x close

ผัวชี้พิรุธ อดีตเมียเอาข้าวมาคืนก่อนส่งต่อแม่เฒ่า 103 แก้แค้นเคยตบตีตอนแต่งงาน



          เจ้าของข้าวสาร ยันไม่ได้เป็นคนวางยา สงสัยครอบครัวอดีตภรรยา เนื่องจากเอาข้าวสารไปให้ ก่อนอีกฝ่ายจะนำมาคืน ซึ่งตนได้นำข้าวสารถุงเดิมไปให้บ้านแม่เฒ่า 103 ปี สงสัยว่าอาจมีการวางยาก่อนนำมาคืนหรือไม่ ด้านน้องชายอดีตภรรยา โต้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง



          จากกรณี นางปุ๋ย ศรีสมัย แม่เฒ่าวัย 103 ปี, นางสำเนียง นาพรหม ลูกสาว และนายสว่าง นาพรหม อายุ 68 ปี ลูกเขย มีอาการอาเจียนและหมดสติ ขณะนั่งกินข้าวภายในบ้าน ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างนำข้าวสารที่ใช้หุงกินไปตรวจสอบว่ามีสารพิษปนเปื้อนหรือไม่ โดยนายสมชาย แนวอินทร์ หลานของนางสำเนียง ยอมรับว่าเป็นคนนำข้าวสารไปให้บ้านยายปุ๋ย แต่ปฏิเสธไม่ได้เป็นคนวางยา ด้านอดีตภรรยาของนายสมชาย เคยได้รับข้าวสารเช่นกัน แต่เอาไปคืน อ้างว่าน้องชายเตือนว่าระวังกินแล้วจะตายทั้งบ้าน (อ่านข่าว : หลานชายรับ เป็นคนเอาข้าวสารให้แม่เฒ่าวัย 103 กินจนเกือบดับ แต่ไม่ใช่คนวางยาทั้งบ้าน !)

          ความคืบหน้าล่าสุด (11 ธันวาคม 2561) รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า ตำรวจ สภ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ได้เชิญนายสมชาย แนวอินทร์ ไปสอบปากคำ โดยตำรวจระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งข้าวสาร อาหาร รวมถึงภาชนะที่ผู้ป่วยใช้ในวันเกิดเหตุ ไปพิสูจน์ที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 เดือน

วางยา
          ด้านนายสมชาย แนวอินทร์ เจ้าของข้าวสาร เปิดเผยว่า ตนมักนำข้าวสารไปให้ครอบครัวนางสำเนียงเป็นประจำทุกปี เพราะอยากให้ญาติ ๆ ได้กินข้าวใหม่ ซึ่งข้าวสารดังกล่าว ตนนำไปให้อดีตภรรยาก่อน แต่เขาไม่รับและนำมาส่งคืน ตนจึงนำข้าวถุงที่เขาไม่รับนั้น ไปให้กับครอบครัวนางสำเนียง

          ตนยืนยันว่า ไม่ได้ใส่สารแปลกปลอมในข้าว เพราะผู้บาดเจ็บก็เป็นญาติกัน และคาดว่าน้องอดีตภรรยาหรือนายโช เป็นคนยุไม่ให้กินข้าวของตน เนื่องจากเคยมีปัญหาทะเลาะกันมาก่อน อีกทั้งตนสงสัยว่าข้าวสารเคยอยู่กับครอบครัวฝ่ายอดีตภรรยา ซึ่งฝ่ายนั้นไม่ชอบตนอยู่แล้ว ก่อนถูกนำกลับมาคืน จึงอาจมีการใส่อะไรในข้าวสารหรือไม่ ซึ่งหากวันนั้นตนไม่นำข้าวไปให้นางสำเนียง ตนก็อาจเป็นคนถูกสารพิษจากข้าว แต่ตนอาจไม่ถึงตาย เพราะร่างกายแข็งแรง

          ส่วนที่มีคนกล่าวหาว่าวัน ๆ ตนไม่ได้ทำมาหากินอะไรนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะตนป่วยมา 2 เดือนแล้ว มีอาการนอนไม่หลับ หลับแต่ตา สมองไม่หลับ แต่ได้ยาดีจากหมอจิตเวช ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนทำนา ทำสวน และค้าขายกับอดีตภรรยา ส่วนทุกวันนี้ ตนจะตัดกล้วยในสวนไปขายให้แม่ค้ากล้วยทอด ส่วนคนปากคนยาวกว่าปากกา ที่ว่าตนไม่ทำมาหากิน ตนไม่ถือสา เพราะเดี๋ยวก็เข้าตัวเขาเอง

วางยา
          ขณะที่นางสมบุญ จุมจันทร์ อดีตภรรยาของนายสมชาย เผยว่า ตนกับนายสมชายอยู่กันฉันสามีภรรยามาประมาณ 20 ปี มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ชีวิตคู่ช่วงแรกก็ดี แต่พักหลัง นายสมชายมักทำร้ายร่างกาย ส่วนเวลาขายของ หากมีคนนั่งในร้านนาน ก็มีท่าทีหึงหวง บางทีก็ด่าว่า "จะเอาใครมาสี่ (มีเพศสัมพันธ์) ก็มาเอา ในห้องกูก็ได้ กลางบ้านก็ได้" กระทั่งตนตัดสินใจแยกทางออกมา เพราะทนถูกด่าและทำร้ายร่างกายไม่ได้

          ช่วงที่แยกทางกัน น้องชายตนกังวลว่านายสมชายจะมาฆ่า เนื่องจากนายสมชายมักถือมีดกับเคียวติดมือเวลาออกจากบ้าน แต่ถึงแม้จะแยกทางกัน ตนก็พูดคุยกับอีกฝ่ายปกติ เพราะตกลงกันว่าจะคบหากันแบบเพื่อน

วางยา
          ทางด้านนายโช จุมจันทร์ น้องชายของนางสมบุญ เปิดเผยว่า ช่วงกลางดึก วันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตนเดินทางมาดื่มสุราที่บ้านพี่สาว เห็นนายสมชายนำข้าวสารมาให้พี่สาว แต่วันที่พี่สาวนำข้าวไปคืน ตนไม่ทราบ เพราะเดินทางไปต่างจังหวัด และยืนยันว่าไม่เคยห้ามพี่สาวรับข้าวจากนายสมชายมาก่อน จึงไม่ทราบว่าเรื่องนี้เกี่ยวโยงกับตนได้อย่างไร พร้อมสาบานว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางยาในข้าวสาร

          อย่างไรก็ตาม นายโช ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้เคยมีปัญหาทะเลาะกับนายสมชาย เนื่องจากบีบคอพี่สาวตน จากนั้นตนจึงไปด่านายสมชาย ซึ่งยอมรับว่าด่าแรง แล้วก็แยกย้ายกันไป ไม่ได้พูดคุยกับนายสมชายอีก กระทั่งทราบว่าพี่สาวแยกกันอยู่กับนายสมชายแล้ว ทั้งนี้ ตนก็ขอให้ตำรวจและหมอ ช่วยหาข้อเท็จจริงได้โดยเร็ว


         
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก รายการทุบโต๊ะข่าว


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ผัวชี้พิรุธ อดีตเมียเอาข้าวมาคืนก่อนส่งต่อแม่เฒ่า 103 แก้แค้นเคยตบตีตอนแต่งงาน อัปเดตล่าสุด 12 ธันวาคม 2561 เวลา 12:05:59 14,389 อ่าน
TOP