จอร์จ บุช ผู้พ่อ ผู้นำสหรัฐฯ คนที่ 41 ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว ด้วยวัย 94 ปี

             จอร์จ บุช ซีเนียร์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 41 ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว ด้วยวัย 94 ปี ด้าน โดนัลด์ ทรัมป์ และ บิล คลินตัน ร่วมไว้อาลัย

               "เจบ นีล มาร์วิน โดโร และตัวผม รู้สึกโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ต้องแจ้งข่าวนี้ โดยคุณพ่อผู้เป็นที่รักของพวกเรา ได้เสียชีวิตแล้ว หลังจากผ่านชีวิตมายาวนาน 94 ปี จอร์จ เอช. ดับเบิลยู บุช คือผู้ชายที่ยอดเยี่ยมที่สุด และเป็นพ่อที่ดีที่สุดสำหรับบุตรและธิดาทุกคน"

               "ทุกคนในตระกูลบุชรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่งสำหรับความรักและสิ่งที่ผู้ชายคนนี้ได้มอบให้ ผมขอขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ได้มอบความรักและสวดมนต์ภาวนาให้กับคุณพ่อของผม และขอบคุณสำหรับคำไว้อาลัยจากมิตรสหาย และพี่น้องชาวอเมริกันทุกคนครับ" จอร์จ ดับเบิลยู. บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บุตรชายคนโตของ จอร์จ บุช ซีเนียร์ กล่าวในแถลงการณ์การเสียชีวิตของคุณพ่อของเขา

               จอร์จ บุช มีชื่อเต็มว่า จอร์จ เฮอร์เบิร์ต วอล์กเกอร์ บุช เกิดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2467 หลังจากจบการศึกษา เขาก็แต่งงานสร้างครอบครัว มีลูกทั้งหมด 6 คน แต่ยังมีชีวิตอยู่ 5 คน เนื่องจากหนึ่งในนั้นเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตั้งแต่อายุยังน้อย จอร์จประกอบธุรกิจส่วนตัว ก่อนจะเข้าสู่กองทัพและร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่สอง ในฐานะนักบินขับเครื่องบินทิ้งระเบิด

               จอร์จ บุช เริ่มต้นชีวิตการเมืองในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. ในปี 2509 ในฐานะตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน และเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของรัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งแต่ยุค 70-80 โดยเขาได้รับเลือกให้เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ ในปี 2513-2515 ต่อมาก็ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลาง

               ตำแหน่งสูงสุดของ จอร์จ บุช ก่อนเป็นผู้นำสหรัฐฯ หรือการเป็นรองประธานาธิบดี ในสมัยของนายโรนัลด์ เรแกน (Ronald Reagan) และเข้าสู่สนามการเลือกตั้งประธานาธิบดีด้วยตัวเองในปี 2531 และชนะการเลือกตั้ง ได้เป็นประธานาธิบดีคนที่ 41 ของสหรัฐฯ และดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2532-2536

               สมัยที่ จอร์จ บุช ครองอำนาจสูงสุดในทำเนียบขาวนั้น ผลงานส่วนใหญ่ของเขาเน้นเรื่องนโยบายต่างประเทศ ซึ่งในช่วงนั้นมีเหตุการณ์สำคัญระดับโลกเกิดขึ้นมากมาย ทั้งการล่มสลายของสหภาพโซเวียต และส่งทหารเข้าช่วยเหลือคูเวตจากการยึดครองของอิรัก ภายใต้การนำของ ซัดดัม ฮุสเซน (Saddam Hussein) และบานปลายจนเป็นสงครามอ่าวเปอร์เซีย

               อดีตผู้นำโลก และบุคคลสำคัญทั่วโลกได้ออกมาแสดงความไว้อาลัยแด่การจากไปของอดีตประธานาธิบดีผู้นี้ โดย นายบิล คลินตัน (Bill Clinton) ประธานาธิบดีคนที่ 42 ของสหรัฐฯ และนางฮิลลารี คลินตัน ภรรยา กล่าวขอบคุณบุชในฐานะบุคคลที่สร้างประโยชน์ยิ่งใหญ่แก่ประเทศชาติ และขอบคุณสำหรับมิตรภาพที่มีให้อยู่เสมอ

               ทางด้าน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบัน และนางเมลาเนีย ทรัมป์ ภรรยา กล่าวว่า การสูญเสียครั้งนี้เป็นสิ่งที่เจ็บปวดเป็นอย่างยิ่ง ขอแสดงความเสียใจแด่ครอบครัวบุช และขอให้ชาวอเมริกันร่วมส่งความไว้อาลัยแด่อดีตประธานาธิบดีในช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ ทุกคนจะจดจำความดีของเขาตลอดไป และจะสานต่อเจตนารมณ์ของเขาเพื่อชาวอเมริกันต่อไป