เหยื่อเล่าพิธีอุบาทว์ ถูกหลอกสวิงกิ้งกับร่างทรง-สาวก พร่ำสอนศาสนา ตอนสอดใส่

           เหยื่อร่างทรงเล่าย้อนถึงพิธีกรรมแก้เคล็ดสุดอุบาทว์ ถูกบังคับสวิงกิ้งกับร่างทรงและสาวก เพื่อแก้เคล็ด ร่างทรงบอกกินไวอากร้าแล้ว แต่อวัยวะเพศไม่แข็งตัว ระหว่างสอดใส่ก็สอนศาสนา บอกให้มีสติ

           สำหรับความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ผู้สื่อข่าวได้เข้าพูดคุยกับ นางแก้ม (นามสมมติ) ผู้เสียหาย โดยนางแก้มเล่าว่า ตนรู้จักกับร่างทรงดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2551 ร่างทรงจึงแนะนำให้ตนสวดมนต์ นั่งสมาธิ และปฏิบัติธรรม เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตของตน เมื่อลองปฏิบัติตามก็พบว่าชีวิตเริ่มดีขึ้น และด้วยความที่ร่างทรงมีลูกศิษย์มาก ตนจึงเชื่อใจร่างทรงมาตั้งแต่นั้น ปัญหาใหญ่ในชีวิตของตนมาเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วง 5 เดือนก่อน โดยสามีฝรั่งของตนป่วยเป็นโรคหัวใจ แม่ก็ล้มป่วยสุขภาพไม่ค่อยดี และพ่อของตนก็เสียชีวิตจากไปอีก ทั้งหมดนี้ทำให้ตนเครียดมาก จึงเข้าไปปรึกษากับร่างทรงและตกลงทำพิธีเปิดร่างเป็นเมียเทพ ตนรับทราบแค่ว่าระหว่างทำพิธีจะต้องถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด แต่ไม่คิดว่าจะมีอะไรนอกเหนือจากนั้น
           ในเวลาต่อมา ร่างทรงและภรรยา พร้อมลูกศิษย์อีก 2 คน ได้เดินทางมาหาตนที่บ้านใน จ.อุตรดิตถ์ เพื่อมารับตนไปทำพิธี ภรรยาร่างทรงออกอุบายให้ตนหลอกคนที่บ้านว่าจะนำรถไปเข้าศูนย์เพื่อเช็กสภาพ คนในบ้านจะได้ไม่สงสัย หลังจากนั้นร่างทรงก็พาตนไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง และสั่งให้ตนถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด ลงไปนอนบนเตียงแล้วหลับตา โดยภายในห้องได้ปิดไฟมืดทั้งห้อง

           ในระหว่างนั้น ร่างทรงกล่าวว่าตัวเองกินยาไวอากร้ามาแล้ว แต่อวัยวะเพศไม่แข็งตัว แล้วก็พูดถึงหลักพระพุทธศาสนา บอกว่านั่นคือความเป็นอสุภะ ซึ่งก็คือความไม่ยั่งยืนและร่วงโรยของร่างกาย นางแก้มกล่าวว่าตนยอมทนเพราะคิดว่าจะทำ ๆ ให้พิธีผ่านไป เมื่อร่างทรงเสร็จกิจแล้วก็นอนหลับไป ภรรยาและสาวกร่างทรงสั่งห้ามไม่ให้ตนลุกขึ้น บอกให้นอนรอไปก่อนเพราะว่าพิธียังไม่เสร็จ

           ร่างทรงงีบหลับไปได้ประมาณ 20 นาทีก็ตื่น แล้วขึ้นคร่อมบนร่างนางแก้มอีกครั้ง ภรรยาและสาวกได้จับแขนทั้ง 2 ข้างของนางแก้มเอาไว้ เพื่อไม่ให้ดิ้นรนได้ ขณะประกอบกิจ ร่างทรงก็สอนนางเอเรื่องอสุภะเหมือนเดิม บอกว่า "ร่างนี้ไม่ใช่ของมึง เป็นแค่ธาตุดินน้ำลมไฟ" ให้ตนทนและบอกว่าให้มีสติ ถ้าไม่ยอมเดี๋ยวจะต้องตายทั้งครอบครัว นางแก้มเล่าว่าตอนนั้นตนรู้สึกเจ็บมาก เพราะร่างทรงกระทำอย่างรุนแรง
           ตั้งแต่ตอนที่นางแก้มเข้าไปในห้อง และประกอบพิธีกรรมดังกล่าวจนเสร็จ กินเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง หลังจากร่างทรงเสร็จแล้ว ลูกศิษย์ของร่างทรงก็บอกนางแก้มว่า ใหม่ ๆ ก็เป็นแบบนี้ทุกคน เดี๋ยวก็ชิน ถ้าไม่หลอก จะยอมมาเหรอ แล้วก็หัวเราะ

           นางแก้มกล่าวว่าตนยกโทษและอโหสิกรรมให้ แต่ไม่อยากให้คนอื่นมาโดนแบบตนอีก ถ้ามีปัญหาอะไรในชีวิต ให้ปรึกษาคนใกล้ตัว ไม่ควรไปเชื่อร่างทรง

           ทั้งนี้ นางแก้มได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เดินทางไปยังโรงแรมที่เกิดเหตุ และไปชี้จุดที่ทำพิธี ภายในห้องเตียงคู่ หมายเลข 657 โดยพนักงานโรงแรม ระบุว่าวันเกิดเหตุผ่านมาประมาณ 1 เดือนแล้ว ไม่รู้ว่าพนักงานคนใดไปส่งกลุ่มดังกล่าวเข้าห้อง ปกติแล้วทางโรงแรมจะไม่รุกล้ำความเป็นส่วนตัวของแขกที่เข้าพัก จึงไม่ทราบว่ามีกิจกรรมอะไรเกิดขึ้นในห้องบ้าง อีกทั้งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประสานงานขอภาพวงจรปิดจากฝ่ายบุคคล จึงไม่มีภาพการตรวจเช็กพฤติกรรมของร่างทรงรายดังกล่าว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก