย่ที่หลอกลวงเธอมาโดยตลอด แต่ฉันไม่มีทางเลือกจริง ๆ" อาซาโกะ กล่าว

             ทั้งนี้ ในขณะที่ผู้เป็นแม่กล้าออกมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่สำหรับชื่อของพวกเขาทั้ง 3 คน คือ อาซาโกะ เมกูมิ และทาคาชิ นั้น ล้วนเป็นนามสมมติที่สำนักข่าวบีบีซีตั้งขึ้นมา เพื่อไม่ให้ตัวตนของทั้งสามถูกเปิดเผย จนส่งผลกระทบต่อครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออาซาโกะยืนยันจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับกับลูกสาวต่อไป

             เนื้อหาฉบับเต็มในภาษาอังกฤษ สามารถอ่านได้ที่ bbc.com
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ยิ่งกว่าละคร.. แม่จ้างคนเป็นพ่อให้ลูก 10 ปี หวังเติมช่องว่างในใจ ยันจะหลอกลูกต่อไป อัปเดตล่าสุด 29 พฤศจิกายน 2561 เวลา 18:07:28 39,263 อ่าน
TOP
x close