เสี่ยเอ สารภาพสิ้น ฉกเพชร 10 ล้านขายต่างชาติ ได้เงินมาครึ่งล้าน เอาเงินถลุงในบ่อนจนเกลี้ยง รับติดพนันหนักจนถึงขั้นกิจการล่มมาแล้ว
ล่าสุด (15 ธันวาคม 2561) ข่าวช่องวัน รายงานว่า หลังจากที่ชุดสืบสวนได้นำตัวนายภิพัศพงษ์พัศฐ์ มาสอบปากคำจนเสร็จสิ้น ก็ได้พาตัวนายภิพัศพงษ์พัศฐ์มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุ ก่อนจะควบคุมตัวไปฝากขังยังศาลอาญากรุงเทพใต้
โดยจากการสอบปากคำ นายภิพัศพงษ์พัศฐ์ยอมรับสารภาพ ว่าได้นำของกลางไปขายให้กับชาวต่างชาติในบ่อนพนันฝั่งกัมพูชาแล้ว ส่วนเงินที่ได้ก็นำไปเล่นพนันจนหมดเกลี้ยง
ขณะที่จากการสืบสวนยังพบว่า นายภิพัศพงษ์พัศฐ์มีการวางแผนมาอย่างดีก่อนเกิดเหตุ มีซิมโทรศัพท์มือถือจำนวนมากสำหรับติดต่อทีมงาน และรู้ว่าทางตำรวจจะไล่หาเส้นทางหลบหนีจากกล้องวงจรปิด จึงพยายามเปลี่ยนรถ จากที่นั่งมอเตอร์ไซค์หลบหนีก็เปลี่ยนไปต่อรถแท็กซี่ และมีการขับรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้ในพื้นที่ปทุมธานี หนีมายังจันทบุรี
จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา พบมีประวัติยุ่งเกี่ยวกับการพนัน และต้องโทษในคดีต่างๆจำนวนมากประมาณ 7 ถึง 8 คดี อาทิ ลักทรัพย์ ฉ้อโกง พร้อมยืนยัน ขณะนี้ชุดสืบสวนยังคงติดตามผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดี
นอกจากนี้ทีมข่าวช่องวัน ยังได้ข้อมูลจากชุดจับกุมด้วยว่า ที่นายภิพัศพงษ์พัศฐ์เลือกก่อเหตุเนื่องจากมีความรู้ด้านอัญมณีและเคยค้าขายเพชรมานาน อดีตเคยเป็นเจ้าของกิจการค้าอัญมณี มีฐานะร่ำรวยจนได้รับฉายาในวงการว่า เสี่ยเอ แต่ต่อมาติดการพนันอย่างหนัก ประกอบกับประสบปัญหาทางธุรกิจจึงต้องปิดกิจการ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ภาพจาก ข่าวช่องวัน
จากกรณีโจรแสบขโมยเพชร 10 กะรัต มูลค่า 10 ล้านบาท จากร้านขายอัญมณี ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจสามารถจับกุมตัว นายภิพัศพงษ์พัศฐ์ สุขสวัสดิ์พิพัฒน์ อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาได้แล้วที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองไทย-กัมพูชา จ.จันทบุรี ขณะผู้ต้องหากำลังจะหลบหนีออกนอกประเทศ แต่ยังไม่พบเพชร 10 กะรัต ของกลางนั้น [อ่านข่าว : ไม่รอด โจรแสบฉกเพชร 10 กะรัต เตรียมเผ่นออกเขมร ก่อนถูกรวบคาด่าน ตม.]
ล่าสุด (15 ธันวาคม 2561) ข่าวช่องวัน รายงานว่า หลังจากที่ชุดสืบสวนได้นำตัวนายภิพัศพงษ์พัศฐ์ มาสอบปากคำจนเสร็จสิ้น ก็ได้พาตัวนายภิพัศพงษ์พัศฐ์มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุ ก่อนจะควบคุมตัวไปฝากขังยังศาลอาญากรุงเทพใต้

ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ทั้งนี้ ก่อนวันเกิดเหตุทราบว่านายภิพัศพงษ์พัศฐ์มีเงินติดตัวอยู่ทั้งสิ้น 40,000 บาท โดยวางแผนนำเงิน 10,000 บาทมาเช่าร้าน และใช้อีก 20,000 บาท ติดตั้งระบบประตูล็อกอัตโนมัติ ส่วนที่เหลืออีก 10,000 บาท นำมาใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ ซึ่งแผนทั้งหมดมีนายภิพัศพงษ์พัศฐ์เป็นผู้วางแผนเอง และได้ว่าจ้างคนงานเข็นผักที่จันทบุรีมาเป็นคนขับรถพาหนี

ภาพจาก ข่าวช่องวัน
โดยหลังก่อเหตุ นายภิพัศพงษ์พัศฐ์ได้หลบหนีไปย่านวัดดวงแข และแยกย้ายกันไป จากนั้นได้นำเพชรไปขายให้กับชาวต่างชาติคนหนึ่งในราคา 550,000 บาท และนำเงินมาจ่ายเป็นค่าจ้างคนพาหลบหนี 100,000 บาท และเหลืออีก 400,000 บาท นำไปเล่นการพนันในบ่อนต่างประเทศ
ขณะที่จากการสืบสวนยังพบว่า นายภิพัศพงษ์พัศฐ์มีการวางแผนมาอย่างดีก่อนเกิดเหตุ มีซิมโทรศัพท์มือถือจำนวนมากสำหรับติดต่อทีมงาน และรู้ว่าทางตำรวจจะไล่หาเส้นทางหลบหนีจากกล้องวงจรปิด จึงพยายามเปลี่ยนรถ จากที่นั่งมอเตอร์ไซค์หลบหนีก็เปลี่ยนไปต่อรถแท็กซี่ และมีการขับรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้ในพื้นที่ปทุมธานี หนีมายังจันทบุรี

ภาพจาก ข่าวช่องวัน
นอกจากนี้ทีมข่าวช่องวัน ยังได้ข้อมูลจากชุดจับกุมด้วยว่า ที่นายภิพัศพงษ์พัศฐ์เลือกก่อเหตุเนื่องจากมีความรู้ด้านอัญมณีและเคยค้าขายเพชรมานาน อดีตเคยเป็นเจ้าของกิจการค้าอัญมณี มีฐานะร่ำรวยจนได้รับฉายาในวงการว่า เสี่ยเอ แต่ต่อมาติดการพนันอย่างหนัก ประกอบกับประสบปัญหาทางธุรกิจจึงต้องปิดกิจการ