เพื่อนบ้านลุงจ๋า เสี่ยเฟอร์นิเจอร์ถูกฆ่ามัดมือมัดเท้า เผย ได้ยินเสียงเคาะผนังห้องกลางดึก นอนไม่ได้ต้องย้ายหนีไปนอนบ้านอื่น ส่วนอีกราย บอกไม่เคยเห็นคนงานชาวเวียดนามมาทำงานกับลุงจ๋ามาก่อน แฉ 2 ลูกน้องขี้เมา
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2561 อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า พล.ต.ต. นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และพ.ต.อ. อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้มีการประชุมเจ้าหน้าที่ชุดทำงาน เพื่อเร่งดูความคืบหน้าคดีฆ่ามัดมือมัดเท้า นายประยูร ปิติพงษ์พล อายุ 62 ปี หรือ ลุงจ๋า เจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์
ขณะที่ น.ส.ณิชาภา อายุ 28 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ตนและครอบครัวสุดหลอนหลังเกิดเหตุดังกล่าว โดยในช่วงดึกจะได้ยินเสียงเคาะผนังกำแพงบ้าน ชึ่งห้องตนจะอยู่ติดกับจุดที่ลุงจ๋าถูกฆ่าตาย ช่วงเวลา 5 ทุ่มจะได้ยินเสียงเหมือนคนเคาะผนังกำแพง ทำให้ตนกลัว ไม่กล้านอนที่บ้านหลังดังกล่าวอีก จึงได้พากันย้ายออกมานอนที่บ้านอีกหลัง
โดยส่วนตัวตนกับลุงจ๋าไม่ได้สนิทกันมากนัก หลังทราบเรื่องก็ตกใจ เพราะได้ยินเสียงอยู่บ่อยครั้ง จึงไม่กล้ากลับไปนอนอีก และอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งตามคนร้ายมาลงโทษโดยเร็ว เพื่อลุงจะได้นอนตายตาหลับ
ด้าน นายเฉิน (นามสมมติ) เพื่อนบ้านลุงจ๋าอีกราย เผยว่า กรณีที่ข่าวระบุว่าลุงจ๋ารับคนงานชาวเวียดนามมาทำงานและหายตัวหลังเกิดเหตุนั้น ตนไม่เคยเห็นคนงานเวียดนามที่ถูกกล่าวถึงมาก่อน เพราะตลอดที่รู้จักกันมา ก็ไม่เคยเห็นว่ามีคนงานชาวเวียดนามมาทำงานกับลุงจ๋า แต่ไม่มั่นใจว่าอาจจะเป็นคนงานที่ลุงจ๋าจ้างให้ทำงานนอกร้านหรือไม่
ทั้งนี้ ตนเห็นเพียงลูกน้องประจำ 2 คน คือนายสิงห์ กับนายคม โดยนายสิงห์เป็นคนเฮฮา ส่วนนายคมจะเป็นคนเงียบ ๆ แต่ทำงานกับลุงจ๋ามานานหลายปี ซึ่งหากถามว่าลุงจ๋าสนิทกับใครเป็นพิเศษ ตนมองว่าคงไม่มี เพราะลุงจ๋าเป็นคนรักสันโดษ
อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่า ลุงจ๋าเป็นคนจริงจังกับงาน ค่อนข้างดุลูกน้อง เพราะงานช่างจะต้องเข้มงวดกับคนงานพอสมควร อีกทั้งลูกน้องลุงจ๋าแต่ละคนมีนิสัยติดสุรา แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นประเด็นนี้หรือไม่ เพราะเขาก็อยู่ด้วยกันมานาน ส่วนลูกน้องเก่า ๆ ที่ลาออกไปแล้วนั้น ตนมองว่าก็มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะลูกน้องบางรายต้องลาออกไปเพราะทะเลาะมีปากเสียงกันรุนแรงกับลุงจ๋า
ขณะที่ นางหน่อย (นามสมมติ) เพื่อนสนิทของนายคม หนึ่งในคนงานของลุงจ๋า บอกว่า ตนรู้จักกับนายคมมา 15 ปี เท่าที่รู้จักนายคมเป็นคนติดสุรา เวลาเมาก็จะมานอนใต้ต้นมะขามแถวร้านค้าตน แต่ไม่เคยมีนิสัยอันธพาล เวลาเจอวัยรุ่นมาหาเรื่อง ลุงคมก็จะพูดดี ๆ กับพวกวัยรุ่น ทำให้ไม่ค่อยมีใครมาหาเรื่องเท่าไรนัก
ส่วนเรื่องการทำงาน ตนไม่เคยได้ยินลุงคมมาบ่นเรื่องเจ้านายให้ฟัง บอกแค่ว่างานเยอะ ซึ่งลุงคมเคยบอกตนว่าลุงจ๋าเป็นเจ้านายที่ดีมีนิสัยเป็นกันเองกับลูกน้อง เวลาอยากได้อะไรก็ซื้อให้ แล้วยังให้นอนค้างที่บ้านหลังเดียวกันอีกด้วย
ส่วนตัวจึงมองว่าเป็นไปไม่ได้ที่ลุงคมจะให้คนไปลอบทำร้ายลุงจ๋าเพื่อหวังเอาเงิน เพราะลุงคมก็เป็นคนตัวเล็ก ผอม ดื่มเหล้าแค่แก้วเดียวก็เมาหลับแล้ว ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่เขาจะไปทำร้ายใคร และที่ผ่านมาตนไม่เคยได้ยินลุงคมมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับตู้เซฟของลุงจ๋าให้ฟังเลยสักครั้ง ส่วนนายสิงห์ ลูกน้องอีกคน ตนเคยเจอเพียงครั้งเดียว เพราะมานั่งดื่มสุรากับลุงคม
อ่ารายละเอียดเพิ่มเติมจาก
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2561 อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า พล.ต.ต. นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และพ.ต.อ. อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้มีการประชุมเจ้าหน้าที่ชุดทำงาน เพื่อเร่งดูความคืบหน้าคดีฆ่ามัดมือมัดเท้า นายประยูร ปิติพงษ์พล อายุ 62 ปี หรือ ลุงจ๋า เจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์
ขณะที่ น.ส.ณิชาภา อายุ 28 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ตนและครอบครัวสุดหลอนหลังเกิดเหตุดังกล่าว โดยในช่วงดึกจะได้ยินเสียงเคาะผนังกำแพงบ้าน ชึ่งห้องตนจะอยู่ติดกับจุดที่ลุงจ๋าถูกฆ่าตาย ช่วงเวลา 5 ทุ่มจะได้ยินเสียงเหมือนคนเคาะผนังกำแพง ทำให้ตนกลัว ไม่กล้านอนที่บ้านหลังดังกล่าวอีก จึงได้พากันย้ายออกมานอนที่บ้านอีกหลัง
โดยส่วนตัวตนกับลุงจ๋าไม่ได้สนิทกันมากนัก หลังทราบเรื่องก็ตกใจ เพราะได้ยินเสียงอยู่บ่อยครั้ง จึงไม่กล้ากลับไปนอนอีก และอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งตามคนร้ายมาลงโทษโดยเร็ว เพื่อลุงจะได้นอนตายตาหลับ
ด้าน นายเฉิน (นามสมมติ) เพื่อนบ้านลุงจ๋าอีกราย เผยว่า กรณีที่ข่าวระบุว่าลุงจ๋ารับคนงานชาวเวียดนามมาทำงานและหายตัวหลังเกิดเหตุนั้น ตนไม่เคยเห็นคนงานเวียดนามที่ถูกกล่าวถึงมาก่อน เพราะตลอดที่รู้จักกันมา ก็ไม่เคยเห็นว่ามีคนงานชาวเวียดนามมาทำงานกับลุงจ๋า แต่ไม่มั่นใจว่าอาจจะเป็นคนงานที่ลุงจ๋าจ้างให้ทำงานนอกร้านหรือไม่
ทั้งนี้ ตนเห็นเพียงลูกน้องประจำ 2 คน คือนายสิงห์ กับนายคม โดยนายสิงห์เป็นคนเฮฮา ส่วนนายคมจะเป็นคนเงียบ ๆ แต่ทำงานกับลุงจ๋ามานานหลายปี ซึ่งหากถามว่าลุงจ๋าสนิทกับใครเป็นพิเศษ ตนมองว่าคงไม่มี เพราะลุงจ๋าเป็นคนรักสันโดษ
อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่า ลุงจ๋าเป็นคนจริงจังกับงาน ค่อนข้างดุลูกน้อง เพราะงานช่างจะต้องเข้มงวดกับคนงานพอสมควร อีกทั้งลูกน้องลุงจ๋าแต่ละคนมีนิสัยติดสุรา แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นประเด็นนี้หรือไม่ เพราะเขาก็อยู่ด้วยกันมานาน ส่วนลูกน้องเก่า ๆ ที่ลาออกไปแล้วนั้น ตนมองว่าก็มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะลูกน้องบางรายต้องลาออกไปเพราะทะเลาะมีปากเสียงกันรุนแรงกับลุงจ๋า
ขณะที่ นางหน่อย (นามสมมติ) เพื่อนสนิทของนายคม หนึ่งในคนงานของลุงจ๋า บอกว่า ตนรู้จักกับนายคมมา 15 ปี เท่าที่รู้จักนายคมเป็นคนติดสุรา เวลาเมาก็จะมานอนใต้ต้นมะขามแถวร้านค้าตน แต่ไม่เคยมีนิสัยอันธพาล เวลาเจอวัยรุ่นมาหาเรื่อง ลุงคมก็จะพูดดี ๆ กับพวกวัยรุ่น ทำให้ไม่ค่อยมีใครมาหาเรื่องเท่าไรนัก
ส่วนเรื่องการทำงาน ตนไม่เคยได้ยินลุงคมมาบ่นเรื่องเจ้านายให้ฟัง บอกแค่ว่างานเยอะ ซึ่งลุงคมเคยบอกตนว่าลุงจ๋าเป็นเจ้านายที่ดีมีนิสัยเป็นกันเองกับลูกน้อง เวลาอยากได้อะไรก็ซื้อให้ แล้วยังให้นอนค้างที่บ้านหลังเดียวกันอีกด้วย
ส่วนตัวจึงมองว่าเป็นไปไม่ได้ที่ลุงคมจะให้คนไปลอบทำร้ายลุงจ๋าเพื่อหวังเอาเงิน เพราะลุงคมก็เป็นคนตัวเล็ก ผอม ดื่มเหล้าแค่แก้วเดียวก็เมาหลับแล้ว ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่เขาจะไปทำร้ายใคร และที่ผ่านมาตนไม่เคยได้ยินลุงคมมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับตู้เซฟของลุงจ๋าให้ฟังเลยสักครั้ง ส่วนนายสิงห์ ลูกน้องอีกคน ตนเคยเจอเพียงครั้งเดียว เพราะมานั่งดื่มสุรากับลุงคม
อ่ารายละเอียดเพิ่มเติมจาก
