แคนาดาให้ประกันตัว ลูกสาวประธานหัวเว่ย ในวงเงินประกัน 244 ล้านบาท ภายใต้เงื่อนไขถูกจับตา 24 ชั่วโมง-สวมแท็กข้อเท้า
จากกรณี เหม็ง ว่านโจว วัย 46 ปี ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน (CFO) และรองประธานบริษัทหัวเว่ย ซึ่งเป็นลูกสาวของประธานบริษัทหัวเว่ย ผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการสื่อสารรายใหญ่ที่สุดของจีน ถูกเจ้าหน้าที่ในแคนาดาจับกุม ตามการแจ้งจับของสหรัฐอเมริกา ในข้อหาละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐฯ ซึ่งทางหัวเว่ยได้ยื่นขอประกันตัวไปก่อนหน้านี้ และอยู่ระหว่างรอศาลพิจารณาคำร้องขอประกันตัวนั้น
ล่าสุด (12 ธันวาคม 2561) สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ศาลแคนาดาได้อนุมัติให้ประกันตัว เหม็ง ว่านโจว ลูกสาวของประธานบริษัทหัวเว่ย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยวงเงินประกัน 10 ล้านเหรียญแคนาดา (ราว 244 ล้านบาท) ภายใต้เงื่อนไขที่เธอจะสวมแท็กติดข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ และต้องอยู่ภายใต้การจับตาของเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ หลังจากได้ทราบคำพิจารณาของศาล เหม็งถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความยินดี และสวมกอดทนายของเธอในห้องพิจารณาคดี โดยหลังจากนี้เธอมีกำหนดจะต้องขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562
จากกรณี เหม็ง ว่านโจว วัย 46 ปี ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน (CFO) และรองประธานบริษัทหัวเว่ย ซึ่งเป็นลูกสาวของประธานบริษัทหัวเว่ย ผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการสื่อสารรายใหญ่ที่สุดของจีน ถูกเจ้าหน้าที่ในแคนาดาจับกุม ตามการแจ้งจับของสหรัฐอเมริกา ในข้อหาละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐฯ ซึ่งทางหัวเว่ยได้ยื่นขอประกันตัวไปก่อนหน้านี้ และอยู่ระหว่างรอศาลพิจารณาคำร้องขอประกันตัวนั้น
ล่าสุด (12 ธันวาคม 2561) สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ศาลแคนาดาได้อนุมัติให้ประกันตัว เหม็ง ว่านโจว ลูกสาวของประธานบริษัทหัวเว่ย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยวงเงินประกัน 10 ล้านเหรียญแคนาดา (ราว 244 ล้านบาท) ภายใต้เงื่อนไขที่เธอจะสวมแท็กติดข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ และต้องอยู่ภายใต้การจับตาของเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ หลังจากได้ทราบคำพิจารณาของศาล เหม็งถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความยินดี และสวมกอดทนายของเธอในห้องพิจารณาคดี โดยหลังจากนี้เธอมีกำหนดจะต้องขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562
อนึ่ง การจับกุมตัวลูกสาวประธานบริษัทหัวเว่ย ซึ่งเป็นบริษัทด้านโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีน ได้สร้างความตึงเครียดอย่างมากในความสัมพันธ์ระหว่างจีน ต่อแคนาดาและสหรัฐฯ ซึ่งในเรื่องนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ประกาศชัดว่า เขายินดีจะเข้าแทรกแซงคดีของเหม็งในกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ อย่างแน่นอน หากคิดว่ามันจำเป็น และส่งผลดีต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งเขาคิดว่านี่จะเป็นข้อตกลงทางการค้าครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาเคยทำ เพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนได้รับผลกระทบ