เปิดใจหนุ่มบิ๊กไบค์ให้ตำรวจซ้อนยิงสกัดกระบะคลั่ง พบเป็นนักแข่งระดับประเทศ เผยต้องบิดถึง 200 กม./ชม. ไล่กวดคนร้าย รับอันตรายจริงที่ไม่ได้สวมอุปกรณ์ป้องกัน แต่ต้องรีบทำหน้าที่พลเมืองดี
จากเหตุการณ์ชวนระทึก กรณีมีรถกระบะแหกด่าน ตำรวจที่ จ.กระบี่ ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ขับรถไล่ล่า รวมถึงยังมีพลเมืองดีรายหนึ่งอาสาให้ตำรวจซ้อนท้ายรถบิ๊กไบค์ไล่ยิงล้อรถคนร้าย ก่อนจะสามารถจับกุมได้สำเร็จนั้น (อ่านข่าว : วินาทีหนุ่มบิ๊กไบค์ใจเด็ด บิดแรงตามสั่ง ให้ตำรวจซ้อนท้าย ยิงสกัดกระบะคลั่งยา)
ล่าสุด วันที่ 8 ธันวาคม 2561 เว็บไซต์นิวส์ทีวี ได้สอบถาม นายชัยณรงค์ หรือต๊ะ สุขอุ่น อายุ 28 ปี หนุ่มขี่บิ๊กไบค์ ยามาฮ่า R1 ในคลิปดังกล่าว เปิดใจว่า ก่อนหน้านี้ตนเองเคยแข่งจักรยานยนต์ทางเรียบระดับประเทศมาแล้วหลายสนาม โดยวันที่เกิดเหตุ ตนกำลังนั่งกินข้าวอยู่ร้านข้างป้อมตำรวจ ก่อนจะเห็นว่ามีกระบะแหกด่าน จังหวะนั้นรถตำรวจไม่มีทางติดตามได้ทัน เพราะต้องใช้ความเร็วเกือบ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงตัดสินใจนำรถบิ๊กไบค์ออกมาขับไล่ตาม พร้อมประสานติดต่อตำรวจไปตลอดทาง และได้ให้นายตำรวจนั่งซ้อนท้ายไปด้วยกันตรงจุดทางเข้าถนนเซาท์เทิร์นซีบอร์ด ก่อนจะติดตามไล่ล่ากระทั่งจับกุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้สำเร็จ
นายชัยณรงค์ ยอมรับว่า รู้สึกตื่นเต้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใจจริงไม่ได้อยากจะเด่นดัง แต่ทำเพราะจิตสำนึกของพลเมืองดี และอยากฝากเตือนว่าอย่าทำตาม เพราะการขับขี่ด้วยความเร็วขนาดนี้ต้องใช้ความชำนาญจริง ๆ ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ไม่ได้มีอุปกรณ์ป้องกันเพราะต้องเร่งรีบขับตาม ไม่ว่าสังคมจะมองในมุมไหนก็พร้อมจะยอมรับทั้งสิ้น
สุดท้ายฝากถึงกลุ่มคนรักความเร็วว่าควรจะหันไปขับขี่แข่งกันในสนามแข่งที่ได้มาตรฐาน ดีกว่ามาขับขี่บนท้องถนนเพราะอาจจะเกิดอันตรายกับตัวเอง และบุคคลอื่น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
จากเหตุการณ์ชวนระทึก กรณีมีรถกระบะแหกด่าน ตำรวจที่ จ.กระบี่ ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ขับรถไล่ล่า รวมถึงยังมีพลเมืองดีรายหนึ่งอาสาให้ตำรวจซ้อนท้ายรถบิ๊กไบค์ไล่ยิงล้อรถคนร้าย ก่อนจะสามารถจับกุมได้สำเร็จนั้น (อ่านข่าว : วินาทีหนุ่มบิ๊กไบค์ใจเด็ด บิดแรงตามสั่ง ให้ตำรวจซ้อนท้าย ยิงสกัดกระบะคลั่งยา)
ล่าสุด วันที่ 8 ธันวาคม 2561 เว็บไซต์นิวส์ทีวี ได้สอบถาม นายชัยณรงค์ หรือต๊ะ สุขอุ่น อายุ 28 ปี หนุ่มขี่บิ๊กไบค์ ยามาฮ่า R1 ในคลิปดังกล่าว เปิดใจว่า ก่อนหน้านี้ตนเองเคยแข่งจักรยานยนต์ทางเรียบระดับประเทศมาแล้วหลายสนาม โดยวันที่เกิดเหตุ ตนกำลังนั่งกินข้าวอยู่ร้านข้างป้อมตำรวจ ก่อนจะเห็นว่ามีกระบะแหกด่าน จังหวะนั้นรถตำรวจไม่มีทางติดตามได้ทัน เพราะต้องใช้ความเร็วเกือบ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงตัดสินใจนำรถบิ๊กไบค์ออกมาขับไล่ตาม พร้อมประสานติดต่อตำรวจไปตลอดทาง และได้ให้นายตำรวจนั่งซ้อนท้ายไปด้วยกันตรงจุดทางเข้าถนนเซาท์เทิร์นซีบอร์ด ก่อนจะติดตามไล่ล่ากระทั่งจับกุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้สำเร็จ
นายชัยณรงค์ ยอมรับว่า รู้สึกตื่นเต้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใจจริงไม่ได้อยากจะเด่นดัง แต่ทำเพราะจิตสำนึกของพลเมืองดี และอยากฝากเตือนว่าอย่าทำตาม เพราะการขับขี่ด้วยความเร็วขนาดนี้ต้องใช้ความชำนาญจริง ๆ ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ไม่ได้มีอุปกรณ์ป้องกันเพราะต้องเร่งรีบขับตาม ไม่ว่าสังคมจะมองในมุมไหนก็พร้อมจะยอมรับทั้งสิ้น
สุดท้ายฝากถึงกลุ่มคนรักความเร็วว่าควรจะหันไปขับขี่แข่งกันในสนามแข่งที่ได้มาตรฐาน ดีกว่ามาขับขี่บนท้องถนนเพราะอาจจะเกิดอันตรายกับตัวเอง และบุคคลอื่น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
