แม่ย่องมอบตัว หลังทิ้งซากลูกแฝด อ้างแฟนทิ้ง-ไม่รู้ว่าท้อง อยู่ดี ๆ ลูกไหลออกมาเอง

           แม่เข้ามอบตัวกับตำรวจ หลังหอบซากลูกแฝด ทิ้งถังขยะ อ้างเลิกกับแฟนหนุ่มไปหลายเดือน ไม่รู้ตัวว่าท้อง ปวดท้องเลยกินยาแก้ปวด อยู่ดี ๆ ลูกไหลออกมาเอง
           ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเหตุสลดนี้ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2561 เวิร์คพอยท์นิวส์ รายงานว่า ในช่วงค่ำ ได้มีหญิงสาว วัย 26 ปี (ไม่เปิดเผยนาม) สภาพหน้าตาอิดโรย ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสืบสวน สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ กล่าวว่าตนเองเป็นแม่ที่นำซากเด็กฝาแฝดทั้งสองรายไปทิ้งขยะ โดยหญิงสาวรายนี้เล่าว่า ตนเป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในย่านบางปู และเพิ่งเลิกรากับแฟนหนุ่มไปได้ประมาณ 3 เดือน ก่อนหน้านั้นก็อาศัยอยู่กินด้วยกัน ตนไม่ทราบเลยว่าตั้งครรภ์ เพราะหลังจากแยกทางกับแฟนหนุ่มก็ใช้ชีวิตตามปกติ และไม่ได้ติดตามเช็กรอบเดือนตัวเองอย่างละเอียด พบว่ามาบ้างไม่มาบ้าง แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร ไม่ได้คิดจะตรวจครรภ์ด้วยเช่นกัน
           จนกระทั่งเวลาผ่านไป ประจำเดือนของหญิงสาวไม่ตามปกติ แต่ก็ยังคงไม่ทราบว่าตัวเองตั้งครรภ์หลายเดือนแล้ว และในช่วงสายของวันที่ 30 พฤศจิกายน หญิงสาวเล่าว่ารู้สึกปวดท้องอย่างมาก จึงไปซื้อยาแก้ปวดประจำเดือนมากิน หวังว่าจะแก้ปวดได้ แต่ผ่านไปสักพัก อาการก็ยังไม่ทุเลาลง จึงได้กินยาเพิ่มไปอีกครั้ง หลังจากนั้นมีทารกฝาแฝดไหลออกมาจากช่องคลอด ตนรู้สึกตกใจอย่างมาก และไม่กล้าบอกใครว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากตั้งสติได้แล้ว หญิงสาวเอาซากทารกทั้งสองใส่ถุงพลาสติก และตัดสินใจเอาไปทิ้ง พอได้ยินข่าวว่ามีคนไปพบ ตนรู้สึกกลัวความผิด จึงได้เดินทางมามอบตัว
           เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำและทำประวัติหญิงสาวดังกล่าว หลังจากนั้นก็เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ เพื่อให้แพทย์ตรวจเช็กร่างกาย และทำการรักษา เนื่องจากหญิงสาวมีอาการตกเลือดมาก อยู่ในสภาพอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ตั้งข้อหาใด ๆ กับหญิงสาวรายนี้ เนื่องจากต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพซากทารกทั้งสองก่อน และจะต้องมีการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก