2 คนร้าย ลวงวินมอเตอร์ไซค์ วัย 54 เข้าซอยเปลี่ยวใต้ทางด่วนอุดรรัถยา จ.ปทุมธานี จับล็อกคอกระหน่ำแทงดับ ก่อนขโมยรถหลบหนีลอยนวล
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2561 เวลา 23.30 น. พ.ต.ท. สุวัฒน์
โพธิ์รี สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต
ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เกิดเหตุรถจักรยานยนต์รับจ้างถูกฆ่าตาย
พร้อมชิงรถจักรยานยนต์หลบหนีไป เหตุเกิดบริเวณใต้ทางด่วน หมู่ที่ 1
ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พร้อมแพทย์เวร สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม
และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน
จังหวัดปทุมธานี
เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 คน จากการตรวจสอบพบว่า ถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่บริเวณด้านหน้าและลำตัว จำนวนกว่า 10 แห่ง พบเงินสดและเอกสารป้ายชื่อหน้าอก ระบุชื่อนายนพดล อมรสุขสันต์ หรือ หน่อง อายุ 54 ปี เป็นคนขี่จักรยานยนต์รับจ้าง (วิน 02 สะพานลอยหน้าวัดดอนเมือง เบอร์ 33) โดยถูก 2 คนร้ายลวงให้มาส่งในซอยเปลี่ยว แล้วลงมือฆ่าอย่างเลือดเย็น ก่อนจะชิงรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน-เทา ป้ายเหลือง หมายเลขทะเบียน 1กฉ-1315 กรุงเทพฯ ไปทางซอยร่วมสุข (บ้านพักคนชรา) ในตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า
ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงเอะอะโวยวายคล้ายคนมีเรื่องกัน
จึงมองผ่านช่องบานเกล็ดดู พบว่า มีชายจำนวน 2 คน คนหนึ่งใส่เสื้อสีดำแขนสั้น
อีกคนใส่เสื้อคลุมสีดำแขนยาว ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์รับจ้างมาในลักษณะซ้อน 3
ก่อนจอดรถตรงจุดเกิดเหตุ จากนั้นชายที่นั่งซ้อนกลางก็ลงจากรถมาปัสสาวะ
ก่อนที่คนซ้อนท้ายจะล็อกคอคนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง
โดยที่คนขี่ร้องขอชีวิตว่า "อย่าทำผมเลย" แต่คนร้ายไม่สนใจใช้อาวุธมีดจ้วงแทงคนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างไม่ยั้ง
และฟุบลง จากนั้นคนร้าย 2 คน ก็รีบขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายไป จึงรีบโทร. แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
และจากการที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า
คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางซอยร่วมสุข
ด้าน พ.ต.ท. สุวัฒน์ โพธิ์รี สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต เผยว่า เจ้าหน้าที่จะเร่งประสานขอดูกล้องวงจรปิดที่อยู่ในจุดเกิด พร้อมบันทึกภาพเก็บเอกสารพยานวัตถุไว้เป็นหลักฐาน และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเบื้องต้นทราบว่า มีคนร้ายจำนวน 2 คนจริง ได้ขี่รถออกจากที่เกิดเหตุไป แต่หลังเกิดเหตุไม่มีใครพบเห็นคนร้ายว่าหลบหนีไปทิศทางใดต่อ
พร้อมนำศพผู้ตายส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อชันสูตรการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง จากนั้นจะประสานญาติของผู้ตายมารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
