ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เชื่อเด็กชาย 2 ขวบที่หายในไร่อ้อย ไม่ได้อยู่ในไร่อ้อยแล้ว มุ่งประเด็นโดนลักพาตัว เผยมีพยานเห็นคนจูงมือไป ด้านพระครูบารวย เดินทางมาทำพิธีตามความเชื่อ พร้อมระบุ จะพบเด็กไม่เกิน 27 ธันวาคม นี้ ปัดตอบมีชีวิตหรือไม่
ภาพจาก ข่าวเวิร์คพอยท์
ความคืบหน้าการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของ ด.ช.ซูลุยผิว อายุ 2
ขวบ ลูกชายของแรงงานชาวพม่า ที่เดินหลงเข้าไปในป่าอ้อย ต.สระพังลาน
อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงชาวบ้าน
ยังคงช่วยกันระดมกำลังเข้าค้นหาหนูน้อยรายนี้กันอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด (25 ธันวาคม 2561) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า มีการนำเฮลิคอปเตอร์ของ ตชด. จำนวน 2 ลำ ขึ้นบินเปิดทางค้นหาในไร่อ้อยอย่างละเอียด พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 300 นาย ชุดประดาน้ำ รวมทั้งสุนัขตำรวจจำนวน 5 ตัว แต่ผลการตรวจค้นยังไร้วี่แวว
นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า ทุกฝ่ายร่วมกันค้นหาทุกตารางนิ้ว ตรวจคนซ้ำแล้วซ้ำอีก ภายในระยะ 1,000 ไร่ ส่วนของบ่อน้ำทั้ง 5 บ่อ จากการใช้นักประดาน้ำงมหา ใช้อุปกรณ์โซนาร์สแกน ก็ไม่เจออยู่ดี จึงสรุปได้ว่าทั้งพื้นที่ไร่อ้อยและบ่อน้ำไม่มีเด็กอย่างแน่นอน และเชื่อว่าเด็กไม่อยู่ในพื้นที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม
เพื่อความรอบคอบ ทางเจ้าหน้าที่จะปูพรมค้นหากันอีกครั้ง
จะได้สรุปสถานการณ์ให้ชัดเจนมากที่สุด
หากยังไม่พบอีกจะมุ่งประเด็นสำคัญไปที่เด็กโดนลักพาตัว เพราะมีเด็ก 3 ขวบ
เป็นพยาน บอกกับพ่อแม่เขาว่าเห็นคนจูงมือเด็กไป
ซึ่งเป็นหน้าที่ตำรวจต้องสืบสวน เนื่องจากเป็นคดีอาญาแล้ว ตอนนี้มุ่งเน้นเรื่องลักพาตัวมากกว่า แต่พยานเป็นเด็กแค่ 3 ขวบ
จึงต้องใช้เวลาในการแกะข้อมูลนำทางสู่การค้นหาต่อไป
ทั้งนี้ นางมอ
ได้นุ่งขาวห่มขาวเพื่อถือศีลตลอดระยะเวลาที่เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติภารกิจค้นหาลูกชายจนกว่าจะพบ
เพื่อให้ส่วนบุญส่วนกุศลได้ดลบันดาลให้พบลูกชายโดยเร็ว
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
นอกจากนี้ พระครูบารวย วัดป่าณฤมิตร (ถ้ำมังกรทอง) จ.นครราชสีมา ได้เดินทางมาทำพิธีในไร่อ้อยตามความเชื่อ หลังทำพิธีเสร็จก็บอกกับพ่อแม่เด็กว่า ไม่เกินวันที่ 27 ธันวาคม นี้ จะพบเด็กแน่นอน เมื่อพ่อแม่ของเด็กถามว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ทางพระครูบารวยไม่ได้ตอบแต่อย่างใด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้