สาวอังกฤษไปปาร์ตี้โบท็อกซ์เพราะเพื่อนยุ ยอมให้หมอกระเป๋าฉีดฟิลเลอร์ปาก หวังได้ปากอิ่มสวย กลบรอยแหว่งที่กังวล แต่ต้องเสียใจหนักมาก ปากบวมเป็นครุฑ แตกปริเป็นแผล เจ็บปวดทรมานสุด ๆ
![สาวปากบวมสยอง หลังลองฉีดฟิลเลอร์ในปาร์ตี้ หวังจะได้ความเซ็กซี่อวบอิ่ม]( "สาวปากบวมสยอง หลังลองฉีดฟิลเลอร์ในปาร์ตี้ หวังจะได้ความเซ็กซี่อวบอิ่ม")
![สาวปากบวมสยอง หลังลองฉีดฟิลเลอร์ในปาร์ตี้ หวังจะได้ความเซ็กซี่อวบอิ่ม]( "สาวปากบวมสยอง หลังลองฉีดฟิลเลอร์ในปาร์ตี้ หวังจะได้ความเซ็กซี่อวบอิ่ม")
![สาวปากบวมสยอง หลังลองฉีดฟิลเลอร์ในปาร์ตี้ หวังจะได้ความเซ็กซี่อวบอิ่ม]( "สาวปากบวมสยอง หลังลองฉีดฟิลเลอร์ในปาร์ตี้ หวังจะได้ความเซ็กซี่อวบอิ่ม")
เช่นเดียวกับหญิงสาวชาวอังกฤษคนนี้ เธอไม่มั่นใจในริมฝีปากของตัวเอง และล่าสุด เพื่อน ๆ ได้แนะนำให้เธอฉีดริมฝีปากเพิ่มให้อวบอิ่มเซ็กซี่เหมือน ไคลี่ เจนเนอร์ เธอจึงจัดไปอย่างไม่รอช้า และพบว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ผิดอย่างมหันต์ เพราะผลลัพธ์ที่ได้มันช่างสยองขวัญแบบสุด ๆ !!
จากการรายงานของเว็บไซต์เดอะซัน เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 ระบุว่า หญิงสาวคนดังกล่าวมีชื่อว่า เรเชล แนปปิเยร์ วัย 29 ปี ซึ่งทำงานอยู่ในบริษัทกฎหมายชั้นนำของอังกฤษ เธอเองก็มีรูปร่างหน้าตาสวยอยู่แล้ว แต่มีตำหนิจุดหนึ่งที่สร้างความไม่มั่นใจมาโดยตลอด เพราะเธอเคยโดนประตูหนีไฟฟาดหน้าสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่น อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ริมฝีปากบนของเธอเป็นแผลแตก แม้ว่าทุกวันนี้แผลจะหายดีแล้ว แต่มันก็เป็นรอยแหว่งเล็ก ๆ ที่จะอยู่ติดตัวเธอไปตลอดชีวิต ด้วยเหตุนี้ เรเชลจึงต้องเข้า-ออกคลินิกเสริมความงามอยู่เป็นประจำ เพื่อให้หมอฉีดฟิลเลอร์กลบรอยแหว่งให้ดูเรียบเสมอเท่ากัน ปกติแล้วเธอจะฉีดเพียงแค่ปริมาณน้อยนิดเท่านั้น แค่ให้กลบตำหนิที่ไม่มั่นใจ ไม่ได้ฉีดเพิ่มให้ดูอวบอิ่มแต่อย่างใด เพราะคิดว่าโดยรวมก็โอเคดีอยู่แล้ว
![สาวปากบวมสยอง หลังลองฉีดฟิลเลอร์ในปาร์ตี้ หวังจะได้ความเซ็กซี่อวบอิ่ม]( "สาวปากบวมสยอง หลังลองฉีดฟิลเลอร์ในปาร์ตี้ หวังจะได้ความเซ็กซี่อวบอิ่ม")
ปาร์ตี้โบท็อกซ์คือการที่กลุ่มผู้หญิงหลายคน อาจจะเป็นเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมงาน หรือคนอื่นมารวมตัวกัน และจ้างเจ้าหน้าที่ด้านความสวยความงามมาจัดการฉีดโบท็อกซ์ให้ถึงที่ อยากจิ้มอะไรตรงไหนก็ได้ และมีราคาถูกกว่าตามคลินิกมาก แต่มันก็มีความเสี่ยงมากด้วยเช่นกัน
ตอนแรกเรเชลไม่ได้สนใจปาร์ตี้โบท็อกซ์ เพราะเธอเองก็มีคลินิกประจำอยู่แล้ว แต่เพื่อน ๆ เอ่ยปากชวน และเธอก็เห็นว่ามันน่าสนใจ น่าไปดู เลยไปเข้าร่วมด้วย ขึ้นชื่อว่าปาร์ตี้ทั้งที แน่นอนว่ามันต้องเป็นสิ่งที่รื่นเริง เหล่าสาว ๆ ก็ฉีดโบท็อกซ์ ฉีดฟิลเลอร์ไปพร้อม ๆ กับการเมาท์มอย กินเค้ก และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เรเชลก็สนุกกับงานนี้ นั่งดูเพื่อน ๆ ทำกันไป ไม่คิดว่าจะฉีดเหมือนคนอื่น เพราะไม่กล้าพอ แต่เมื่อดื่มเหล้าไปแก้วสองแก้ว บวกกับการคะยั้นคะยอจากเพื่อน ๆ เรเชลที่อยู่ในสภาพกรึ่ม ๆ ก็จัดไป ถึงไหนถึงกัน
![สาวปากบวมสยอง หลังลองฉีดฟิลเลอร์ในปาร์ตี้ หวังจะได้ความเซ็กซี่อวบอิ่ม]( "สาวปากบวมสยอง หลังลองฉีดฟิลเลอร์ในปาร์ตี้ หวังจะได้ความเซ็กซี่อวบอิ่ม")
"เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นรอยแหว่งบนปากฉัน เธอบอกว่าจะฉีดฟิลเลอร์เพิ่มให้ฉันก็ได้ ถ้าต้องการ ปากจะได้อิ่มสวยและกลบรอยตำหนิ เธอบอกให้ฉันลองเก็บไปคิดดู คือจุดนี้มันเป็นสิ่งที่ฉันไม่มั่นใจมาก ๆ และตอนนั้นก็ทำหน้ามาแล้ว ฉันคิดว่า 'เอ้า ลองก็ลอง ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว' เลยจัดไป" เรเชล เล่าถึงปาร์ตี้โบท็อกซ์ของเพื่อน ๆ เธอ
หลังจากนั้น เรเชลก็ขึ้นไปนอนบนเตียง เจ้าหน้าที่ก็เอายาชามาทาที่ริมฝีปากเธอ พร้อมบอกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ แต่ดูเหมือนว่าจริง ๆ แล้วจะใช้ยี่ห้ออื่นที่ไม่ได้คุณภาพ อีกทั้งยังฉีดให้เธอทั้งปาก ไม่ได้แค่เติมร่องที่มันแหว่ง ตอนที่ถูกฉีด เรเชลรู้สึกเจ็บมาก และรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี พอทุกอย่างเสร็จสิ้นลงแล้ว เรเชลไม่ได้รู้สึกว่าเธอดูดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย และรู้สึกว่ามันบวมมาก ในเวลาต่อมา ริมฝีปากของเรเชลก็บวมเป่งอย่างน่ากลัว เธอรู้สึกแย่และกลัวมาก รีบโทร. ไปหาเจ้าหน้าที่ความสวยความงามที่ฉีดฟิลเลอร์ให้เธอ และได้เปิดกล้องวิดีโอคอลคุยกัน เพื่อให้อีกฝ่ายเห็นภาพว่าสภาพใบหน้าของเธอมันแย่แค่ไหน
เจ้าหน้าที่คนนั้นตกใจมาก เอามือปิดปากด้วยความช็อก บอกว่าเรเชลอาจจะแพ้ตัวฟิลเลอร์ที่ใช้ พร้อมแนะนำให้เธอกินยาแก้แพ้ และไปหาหมอ เรเชลไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่นี้มาจากคลินิกไหนและฝีมือเป็นอย่างไร แต่มารู้ทีหลังว่าเธอเพิ่งออกมาจากคุกเมื่อปีที่แล้ว
![สาวปากบวมสยอง หลังลองฉีดฟิลเลอร์ในปาร์ตี้ หวังจะได้ความเซ็กซี่อวบอิ่ม]( "สาวปากบวมสยอง หลังลองฉีดฟิลเลอร์ในปาร์ตี้ หวังจะได้ความเซ็กซี่อวบอิ่ม")
เรเชลรีบเดินทางไปโรงพยาบาล และเข้ารับการตรวจสอบอาการแพ้ แต่ผลตรวจพบว่ามันไม่เกี่ยวกับการแพ้ และให้เธอกลับไปหาคลินิกเสริมความงาม หรือคนที่ฉีด เพื่อหาทางแก้ไข หลังออกจากโรงพยาบาล ริมฝีปากของเรเชลบวมจนปริแตกออก เธอทั้งเจ็บ ตกใจ และกลัวมาก รีบโทร. หาแม่เพื่อขอคำแนะนำ แม่เลยแนะนำให้เรเชลติดต่อไปยังคลินิกเสริมความงามชื่อดังแห่งหนึ่งในลอนดอน เรเชลจึงรีบติดต่อไป อธิบายอาการให้ฟัง พร้อมส่งภาพไปให้พวกเขาดู
ทางคลินิกสันนิษฐานว่าริมฝีปากของเธอประสบภาวะหลอดเลือดอุดตัน เกิดจากคนที่ฉีดฟิลเลอร์ฉีดไปโดนเส้นเลือด ถ้าไม่เร่งแก้ไข อาจทำให้เนื้อเยื่อตายได้ พวกเขาบอกให้เธอรีบออกเดินทางจากเลสเตอร์มายังลอนดอนทันที และได้นัดหมอเอาไว้รอรักษาเธอแล้ว
![สาวปากบวมสยอง หลังลองฉีดฟิลเลอร์ในปาร์ตี้ หวังจะได้ความเซ็กซี่อวบอิ่ม]( "สาวปากบวมสยอง หลังลองฉีดฟิลเลอร์ในปาร์ตี้ หวังจะได้ความเซ็กซี่อวบอิ่ม")
ข้อมูลที่เรเชลได้ยินมาทำให้เธอคิดมากไปสารพัด เธอกลัวมาก และกลัวว่าตัวเองอาจต้องตายเพราะเรื่องนี้ เธอไปหาหมอเพื่อฉีดยาลดอาการปวดบวม เพราะริมฝีปากของเธอตึงมาก แตกปริ และเจ็บปวดทรมานสุด ๆ หลังจากนั้นเธอและแม่ก็เดินทางไปยังลอนดอน เพื่อให้ทางคลินิกดังกล่าวช่วยแก้ไข พวกเขาใช้เวลาอยู่นานในการดูดเอาฟิลเลอร์ออกจากปากของเรเชล เธอกรีดร้องอยู่ตลอดเวลาเพราะมันเจ็บปวดมาก ขนาดแม่ของเธอที่นั่งรออยู่ข้างนอกยังได้ยิน
หลังจากนำฟิลเลอร์ทั้งหมดออกไปแล้ว ริมฝีปากของเรเชลก็เริ่มยุบ หลังจากเวลาผ่านไป 72 ชั่วโมง ก็ยุบลงไปมาก จนถึงตอนนี้ เวลาผ่านไปประมาณ 3 เดือนแล้ว ริมฝีปากของเรเชลก็กลับคืนสู่ปกติ ไม่เหลือเค้าอาการบวมฉึ่งสุดสยองอีกต่อไป
![สาวปากบวมสยอง หลังลองฉีดฟิลเลอร์ในปาร์ตี้ หวังจะได้ความเซ็กซี่อวบอิ่ม]( "สาวปากบวมสยอง หลังลองฉีดฟิลเลอร์ในปาร์ตี้ หวังจะได้ความเซ็กซี่อวบอิ่ม")
"ถ้าฉันไปฉีดที่คลินิก มันก็อาจจะเกิดอาการแบบนี้ได้เหมือนกัน แต่ที่นั่นเขาจะมีความรู้ และหมอก็จะหาวิธีจัดการแก้ไขให้ฉันได้ มันเป็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ของฉัน ฉันซื่อเองที่ก่อนหน้านี้คิดไปว่าเจ้าหน้าที่ด้านความสวยความงามทุกคนที่ฉีดโบท็อกซ์ ฉีดฟิลเลอร์ให้ลูกค้า จะผ่านการเรียนหมอมาแล้ว และด้วยบรรยากาศของปาร์ตี้ในวันนั้น บวกกับความเด๋อด๋าของฉัน และเจ้าหน้าที่ไม่มีความรู้ ทุกสิ่งมันเกือบทำให้ฉันปากแหกปากพัง ฉันจะไม่มีวันเฉียดเข้าใกล้ปาร์ตี้โบท็อกซ์แบบนั้นอีกเป็นอันขาด" เรเชล กล่าว
ทั้งนี้เรเชลก็ได้ฝากไปถึงสาว ๆ ทุกคน ที่คิดจะเสริมความงามด้วยโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ ให้ศึกษาข้อมูลมาก ๆ และเลือกทำในคลินิกที่ได้มาตรฐานเชื่อถือได้เท่านั้น เพราะเธอไม่อยากให้ใครต้องพบเจอประสบการณ์สุดแสนเจ็บปวดแบบเธอ และใครจะรู้ การตัดสินใจเลือกทำกับคนที่ไม่มีความรู้ หรือใช้ของไม่มีคุณภาพ อาจก่อให้เกิดผลร้ายแรงยิ่งกว่านี้อีกก็เป็นได้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rachael Knappier
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rachael Knappier
สำหรับผู้หญิงนั้น นอกจากคิ้วที่เป็นมงกุฎของใบหน้า และดวงตาที่เป็นหน้าต่างของหัวใจแล้ว ริมฝีปากก็เป็นอีกหนึ่งอวัยวะสำคัญบนใบหน้าที่สาว ๆ ทุกคนให้ความสำคัญอย่างมาก จะออกจากบ้านแต่ละครั้ง ก็ต้องแต่งแต้มให้สวยงามอยู่เสมอ บางคนถือเคล็ด "ปากไม่แดง ไม่มีแรงเดิน" เลยทีเดียว แต่บางครั้งแค่ลิปสติกหลากสีสันมันก็ไม่เพียงพอ เพราะแต่ละคนก็มีริมฝีปากแตกต่างกันไป บ้างก็ชอบริมฝีปากเหมือนกระจับ บ้างก็ชอบริมฝีปากบาง ๆ สำหรับผู้หญิงทางฝั่งตะวันตก ริมฝีปากอวบอิ่มคือสิ่งที่ทุกคนปรารถนา เพราะมันช่างดูเซ็กซี่เย้ายวนใจ อีกทั้งทาลิปสติกสีอะไรก็สวย สาว ๆ มากมายจึงพยายามหาวิธีให้ริมฝีปากคู่นี้สวยโดดเด้ง ตั้งแต่ใช้เทคนิคการแต่งหน้าช่วย ไปจนถึงการพึ่งฝีมือหมอ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rachael Knappier
จากการรายงานของเว็บไซต์เดอะซัน เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 ระบุว่า หญิงสาวคนดังกล่าวมีชื่อว่า เรเชล แนปปิเยร์ วัย 29 ปี ซึ่งทำงานอยู่ในบริษัทกฎหมายชั้นนำของอังกฤษ เธอเองก็มีรูปร่างหน้าตาสวยอยู่แล้ว แต่มีตำหนิจุดหนึ่งที่สร้างความไม่มั่นใจมาโดยตลอด เพราะเธอเคยโดนประตูหนีไฟฟาดหน้าสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่น อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ริมฝีปากบนของเธอเป็นแผลแตก แม้ว่าทุกวันนี้แผลจะหายดีแล้ว แต่มันก็เป็นรอยแหว่งเล็ก ๆ ที่จะอยู่ติดตัวเธอไปตลอดชีวิต ด้วยเหตุนี้ เรเชลจึงต้องเข้า-ออกคลินิกเสริมความงามอยู่เป็นประจำ เพื่อให้หมอฉีดฟิลเลอร์กลบรอยแหว่งให้ดูเรียบเสมอเท่ากัน ปกติแล้วเธอจะฉีดเพียงแค่ปริมาณน้อยนิดเท่านั้น แค่ให้กลบตำหนิที่ไม่มั่นใจ ไม่ได้ฉีดเพิ่มให้ดูอวบอิ่มแต่อย่างใด เพราะคิดว่าโดยรวมก็โอเคดีอยู่แล้ว
นอกจากฉีดฟิลเลอร์กลบริมฝีปากแล้ว สิ่งที่เรเชลทำอยู่เสมอคือการฉีดโบท็อกซ์เพื่อลบริ้วรอยไม่พึงประสงค์บนใบหน้า และเธอก็พึ่งพาคลินิกชั้นนำที่มีมาตรฐานเชื่อถือได้อยู่ตลอด ไม่เคยฉีดกับหมอกระเป๋าหรือมือสมัครเล่นมาก่อน ปกติแล้วค่าใช้จ่ายในการฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปากที่คลินิกใหญ่ ๆ จะอยู่ที่ครั้งละประมาณ 300 ปอนด์ หรือราว 12,600 บาท สำหรับคนที่ต้องใช้บริการบ่อย ๆ อาจจะมองว่ามันเป็นราคาที่สูง ต่างก็มองหาวิธีที่มันถูกกว่านั้น ปาร์ตี้โบท็อกซ์คือสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการนั้น และมันก็กำลังเป็นเทรนด์ฮิตในหมู่สาว ๆ ที่ได้รับความนิยมไปทั่วสหราชอาณาจักร
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rachael Knappier
ตอนแรกเรเชลไม่ได้สนใจปาร์ตี้โบท็อกซ์ เพราะเธอเองก็มีคลินิกประจำอยู่แล้ว แต่เพื่อน ๆ เอ่ยปากชวน และเธอก็เห็นว่ามันน่าสนใจ น่าไปดู เลยไปเข้าร่วมด้วย ขึ้นชื่อว่าปาร์ตี้ทั้งที แน่นอนว่ามันต้องเป็นสิ่งที่รื่นเริง เหล่าสาว ๆ ก็ฉีดโบท็อกซ์ ฉีดฟิลเลอร์ไปพร้อม ๆ กับการเมาท์มอย กินเค้ก และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เรเชลก็สนุกกับงานนี้ นั่งดูเพื่อน ๆ ทำกันไป ไม่คิดว่าจะฉีดเหมือนคนอื่น เพราะไม่กล้าพอ แต่เมื่อดื่มเหล้าไปแก้วสองแก้ว บวกกับการคะยั้นคะยอจากเพื่อน ๆ เรเชลที่อยู่ในสภาพกรึ่ม ๆ ก็จัดไป ถึงไหนถึงกัน
"ปาร์ตี้มันสนุกมาก สาว ๆ เมาท์มอยกันอยู่ในครัว ต่อคิวรอเจ้าหน้าที่ความสวยความงามทำหน้าให้ เพื่อนบอกฉันว่าเจ้าหน้าที่คนนี้เก่งมาก ฝีมือดีเป็นที่สุด ฉันก็เลยลองดู ตอนนั้นฉันคิดว่าเจ้าหน้าที่คนนี้คงเป็นพยาบาล หรือมีใบอนุญาต แต่ก็ไม่เห็นมีแบบฟอร์มให้กรอก และไม่มีหนังสือแสดงความยินยอมในการทำหัตถกรรมเลย แต่ด้วยความที่มันเป็นปาร์ตี้ในหมู่เพื่อน ๆ ไม่มีใครมานั่งซีเรียสกับเรื่องนี้ แถมเหล้าก็เข้าปาก ฉันเลยยอมฉีด"
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rachael Knappier
หลังจากนั้น เรเชลก็ขึ้นไปนอนบนเตียง เจ้าหน้าที่ก็เอายาชามาทาที่ริมฝีปากเธอ พร้อมบอกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ แต่ดูเหมือนว่าจริง ๆ แล้วจะใช้ยี่ห้ออื่นที่ไม่ได้คุณภาพ อีกทั้งยังฉีดให้เธอทั้งปาก ไม่ได้แค่เติมร่องที่มันแหว่ง ตอนที่ถูกฉีด เรเชลรู้สึกเจ็บมาก และรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี พอทุกอย่างเสร็จสิ้นลงแล้ว เรเชลไม่ได้รู้สึกว่าเธอดูดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย และรู้สึกว่ามันบวมมาก ในเวลาต่อมา ริมฝีปากของเรเชลก็บวมเป่งอย่างน่ากลัว เธอรู้สึกแย่และกลัวมาก รีบโทร. ไปหาเจ้าหน้าที่ความสวยความงามที่ฉีดฟิลเลอร์ให้เธอ และได้เปิดกล้องวิดีโอคอลคุยกัน เพื่อให้อีกฝ่ายเห็นภาพว่าสภาพใบหน้าของเธอมันแย่แค่ไหน
เจ้าหน้าที่คนนั้นตกใจมาก เอามือปิดปากด้วยความช็อก บอกว่าเรเชลอาจจะแพ้ตัวฟิลเลอร์ที่ใช้ พร้อมแนะนำให้เธอกินยาแก้แพ้ และไปหาหมอ เรเชลไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่นี้มาจากคลินิกไหนและฝีมือเป็นอย่างไร แต่มารู้ทีหลังว่าเธอเพิ่งออกมาจากคุกเมื่อปีที่แล้ว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rachael Knappier
ทางคลินิกสันนิษฐานว่าริมฝีปากของเธอประสบภาวะหลอดเลือดอุดตัน เกิดจากคนที่ฉีดฟิลเลอร์ฉีดไปโดนเส้นเลือด ถ้าไม่เร่งแก้ไข อาจทำให้เนื้อเยื่อตายได้ พวกเขาบอกให้เธอรีบออกเดินทางจากเลสเตอร์มายังลอนดอนทันที และได้นัดหมอเอาไว้รอรักษาเธอแล้ว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rachael Knappier
ข้อมูลที่เรเชลได้ยินมาทำให้เธอคิดมากไปสารพัด เธอกลัวมาก และกลัวว่าตัวเองอาจต้องตายเพราะเรื่องนี้ เธอไปหาหมอเพื่อฉีดยาลดอาการปวดบวม เพราะริมฝีปากของเธอตึงมาก แตกปริ และเจ็บปวดทรมานสุด ๆ หลังจากนั้นเธอและแม่ก็เดินทางไปยังลอนดอน เพื่อให้ทางคลินิกดังกล่าวช่วยแก้ไข พวกเขาใช้เวลาอยู่นานในการดูดเอาฟิลเลอร์ออกจากปากของเรเชล เธอกรีดร้องอยู่ตลอดเวลาเพราะมันเจ็บปวดมาก ขนาดแม่ของเธอที่นั่งรออยู่ข้างนอกยังได้ยิน
หลังจากนำฟิลเลอร์ทั้งหมดออกไปแล้ว ริมฝีปากของเรเชลก็เริ่มยุบ หลังจากเวลาผ่านไป 72 ชั่วโมง ก็ยุบลงไปมาก จนถึงตอนนี้ เวลาผ่านไปประมาณ 3 เดือนแล้ว ริมฝีปากของเรเชลก็กลับคืนสู่ปกติ ไม่เหลือเค้าอาการบวมฉึ่งสุดสยองอีกต่อไป
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Rachael Knappier
ทั้งนี้เรเชลก็ได้ฝากไปถึงสาว ๆ ทุกคน ที่คิดจะเสริมความงามด้วยโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ ให้ศึกษาข้อมูลมาก ๆ และเลือกทำในคลินิกที่ได้มาตรฐานเชื่อถือได้เท่านั้น เพราะเธอไม่อยากให้ใครต้องพบเจอประสบการณ์สุดแสนเจ็บปวดแบบเธอ และใครจะรู้ การตัดสินใจเลือกทำกับคนที่ไม่มีความรู้ หรือใช้ของไม่มีคุณภาพ อาจก่อให้เกิดผลร้ายแรงยิ่งกว่านี้อีกก็เป็นได้
