แม่ร้อง ลูก 7 ขวบ ถูกคู่กรณีชนแล้วหนีไปแบบไม่ลงมาเหลียวแลสักนิด ทำเลือดไหลออกจมูก-ช่องปาก ขณะเปิดประตูรถจะวิ่งไปซื้อลูกชิ้น
น.ส.คถพร กล่าวต่อว่า มีกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพขณะหลบหนีได้เป็นบางจุด หลังจากนั้นตนก็นำหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.ศรีราชา คู่กรณีไม่เหลียวดูลูกสาวตนเลย ซ้ำยังขับหนี อยากให้ลองคิดว่าหากเป็นญาติตนถูกชนแล้วหนีแบบนี้จะรู้สึกอย่างไร ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด หลังเกิดเหตุทางคู่กรณีไม่จอดรถลงมาดูลูกสาวตนเลยแม้แต่นิดเดียว และยังถือว่าเคราะห์ดีที่ศีรษะลูกสาวตนไม่กระแทกพื้น แต่บาดเจ็บที่บริเวณจมูกและช่องปาก
ภาพจาก เวิร์คพอยท์นิวส์
ด้านหนูน้อยวัย 7 ขวบ ระบุว่า เขาน่าจะลงมาดูตนสักหน่อย เขาต้องรู้ตัวว่าชนแน่นอน เพราะชนค่อนข้างแรงจนได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ติดตามภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว ทราบว่า ผู้ขับขี่รถยนต์คันกล่าวขับขี่ไปตามเส้นทางในตัวเมือง ก่อนหลบหนีออกไปทางถนนสุขุมวิท คาดว่าน่าจะติดตามตรวจสอบป้ายทะเบียนรถคันก่อเหตุได้
ภาพจาก เวิร์คพอยท์นิวส์
วันที่ 5 ธันวาคม 2561 เว็บไซต์เวิร์คพอยท์นิวส์ รายงานว่า น.ส.คถพร สุภพร อายุ 37 ปี ร้องเรียนว่าลูกสาววัย 7
ขวบถูกคู่กรณีขับรถเฉี่ยวจนได้รับบาดเจ็บก่อนขับรถหนีไป
เหตุการณ์เกิดวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา น.ส.คถพร ระบุว่า
ตนขับรถยนต์มาพร้อมลูกสาววัย 7 ขวบ
ก่อนจะจอดที่คิวรถสองแถวข้างตลาดสดศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
ซึ่งเป็นถนนเลนเดียว จากนั้นลูกสาวได้เปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับ
เพื่อข้ามถนนไปซื้อลูกชิ้น แต่จู่ ๆ ก็มีรถยนต์ฮอนด้า สีเทา
ไม่ทราบทะเบียนขับมาด้วยความเร็วเฉี่ยวลูกสาวตนจนล้มกระแทกพื้น
เลือดไหลที่จมูกและปาก หลังเกิดเหตุคู่กรณีก็ขับรถหลบหนีไป
น.ส.คถพร กล่าวต่อว่า มีกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพขณะหลบหนีได้เป็นบางจุด หลังจากนั้นตนก็นำหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.ศรีราชา คู่กรณีไม่เหลียวดูลูกสาวตนเลย ซ้ำยังขับหนี อยากให้ลองคิดว่าหากเป็นญาติตนถูกชนแล้วหนีแบบนี้จะรู้สึกอย่างไร ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด หลังเกิดเหตุทางคู่กรณีไม่จอดรถลงมาดูลูกสาวตนเลยแม้แต่นิดเดียว และยังถือว่าเคราะห์ดีที่ศีรษะลูกสาวตนไม่กระแทกพื้น แต่บาดเจ็บที่บริเวณจมูกและช่องปาก
ภาพจาก เวิร์คพอยท์นิวส์
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ติดตามภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว ทราบว่า ผู้ขับขี่รถยนต์คันกล่าวขับขี่ไปตามเส้นทางในตัวเมือง ก่อนหลบหนีออกไปทางถนนสุขุมวิท คาดว่าน่าจะติดตามตรวจสอบป้ายทะเบียนรถคันก่อเหตุได้
ภาพจาก เวิร์คพอยท์นิวส์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก