แม่อุ้มลูกสาว 3 ขวบโร่แจ้งความ สงสัยถูกตาเขยวัย 65 อาศัยช่วงตาแท้ ๆ ไม่อยู่ล่วงละเมิดทางเพศ
![ตาเขยใจทราม ล่วงละเมิดทางเพศหลานวัย 3 ขวบ อาศัยช่วงตาแท้ ๆ ไม่อยู่]( "ตาเขยใจทราม ล่วงละเมิดทางเพศหลานวัย 3 ขวบ อาศัยช่วงตาแท้ ๆ ไม่อยู่")
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
มาทราบเรื่องดังกล่าวตั้งแต่ช่วงงานเทศกาลลอยกระทงที่ผ่านมา หลังกลับมาเยี่ยมลูกที่บ้านและรับน้องนิกกี้ไปอยู่ด้วย หลังจากรับลูกสาวมาอยู่ด้วยแล้วได้นำตัวไปอาบน้ำให้ พบว่าบริเวณอวัยวะเพศน้องนิกกี้ มีน้ำใส ๆ ไหลออกมา มีกลิ่นเหม็น และมีรอยแดงเหมือนถูกล่วงละเมิดทางเพศ เมื่อมือของตนถูกบริเวณอวัยวะเพศน้องนิกกี้ ก็ร้องไห้ด้วยความเจ็บ
ผู้เป็นแม่เล่าอีกว่า หลังจากรับน้องนิกกี้มาอยู่ด้วยตนเองก็สังเกตพฤติกรรมของลูก ก็ไม่พบว่ามีพฤติกรรมใช้นิ้วเล่นอวัยวะเพศของตัวเอง จึงตัดสินใจพาน้องมาตรวจที่ รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 หลังจากแพทย์ได้ตรวจแล้วได้แนะนำให้ไปแจ้งความ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนส่งตัวไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อยืนยันผลการตรวจที่แน่ชัดว่าน้องถูกละเมิดทางเพศจริงหรือไม่ เพื่อจะได้ติดตามตัว ตาแป๊ะ ซึ่งเป็นตาเขยมาทำการสอบสวนอีกครั้งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบชื่อนายพีระพงษ์ วิไลดิษฐ์ อายุ 65 ปี หรือตาแป๊ะ ผู้ก่อเหตุ พบว่าไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนราษฏร์ ไม่มีรูปในระบบ จึงให้ผู้เสียหายไปถ่ายรูปตาแป๊ะ เพื่อออกหมายจับต่อไป แต่ทางครอบครัวหวั่นว่าตาแป๊ะ จะไหวตัวทันหลบหนีไป จึงอยากให้ตำรวจไปจับกุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีเนื่องจากรู้ตัวผู้ก่อเหตุอยู่แล้วว่าเป็นใคร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2561 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า ที่ สภ.ทุ่งคอก นางอุไรพร อายุ 37 ปี พร้อมด้วยสามี ผู้ปกครองของ ด.ญ.นิกกี้ (นามสมมติ) อายุ 3 ปี 1 เดือน เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีกับนายพีระพงษ์ วิไลดิษฐ์ อายุ 65 ปี หรือตาแป๊ะ ซึ่งมีศักดิ์เป็นตาเขยของ ด.ญ.นิกกี้ ได้ล่วงละเมิดทางเพศ โดยพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกายที่ รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 ไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามแม่เด็ก เล่าว่า ตนมีลูกสาว 2 คนคือน้องนิกกี้ และพี่สาวชื่อน้องปลา อายุ 13 ปี โดยตนเองต้องไปขายของอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 1-2 เดือนจะกลับมาบ้านครั้งหนึ่ง ส่วนลูกสาว 2 คนได้ให้นายจำลอง ซึ่งเป็นตาแท้ ๆ ช่วยเลี้ยง
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
มาทราบเรื่องดังกล่าวตั้งแต่ช่วงงานเทศกาลลอยกระทงที่ผ่านมา หลังกลับมาเยี่ยมลูกที่บ้านและรับน้องนิกกี้ไปอยู่ด้วย หลังจากรับลูกสาวมาอยู่ด้วยแล้วได้นำตัวไปอาบน้ำให้ พบว่าบริเวณอวัยวะเพศน้องนิกกี้ มีน้ำใส ๆ ไหลออกมา มีกลิ่นเหม็น และมีรอยแดงเหมือนถูกล่วงละเมิดทางเพศ เมื่อมือของตนถูกบริเวณอวัยวะเพศน้องนิกกี้ ก็ร้องไห้ด้วยความเจ็บ
ตนสงสัยว่าลูกน่าจะถูกล่วงละเมิดทางเพศ จึงสอบถามน้อง เล่าให้ฟังว่าตาแป๊ะเป็นคนทำจับถ่างขา แล้วก็บอกว่าเจ็บตรงอวัยวะเพศ จึงเชื่อว่าผู้ก่อเหตุคือตาแป๊ะ ที่บ้านอยู่ใกล้กันและมีศักดิ์เป็นตาเขย อาสารับเลี้ยงเด็กให้ ในช่วงกลางวันที่ตาแท้ ๆ ของเด็กออกไปรับจ้างทำงานก่อสร้าง
ผู้เป็นแม่เล่าอีกว่า หลังจากรับน้องนิกกี้มาอยู่ด้วยตนเองก็สังเกตพฤติกรรมของลูก ก็ไม่พบว่ามีพฤติกรรมใช้นิ้วเล่นอวัยวะเพศของตัวเอง จึงตัดสินใจพาน้องมาตรวจที่ รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 หลังจากแพทย์ได้ตรวจแล้วได้แนะนำให้ไปแจ้งความ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนส่งตัวไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อยืนยันผลการตรวจที่แน่ชัดว่าน้องถูกละเมิดทางเพศจริงหรือไม่ เพื่อจะได้ติดตามตัว ตาแป๊ะ ซึ่งเป็นตาเขยมาทำการสอบสวนอีกครั้งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบชื่อนายพีระพงษ์ วิไลดิษฐ์ อายุ 65 ปี หรือตาแป๊ะ ผู้ก่อเหตุ พบว่าไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนราษฏร์ ไม่มีรูปในระบบ จึงให้ผู้เสียหายไปถ่ายรูปตาแป๊ะ เพื่อออกหมายจับต่อไป แต่ทางครอบครัวหวั่นว่าตาแป๊ะ จะไหวตัวทันหลบหนีไป จึงอยากให้ตำรวจไปจับกุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีเนื่องจากรู้ตัวผู้ก่อเหตุอยู่แล้วว่าเป็นใคร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
