กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุฯ วอนประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวลือแจ้งเตือน 9 จังหวัด อันดามัน-อ่าวไทย ระวังซ้ำรอยคลื่นยักษ์ถล่มอินโดนีเซีย ไม่เป็นความจริง ชี้ ลักษณะทางกายภาพทางทะเลของไทยและอินโดฯ แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง จึงมีความเสี่ยงน้อยมาก
ภาพจาก กรมอุตุนิยมวิทยา
วันที่ 26 ธันวาคม 2561 กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ทำหนังสือชี้แจงกรณีโลกออนไลน์มีการแชร์ข่าวเตือน 9 จังหวัด แถบทะเลอันดามันและอ่าวไทย ได้แก่ จ.ระนอง, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง, สตูล, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช และ จ.ชุมพร มีโอกาสจะเกิดคลื่นยักษ์คร่าชีวิตโดยไม่รู้ตัว เช่นเดียวกับที่เกิดในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา จนสร้างความตื่นตระหนกและสับสนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ชี้แจงว่า แนวภูเขาไฟที่มีอยู่บริเวณทะเลอันดามัน แตกต่างกันทั้งด้านลักษณะทางกายภาพ ระยะทางของแหล่งกำเนิดถึงชายฝั่ง ความลึกและลักษณะของท้องทะเลและขอบของชายฝั่งที่ลึกกว่า ตลอดจนพฤติกรรมของการเกิดภูเขาไฟที่เกิดน้อยกว่า ซึ่งแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง จึงไม่สามารถเทียบเคียงบริบทกับเหตุการณ์คลื่นสึนามิที่ประเทศอินโดนีเซียได้ ดังนั้นประเทศไทยจึงมีความเสี่ยงและผลกระทบน้อยกว่าที่จะเกิดภัยพิบัติในลักษณะนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 2547 รัฐบาลไทยได้ลงทุนและพัฒนาระบบการตรวจวัดแผ่นดินไหวให้มีศักยภาพและมีความรวดเร็วมากขึ้น จึงอยากขอความร่วมมือประชาชนอย่างหลงเชื่อข่าวดังกล่าว โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลและติดตามข่าวสารจากเว็บไซต์ของกรมอุตุนิยมวิทยา หรือสายด่วน 1182 และหมายเลขโทรศัพท์ 02-399-4547 ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก กรมอุตุนิยมวิทยา
ภาพจาก กรมอุตุนิยมวิทยา
วันที่ 26 ธันวาคม 2561 กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ทำหนังสือชี้แจงกรณีโลกออนไลน์มีการแชร์ข่าวเตือน 9 จังหวัด แถบทะเลอันดามันและอ่าวไทย ได้แก่ จ.ระนอง, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง, สตูล, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช และ จ.ชุมพร มีโอกาสจะเกิดคลื่นยักษ์คร่าชีวิตโดยไม่รู้ตัว เช่นเดียวกับที่เกิดในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา จนสร้างความตื่นตระหนกและสับสนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ชี้แจงว่า แนวภูเขาไฟที่มีอยู่บริเวณทะเลอันดามัน แตกต่างกันทั้งด้านลักษณะทางกายภาพ ระยะทางของแหล่งกำเนิดถึงชายฝั่ง ความลึกและลักษณะของท้องทะเลและขอบของชายฝั่งที่ลึกกว่า ตลอดจนพฤติกรรมของการเกิดภูเขาไฟที่เกิดน้อยกว่า ซึ่งแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง จึงไม่สามารถเทียบเคียงบริบทกับเหตุการณ์คลื่นสึนามิที่ประเทศอินโดนีเซียได้ ดังนั้นประเทศไทยจึงมีความเสี่ยงและผลกระทบน้อยกว่าที่จะเกิดภัยพิบัติในลักษณะนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 2547 รัฐบาลไทยได้ลงทุนและพัฒนาระบบการตรวจวัดแผ่นดินไหวให้มีศักยภาพและมีความรวดเร็วมากขึ้น จึงอยากขอความร่วมมือประชาชนอย่างหลงเชื่อข่าวดังกล่าว โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลและติดตามข่าวสารจากเว็บไซต์ของกรมอุตุนิยมวิทยา หรือสายด่วน 1182 และหมายเลขโทรศัพท์ 02-399-4547 ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก กรมอุตุนิยมวิทยา